Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
215 | 20082456

Geoje Island #1 - Hill of Wind where the Fresh Sea Breeze Blows, Geoje Haegeum River Cruise Ship Tour, Oedo Bonania - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
Last Modified : 2017/04/10

Travel regions : South Korea
 | Hits : 548182
https://blog.lookandwalk.com/en/blog/mazinguide/1748/trackback

ทัวร์ทางทะเลเมือง ฮัลรยอซูโดน้ำ 1 คืน 2 วันใน (เกาะ) กอเจ.


ทางน้ำ ฮัลรยอซูโด อ้างถึงทางน้ำไหลที่เชื่อมต่อ เกาะ ฮันซันโด ของ กอเจโดและ ยอซู. มีเกาะมากมายในทางน้ำไหลนี้และ กอเจโด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด และใหญ่ที่สุดถัดจากเกาะเชจูในหมู่เกาะทางตอนใต้.แต่ถ้าคุณวางแผนการเดินทางของคุณแบบผ่อนคลาย ชิวๆเพราะมันเป็นเกาะที่คุณอาจจะต้อง ใช้เวลาทั้งวันบนเส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยวแห่งนี้.เพราะมันเป็นเกาะที่ใหญ่ เพราะฉะนั้น คุณควรหาข้อมูลก่อนนะครับ.ผมเองก็ยัง ไม่แน่ใจว่า จะแน่นำคุณได้ทั่วเกาะ ได้มากน้อยแค่ไหน.แต่ผมหวังว่าผมจะให้เป็นประโยชน์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ดังนั้นเราจะมาเริ่มต้นกันเลย ไหมครับ.



ทะเลสายลมพัดสดชื่น ลมแห่งเนินเขา


สถานที่แรกที่ผมจะแสดงให้คุณใน Geoje เป็นเนินลมในหมู่บ้านชาวประมงใน Dojangpo นี้เป็นชื่อเพราะมีลมพัดอันสดชื่น อยู่ตลอด สี่ฤดูกาล และผมเดิมพันว่าถ้าคุณเดินทางมาที่ Geoje คุณไม่ควรที่จะลืมแวะจอดที่สถานที่แห่งนี้เพราะมีเรือ Haegeumgang หรือ Oedoขาออกจาก Dojangpo .เรือ Haegeumgang หรือ Oedoออกเดินทางเที่ยวละเกือบทุกชั่วโมง ถ้าคุณกลัวพลาด. เพียงคุณจองเรือลำต่อไปเท่านั้นครับ และใช้เวลาดูชมรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ ,หากคุณได้ไป Oedo เป็นที่แรกแล้วออกมา ขาคุณอาจจะเจ็บจากการเดินชม และคุณ อาจจะหิว เช่นนั้น คุณไม่ต้องดูที่นี้ก็ได้ครับ.



ถ้าคุณ ขับรถ ประมาณ 30นาที ตามทางหลวงแห่งชาติไปทางทิศใต้จากสะพาน Geoje คุณจะเห็นหมู่บ้าน ที่ยื่นออกมาหมู่บ้านชาวประมง Dojangpo, ด้านซ้ายของแม่น้ำ Haegeum และเนินเขาของลมบนยอดเขา.สถานที่ ที่ใช้นี้จะถูก เรียกตีกา ที่หมายถึงเนินเขาที่ปกคลุมเป็นวง แต่มันถูกเปลี่ยนชื่อในปี 2002 ว่าตีพัทนึล ครับ.




7-8ปีที่ผ่านมาครับ. ในหมู่บ้านชาวประมง ที่ดูเงียบสงบ แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย.แต่ตอนนี้ คุณจะได้พบบรรดาเหล่าคุณยาย ที่ขายของตามบนชายหาด และ ร้านกาแฟเฟรนไชน์ ซึ่งที่จริงแล้ว ก็กลายเป็นว่า ที่นี้ เป็น สถานที่ท่องเที่ยวไปโดยปริยายครับ. ผมก็แค่ ได้ซื้อ ข้าวโพดที่คุณยายที่มีริ้วรอยที่ขาย หอยใส่ในถังเป็นคู่คู่.ราคาไม่กี่พันวอน ถ้าได้ลองลิ้มรสชาติ ผมก็มีความสุขแล้วครับ.




โอว์ ! นั้น ประตูทางเข้าสู่บันได ไปถึงเนินเขา, ที่นั้นมันทีบางอย่าง ที่ผม ไม่เคยเห็นมาก่อน.มันเป็น ร้านขายกาแฟ และเครื่องดื่มและ ไส้กรอก.




ช่วงนี้ ผมดูว่า น่าจะเป็นอะไรที่นิยม ในหมู่นักท่องเที่ยวนะครับ ผมก็เลยไม่ได้ แนะนำอะไรมาก .ส่วนตัวผมเองก้ได้ ลองกินมันดูเหมือนกันครับ. นี้คือ ร้าน Hotdog of Wind'ราคา เพียง 2500วอน.




ซึ่งแตกต่างจากฮอทดอกปกติ ,มันมีแฮมนุ่มสองชิ้นด้วยครับ.ข้างในเป็นแป้งเหนียวนุ่มและมีรสเค็มอย่างลงตัว ผงแป้งสีขาวที่โรยอยู่ข้างบนไม่ใช่น้ำตาลนะครับ แต่เป็นผงน้ำตาลมะพร้าว .มันอร่อยมากครับ คุณจะต้องกินอาหารทันที ลองแค่หนึ่งอันก็พอครับ เพื่อ รสชาติ ^^ *





แล้วเราก็เดินขึ้นไปอีกนดิหน่อย , เราก็จะได้เห็น เนินเขา ที่มีลมพัดเย็น .มันเป็นเหมือน ลมที่กำลัง ต้อนรับ ฤดูหนาว แต่ ด้วยมีหญ้า สีเขียว อยู่ มันก็เลยทำให้ รู้สึก อบอุ่นมากกว่าครับ.




ภายใต้ก้อนเมฆ มีกังหันลม ที่ตั้งอยู่ครับ, มันดูเหมือน ผ้าห่ม ที่ปล่อยลมมากระทบเบาๆ .ที่ดูเหมือนว่า ที่นี้ มีลมพัดอยู่.




วันนี้ก็เหมือนกันครับ ,จากบนเนินเขาไม่ค่อยมีลมทะเลพัดขึ้นมา. แล้วตรงโน้น !ก็มีเรือ ดูเหมือนว่า กำลังกลับมาจากHaegeumgang และ Oedo .




วันที่ผมเข้าเยี่ยมชมเป็นวันหยุดประจำชาติครับ จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากในประเทศ. ดุทุกคนมีความสุขครับในด้านหน้าของกังหันลม การถ่ายภาพเพื่อบันทึกความทรงจำ. มีผู้คนจำนวนมากที่มีการติดไม้ selfie บางทีผมควรจะซื้อสักหนึ่งอันที่จะถ่ายรูปผมเองได้บ้างครับ ^^ *




ผมรู้สึกดีใจ และ สดชื่น เมื่อไหร่ก็ตามที่ผม ได้มาเยือนที่นี้ พร้อมกับวิวทัศนียภาพ ของทะเลที่สดใส.ละครโทรทัศน์ ที่ชื่อ และได้มาถ่ายทำที่นี้ครับ , แล้วมันก็ มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อรายการ 1 Night and 2 Days'. ที่ออกทางช่อง เคบีเอส ครับ.




เมื่อได้มองลงไปที่ข้างล่าง เป็นสถานที่ จอดเรือพักเรือครับ.ที่นั้นมีพื้นที่จอดรถที่เพียงพอครับ .แต่ถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่พอแน่นอนครับ. คุณอาจจะคิดอยู่ตรงกลางนานกว่า หนึ่งชั่วโมงครับ.

ถ้าหากผม จะบอกเคล็ดลับ การจอดรถ ในวันหยุดสุดสัปดาห์แก่คุณ. นั้นงัยครับ รูปในรูปภาพคุณเห็นมั้ยครับ ที่ตรงนั้น มีรถจอด รอบๆเนินเขา ที่เส้นสีขาว บนถนน มีช่องว่าพื้นที่จอดรถได้ .คุณเพียงแค่จอดรถของคุณมีที่จะไม่รบกวนการจราจรและเดินประมาณ 100 เมตรเพื่อให้คุณจะไม่ได้รับความเครียด โปรดจำไว้นะครับ!




ข้างหลังของกังหันลม มี ทางเดินขึ้นไป ที่หอดูดาว หรือ ศาลา . ที่นี้ มีลมแรงอยู่ตลอดเวลาเพราะว่า ล้อมรอบ ไปด้วยต้นไม้ เต็มไปหมดครับทั้งสูงทั้งต่ำลิ่วลม.รอบๆเส้นทาง เป็นที่อาศัย ของต้นดอกคามิเลียและยังมี ดอกคามีเลียสีแดง ที่จะเบ่งบานเต็มที่ในช่วงฤดูหนาว.




เดินขึ้นไปอีก 5นาที ก็จะไปถึง อุโมงค์ ที่ถูกคลุมไปด้วยต้นคามีเลีย เพื่อไปสัมผัส สายลมได้เป็นเวลานานครับ.และคุณก็จะได้เห็น หอดูดาว หรือ ศาลาครับ.





บางครั้ง เมื่อเรา มีช่วงเวลา ที่ลำบาก และเหนื่อยของชีวิต.แล้วเราต้องการ ความอบอุ่น ด้วยความสวยงามของทัศนียภาพ และผมคิดว่า สายลมของเนินเขาที่นั้นแหละ ที่เหมาะสม .ต้องมีใครสักคนแหละครับ ที่อาจจะไม่โอเคนัก ที่จะชมวิว ท่ามกลาง ผู้คนจำนวนมาก แต่ คุณแค่ขึ้นไปอีกนิดหน่อย แล้วคุณจะได้ เห็นภาพวิวทิวทัศน์ ที่มำให้คุณ รู้สึกสบายผ่อนคลาย และ อบอุ่นครับ.





จริงๆผมชอบทะเลที่เย็นและกว้างที่นี่ ข้ามมหาสมุทรที่อยู่ห่างไกลคุณจะเห็นที่มีชื่อเสียง Hakdong Mongdol บีช ผมจะโชว์ให้คุณดูรอบๆ ชายหาดเร็ว ๆ นี้




เดินหน้าต่อไปทางขวาของเนินเขา, Geoje Haegeum แม่น้ำแพร่ขยายออกไป มันจะมีหมอกนิดหน่อยผมจึงไม่สามารถเห็นวิวที่ชัดเจนได้ครับ. แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำลายวันขอผม หากคุณต้องการที่จะรู้สึกเย็น .แน่นอนคุณควรจะอยู่ที่นี่!




ผมไม่ทราบเหมือนกันครับว่า ทำไมลมมันได้แรงขนาดนนี้ แต่มันพัดตลอดเวลา มาจากที่ทะเล.สำหรับคนที่มาจากเมืองหายใจไม่ออกที่คุณไม่สามารถแม้แต่จะหายใจลึก ๆ สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนสวรรค์ ให้คุณได้เปิดปากของคุณและใช้เวลาหายใจลึกๆของทะเล คุณจะกำจัดความเครียดจากการทำงานหรือจากโรงเรียนครับ.



+ ที่อยู่ : ซัน 14-47, คัลกด-รี , นัมบุ-มยอน , กอเจ, กยองซันนัมโด

+เบอร์โทรศัพท์ : 055-639-3399

+ไม่มีวันหยุด , ที่จอดรถฟรี , ไม่เสียค่าเข้าชม

Map



Geoje Haegeumgang เรือล่องทะเลทัวร์ ชมภูเขา


เมื่อหลังจากที่คุณได้ไปชมลัรับลมบนเนินเขาแล้ว , แล้วตอนนี้ ได้เวลา จะไปที่ท่าเรือ โดจางโพกันรึยังครับ?แม่น้ำ Geoje Haegeum Geoje Haegeum มีคุณค่าอย่างมากสำหรับใช้การดูแลรักษาระบบนิเวศ และ ชื่อเดิมคือ Galdo (葛島เกาะคุดสุ) เพราะดูเหมือนว่ารากของของเกาะคุดสุแพร่กระจายออกไป ลึกถึง 0.1㎢ x 116m (สูง) เกาะเล็ก ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่แตกต่างออกไปโดยมีคลื่นลม พัดสาดใส่อยู่ตลอดเวลามานับร้อยปีและมันถูกกำหนดให้เป็นจุดชมวิวที่ 2 ในปี 1971 FYI, จุดชมวิวที่ 1 เป็น แม่น้ำSeguem อุทยานโอแดซานแห่งชาติ ในจังหวัด คังรึง




ค่าธรรมเนียมสำหรับการล่องเรือไป Haegeum และ Oedo ดังกล่าวข้างต้นครับ. ,มันราคาแพงนิดหน่อยครับ แต่ ขาออกจาก โดจางโพราคาถูกกว่า ขาออก จากที่ ชังซึงโพ หรือ กูโชราครับ. แล้วก็ เรือ ไม่ได้ออก ตลอดเวลานะครับ. มันจะช้านิดหน่อย หรือ ออกก่อนหน้านี้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร .ดังนั้นคุณควรยืนยันการเดินทางอย่างแน่นอน และเวลาในขณะที่คุณจองตั๋ว โดยปกติการล่องเรือออกเดินทางชั่วโมงละเที่ยว.




มีแบบ 2รายการ ให้คุณ ได้เลือก Geoje Haegeum River, ไปถึงที่ Oedo Botania, และ ได้กลับไปถึง Dojangpo ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงและอีก 10 นาทีในทันทีที่เริ่ม.




คุณลงชื่อของคุณ ที่ตั๋วเรือ และคุณเห็นมั้ยครับ คูปองส่วนลด 3,000วอน?แต่เราเป็นคนเดียวที่ใช้มันครับ ดูเหมือนคนจะไม่รู้ว่า มีคูปอง. และลูกจ้างกล่าวว่ามีไม่กี่คนที่ใช้มัน . คุณสามารถพิมพ์คูปองจากเว็บไซต์ของเรือ Dojangpo ☞อันนี้ครับ click




จั้นจาน~~นี้คือตั๋วที่ซื้อ โดย ใช้ ส่วนลด 3000วอน เราสามารถเซพเงิน ได้ถึง 6,000 วอน เลยครับ .โอว์! แล้วอีกอย่างครับ ถ้าคุรเป็นคนที่กอเจ คุณ ก็สามารถที่จับส่วนลด 3000วอน หรือ ลด 50%ได้ครับ.ซึ่งมัน คือ 4,000 วอน ถึง Oedo. แต่ถ้าคุณไม่ได้รับส่วนลด จาก Oedo ที่นี้.แต่คุณควรจะไปที่สำนักงานบนเกาะ Oedo เพื่อให้พวกเขาจะคืนเงินให้ในรูปของเงินสด ผมขอแนะนำคุณ เมื่อคุณ มา เกาะ Oedo อีก ภายหลัง.





มันเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นครับ ผมได้ขึ้นเรือ หมายเลข 3ชื่อว่าเรือ บาดายอฮอง(ท่องทะเล).




ผมคิดว่า ถ้าเป็น วันหยุดแห่งชาติ คงมีไม่กี่คน ที่มาเที่ยวที่นี้ แต่ ผม คิดผิด ครั้งใหญ่ กับเวลาตอนนี้ .มีผู้คนจำนวนมากที่เดินทางในช่วงวันหยุดแห่งชาติแทนที่จะไปบ้านเกิด! และแน่นอนครับมีชาวต่างชาติ , ดังนั้นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน ผมเองเป็นหนึ่งในพวกเขา ^^ * โดยปกติก็ไม่แออัดเป็นแบบนี้หรอกครับ.




แต่ไม่เป็นไรครับ ,พอเรือเริ่มออก ก็จะมีไกด์ให้คำแนะนำ และเสนอ.มันจะดีมากครับ ถ้าได้ขึ้นเรือ2ชั้น แต่ผม ได้ขึ้นเรือ ชั้นเดียว.ก็เลยได้นั่งดูนั่งฟังอยู่แต่ข้างในครับ.




สถานที่แรกเลยที่เราจอดกัน คือ โขดหินสิงโตที่ใช้ชื่อสิงโตภายหลัง เพราะว่า มันมีลักษณะเหมือนกับ สิงโตครับ.เริ่มจาก โขดหินนี้ แล้วเรือ ก็เริม ไปสำรวจรอบๆเกาะต่อครับ และกลับมาที่นี้ อีกครั้ง.




สมุนไพรที่มีคุณค่ามีการเจริญเติบโตอยู่บนเกาะใน Haegeumgang และเกาะแห่งนี้จะถูกเรียกว่า Yakchoseom( (เกาะสมุนไพร) เนื่องจากคนที่มาที่นี้จะได้รับสมุนไพรสำหรับชีวิตนิรันดร์สำหรับจิ๋นซีฮ่องเต้ .เกาะหินที่มีชั้นที่แตกต่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลายาวนาน และมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม.




ตอนที่ผมผ่านไปเกาะโดยนั่งอยู่บนเรือนี้มันทำใหผมรู้สึกเหมือน ผมกำลังดูเห็นอ่าวพังงาในภูเก็ต แต่ก็มีขนาดเล็กกว่าและดูสง่างามมากกว่า.




รอแปป นะครับ ! กำลังมีเรือใหญ่ เคลื่อนตัวกลับมาทาง โขดหิน ! โอว์ , ผมเกรงว่า พวกเราไปนั่งข้างไหน จะดีกว่าครับ.มันเรียกว่า Sipja Donggul (ถ้ำกางเขน) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ หนึ่งเดือน ต่อหนึ่งปี.มันเป็นเพราะว่าเรือไม่สามารถ ฝ่าคลื่นทะเลที่แรง เข้าไปในถำได้ครับ.แต่วันนั้น คลื่นข่อนข้างอ่อน เราก็เลยสามารถเข้าไปข้างในได้ ก่อนที่คลื่นใหญ่จะมา.




ผมประเมินว่า แม่น้ำ แฮกึม สถานที่แห่งนี้.ถ้ำแคบ ๆ แปลกๆที่ถูกล้อมรอบด้วยโขดหินที่ หน้าตาแปลกๆและถ้ำไม้กางเขน ที่ มีจุดสิ้นสุดของเส้นทางที่มีเราสัมผัสมัน เพียงในเวลาที่น้ำลงเท่านั้นครับ เป็นอะไรที่เหลือเชื่อ ผู้โดยสารทุกคนตะลึงที่จะทัศนียภาพ แบบนั้น.




โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่, คุณจะเห็นได้ว่าทำไม ที่นี้เค้าถึงเรียกกันว่า “ ถ้ำกางเขน” เมื่อคุณมองขึ้นท้องฟ้า บนเพดานถ้ำ มันจะเป็นรูปกากบาทซึ่งจะสอดคล้องกับคลื่นสีฟ้าในทะเล. ผมเกรงว่าความจริงที่ว่าคุณสามารถดูสิ่งนี้ได้ แค่อีกไม่กี่วัน ต่อปี มันจะยิ่งทำให้ นักท่องเที่ยวที่พลาด ได้มาดู ผิดหวังมากขึ้นสิครับ




ถ้ำที่จมน้ำและมีน้ำท่วมอยู่ คุณจะสามารถมองเห็นมันได้ในเวลาที่น้ำลงครับ ในวันที่มีคลื่นอ่อนๆ ผมอยากจะไปที่นั่นในโดยเรือเล็ก. ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ใกล้ทะเลตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก และผมยังเคยอยู่ในบนเรือลำเล็ก ๆ กลางทะเล. บนเรือลำเล็ก ๆ อยู่กลางนั้น อย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ยังมีความกลัวและความวิตกกังวลอยู่ครับ. แต่เมื่อเวลามันผ่านไปมันจะกลายเป็นความสงบและมีความสุข ที่เกิดขึ้น ในหลายทศวรรษที่ผ่านมาครับ.




ผมพูดมากเกินไปอย่างนั้นหรอครับ ? ถ้าคุณเคยไปถ้ำแห่งนี้เมื่อคุณอยู่บนเรือ,คุณจะพูดคุยและตบมือตอนที่เห็น ความงามและความแปลกของถ้ำ .ผมแค่เสียใจว่า ผมไม่สามารถแสดงให้คุณเห็นได้ว่า ถ้ำแต่ละถ้ำ มีลักษณะเหมือนอะไรบ้าง และในถ้ำมันเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม. มันไม่ใช่ภาพที่ยอดเยี่ยม หรอครับ. ^^ *




นี้เป็นที่ทางตอนเหนือของเกาะที่เรียกว่า Chordae (เชิงเทียน) โขดหิน .และทางนั้น เป็นทิศตะวันตกและเมื่อดวงอาทิตย์ตกมันจะมีลักษณะเหมือนไฟบนเชิงเทียน อยู่บนโขดหิน . ผมรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ให้บริการเรือล่องเรือรอบเวลาเดียวกับพระอาทิตย์ตกหรอกครับ. แต่ถ้าผมจะเป็นหนึ่งคนแรกที่เห็นบนเรือละครับ!




ผมคิดว่า วันนั้นเป็นวันโชคดีของผมครับ. ผมได้พบกับโรงเรียนปลาโลมาที่หาดูได้ยาก. เพื่อที่คุณจะสามารถดูได้ ไม่กี่ครั้ง ต่อปี พวกมันจะออกสีฟ้าๆ และ เรือก็โยกไปมา ดังนั้นผมจึงไม่สามารถถ่ายภาพ , ผมทันถ่ายภาพได้แค่เพียงด้านหลัง.ได้แค่สองภาพครับ.แต่ผมได้เห็นโลมาเป็นฝูง.




และที่นี้เป็นทางตอนเหนือของแม่น้ำ Haegeun และที่ตรงนั้นเป็น เกาะGeoje. ส่วนสถานที่ที่อยู่ด้านบนสุด ที่เรียกว่า Ujebong ที่ที่คุณสามารถดูวิวทิวทัศน์ทั้งแม่น้ำ Haegeum ได้ครับ. มันก็มีโซนภาพที่สวยงามและดูเป็นที่น่าอัศจรรย์ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้ใช้โปรแกรมล่องเรือ , ผมแนะนำให้คุณไปที่นั่นครับ.




ตอนี้กำลังกลับไปยัง เกาะครับ, เรากำลังมุ่งหน้า ไปยังเกาะ Oedo. ซึ่งหน้าผา ที่แตกต่าง ด้วยคลื่นที่พัดสาสข้างหลังเกาะที่อ่อนโยน




ดูโขดหินตรงนั้น เหมือนมันกำลัง จะตกออกมาจากเกาะ.




ถ้าได้ดูใกล้ๆ ก็บางมุมก็เหมือนคนครับ......




ถ้าคุณดูข้างบนสุด ของโขดหิน, มันเหมือยผู้หญิง ใส่กระโปรงสั้น กำลังนั่งเล่น ลูบผม ของเธออยู่.โขดหินนี้ก็เหมือนนางฟ้า กำลังอฐิษฐานขอพรอยู่.มันจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ แล้วมันก็ถูกพัดหายไปโดยคลื่น อย่างงั้นหรอครับ?




และแล้วตอนนี้เราก็ได้กลับมาที่โขดหินแรก คือ โขดหินสิงโต.พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดินในระหว่างที่ผ่านโขดหินสิงโต มาน่าทึ่งมากครับ.คุณรู้จัก โอเมก้า มั้ยครับ.นี้คือจุดสำหรับการถ่ายภาพสำหรับโอเมก้า.มันไม่ใช่บนเรือแน่นอนครับ, คุณจะต้องใช้เลนส์เทเลโฟโต้รอบ Haegeum ศูนย์ข้อมูล บน เกาะGeoje . ต่อไปฉันจะโชว์ให้คุณได้เห็น รอบเกาะOedo.



+ค่าธรรมเนียมและข้อมูล ที่โดชังโพ

+โดชังโพ→แฮกึมคัง เกาะแฮกึม→เกาะเอโด→โดชังโพ , ผู้ใหญ่ : 24,000วอน( ท่องเรือ 16,000วอน +ค่าทางเข้า เอโด 8,000วอน)

+ถ้าเป็นคูปองที่ดาวน์โหลด มาจากเว็บไซท์ , คุณจะรับส่วนลด 3,000วอนหนึ่งส่วนลด ต่อ หนึ่งคน .

+เวลา : 2ชั่วโมง และอีก 10นาที ( แฮกึม 40นาที + เอโด ประมาณ 1.ชั่วโมง30นาที)

+ กรุณายืนยันการจองของคุณเพราะคุณอาจจะไม่สามารถที่จะเดินทางไป Haegeumggang หรือ Oedo ตามสภาพอากาศ

+ที่อยู่ : 292-6 , คัลกด-รี , นัมบู มยอน , กอเจ , จังหวัด คยองซังนัม

+เบอร์โทรศัพท์ : 055-632-8787-8



เกาะโดดเดี่ยว
Oedo (外島) Bonania




Oedo ตั้งอยู่เกาะเดียว เดี่ยวๆในทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของ
Geojedo. เป็นสถานที่ที่คุณไม่สามารถข้ามไปได้. ในการเดินทางของคุณไปยัง
Geoje ต้องไปทางบนเรือที่จะได้รับไปยังเกาะและคุณจะเห็น
44,000 ตร.เมตร ด้วยสวนที่ตกแต่งด้วยดอกคาเมเลียป่าธรรมชาติและพืชเขตร้อนรวมทั้งแคคตัสต่างๆ
,ต้นปาล์ม, Gazania และแสงแดด
.ทั้งหมดกว่า 3,000 ชนิดของต้นไม้


ถ้าใครที่เคยมาที่ มักจะกลับไปที่เกาะ ที่สวยงามนั้นเสมอ และ มีบ้านมุงหลังคาเพียงไม่กี่หลัง ก่อนที่ ลีชางโฮ และ ชเว โฮซุก.ทั้งคู่บังเอิญพบสถานที่แห่งนี้ในปี 1969 ซื้อเกาะทั้งหมดภายในสามปี และได้ตกแต่งทั้งเกาะนานกว่า 30 ปี .จนถึงตอนนี้มันเปลี่ยนนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นประจำทุกปี.




ถ้าคุณจะเสร็จสิ้นจากด้วยเนินเขาของลมและ แม่น้ำHaegeum. ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะไปเกาะ Oedoกันแล้วครับ ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่เกาะเดียว นอก Geoje คุณสามารถไปเรือเป็นเวลา 2 ชั่วโมงและ 10 นาทีที่ท่าเรือ Dojangpo และเส้นทางหมายเลข 3 ซึ่งไม่ได้หยุดอยู่ที่แม่น้ำ Haegeum. แต่ถ้าหาก มีสถานการณ์ มันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ แต่ส่วนใหญ่คุณสามารถเลือกโปรแกรมที่แน่นอน อันที่ 2 สำหรับชม รอบๆ แม่น้ำHaegeum (ค่าเรือ16,000 วอน ) พร้อม Oedo (ค่าแรกเข้า 8,000 วอน )ครับ




แล้วก็หลังจาก ที่เราได้ทัวร์ ที่แม่น้ำ แฮกึมได้ 30นาที ,เราก็กำลังเข้าถึงสู่เอโด .คุณมีเวลาจำกัด ณ ที่ตรงนี้ นะครับ เพราะว่า เรื่อจะล่อง ไปกลับ ใช้เวลา ประมาณ 1ชั่วโมง 30นาที.แต่ถ้าหากคุณ นั่งเรือ ผิด . คุณ อาจจะไป จบที่เส้นทาง ไป ชังซังโพ หรือ กุโชรา , หรือ ถ้าหาก คุณ อยากจะกลับ ออกมาตรงถนน หรือ ที่จอดรถของคุณ หรือ ด้วย เหตุผล ใดๆก็ตาม,คุณต้องรออย่างน้อย 1ชั่วโมงกว่า ๆจนกว่า จะมีเรือมา , แต่อย่างนั้น คุณควรจะอยู่บนเรือ เดิม ดีที่สุดครับ เพื่อ หลีกเลี่ยงปัญหา ครับ.




ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการ ถ่ายรูป ทันทีที่เท้าของพวกเข้า ก้าวเขาไปบนเกาะ เหมือนกับเกาะ เจจูเลยครับ, กอเจ มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เพิ่มขึ้นมาก .มันเป็น ข่าวดีครับ.





ในระหว่างช่วงวันหนุดใน เทศกาล ชูซอก บนเกาะเต็มไปด้วยผู้คน . ยามได้บอกกับผมว่า ปกติ คนไม่เยอะ อย่างนี้ .ผมคิดว่า ผมคงดูวันผิดไปแต่ จะให้ผม ทำยังไงละครับ ? ในเมื่อผมมาแล้ว ผมก็ต้องดูให้ทั่วสิ ใช่มั้ยครับ?




ผมแปลกใจกับกสร ปลูกต้นไม้แบบนี้ .มันไม่ใช่ แบบเกาหลี, มันเป็นเหมือนสวน โบทานิค ในประเทศ สิงคโปร์ หรือ สวนที่ไหนสักแห่ง ในภาคเอเซียตะวันออกครับ.




มีความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ที่ และน่าสนใจ ที่มีลักษณะเหมือนพ่อ Smurf กับหมี . ผมรู้สึกว่าทุกที่ , ทุกอย่างที่นี่ได้รับการดูแลด้วยความจริงใจ.




ที่นี้เป็นสวน Coccus ครับ.เมื่อไรก็ตามที่คุณ เซตสายตาของคุณ เพื่อ เตรียมที่จะพบ กับสิ่งที่สวยงามที่ถูกสร้างมาด้วยความรัก .มันต้องใช้เวลาดู้กือบ ชั่วโมง กับสถานที่แห่งนี้ .และเมือเวลาผ่านไป คุณภาพจะยังคงตราตรึงอยู่ในใจคุณ.




ถนนไม้เลื้อยยาวสวย แล ะต้นปาล์มมีความแปลกใหม่.




ปีกแห่งชัยชนะของ Samothrace แสดงในพิพิธภัณฑ์สถานลูฟร์ยังเป็นที่นี่ครับ. แน่นอนครับ มันไม่ใช่ของจริง .มันเป็น ศิลปะ หนึ่งชิ้น ที่แสดงให้เห็นความมีชื่อเสียง ในโลก และเป็นเพียงอันเดียวที่มีโชว์อยู่ ที่ รอบๆ สวน วีนัส .และที่ตรงนั้น ทีผู้คนกำลัง ถ่ายรูป.




เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณ ที่คุณได้ไป ดวงตาของคุณจะได้เชยชมกับดอกไม้ที่สวยงาม. ในฤดูหนาว, ดอกเดียวที่คุณสามารถดูได้เป็นดอกคาเมเลีย แต่นอกเหนือจากฤดูหนาวแล้ว , คุณยังจะได้เห็นดอกไม้ที่สวยงามในแต่ละฤดูกาลอีกด้วยครับ.




ท่ามกลางดอกไม้เหล่านี้ ผม ไม่สามารถละทิ้ง สายตา ของ ผมได้เลยครับ.




ผมขึ้นไปที่สวน วีนัส .นี้เคยเป็นสนามเด็กเล่นของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง. แต่ก็สร้างขึ้นมาใหม่ บนที่ดินเดียวกัน ของบ้านหลังสวน (后庭) เอารูปแบบของพระราชวังบักกิ้งแฮม เป็นบรรทัดฐาน ผมเดาว่านี้เป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Oedo Botania.




รูปปั้นวีนัส ถูกตั้งขึ้น ไม่กี่จุด พร้อมกับ กรอบที่ทำมาจาก ดอก คามีเลีย.คุณ อาจจะคิดว่า นี้ มันเป็น ศิลปะ แต่สถานที่แห่งนี้มีการตกแต่งด้วยของเทียม และธรรมชาติที่มีความเสียหายน้อยที่สุด ภูมิทัศน์เดิมซึ่งเป็นสนามเด็กเล่นโรงเรียนนะครับ.




ผมหมายถึงว่า เกาะนี้ ห่างจาก กอเจ ประมาณ 4 กิโลเมตร และ ไม่คิดว่า จะสวยได้ขนาดนี้ใช่มั้ยครับ?^^*





ผมเอง ไปมาก็หลายที่ และ พบเห็นสวน มาก็หลายแบบ แต่ ที่นี้ มีสิ่งหนึ่งที่ สามารถทำให้ งงงวยได้ครับ และผม ได้มี แบบอย่างที่ดีแล้วด้วยครับ^^*




ส่วนชิ้นเล็ก ที่มีดอกไม้อยู่รอบๆ ทูตสวรรค์ มันดึงดูด สายตาของผม มากครับ .แม้ว่าจะดูเหมือนเป็น ธรรมชาติ แล้ว วางไว้.และการสร้างอาคารนี้ ข้างหลัง เป็น บ้านของ ลี เจ้าของที่อาศัยอยุ่บนเกาะแห่งนี้.มันมีชื่อเสียงในโลก ขณะที่มันถูกใช้สำหรับฉากสุดท้ายของ และทั้งคู่ได้รับการถ่ายภาพที่คุณสามารถหาดูได้ . คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างในแน่นอนครับ ^^ *




ผมจะบินในสักวันหนึ่ง.~┗0┛™




ผมพบสิ่งที่น่าประทับใจคือ ดอกคาเมเลีย ที่ดูเหมือน ครึ่งหนึ่งของแตงโมคว่ำอยู่.คุณคิดว่า พวกเขา ใช้เวลานานเท่าไหร่กัน ที่ปลูกมัน เพื่อให้มันเติบโตเช่นนั้น? มันรู้สึกเย็น ที่ได้อยู่ ใต่ต้นไม้ ผมก็เลยรู้สึก ไม่อยาก ออกไปโดน แสงแดด ครับ.




แตงโมครึ่งลูกหรอ? เมื่อผ่านไปเราก็จะได้เจอ ต้นคามิเลีย.ที่นี้มันเป็นสวนน่ารักครับ ถ้าคุณมองลงจะเห็นทั้งเกาะ ,ยังดูเหมือนสวน Boboli ของพระราชวัง Pitti, อิตาลี ในแต่ละฤดูกาลเกาะถูกปกคลุมไปด้วยสีที่แตกต่างกัน .สถานที่ในภาพเป็นจุดที่นิยมมากที่สุดสำหรับภาพถ่าย




นี้มันดูเหมือน ดอกไม้ที่เป็นปุยนุ๋ม.มีผีเสื้อเกาะอยู่เต็มไปหมด.ผีเสื้อพวกนนี้ก็แปลก มันก็ไม่ไปที่อื่นนะครับ .มันก็พากันเกาะกลุ่มอยู่ที่นี้.อย่างเงียบๆ




ได้ชมวิวต้นไม้ ที่เอโด มนช่างสวยงามใช่มั้ยครับ? ดูเหมือนในเทพนิยายที่สวยงามและสามารถได้ดู จากที่นี้ได้ มันก็สวยดีเหมือนกันนะครับ .มันดีครับ ยอดเยี่ยมครับ.!




นี้เป็นส่วนทางทิศตะวันออกของเกาะครับ .ถ้ามองจากหอดูดาวเป็นครั้งแรก. Dongseo (เกาะอีสเตอร์)ที่ ไม่ได้รับการพัฒนาดังนั้นป่าดอกเคมีเลียดั้งเดิมก็ยังคงอยู่ครับ ผมก็บอกว่ามีการไม่มีใครมาจัดแต่งที่บนเกาะ




ในทางที่จะไปหอดูดาวที่สองที่ด้านบนของเกาะแห่งนี้ . คุณจะพบกับสวนประติมากรรม ในที่นี่ผลงานประติมากรรมที่มีชื่อเสียงของเกาหลีมีการแสดงผลและผมพบว่าบางงานที่น่าประทับใจและน่าสนใจ.




นี้คือ หอดูดาว หลังที่สองของบนเนินของเกาะครับ.มันเหมือนทางที่สวยงามบนจุดยอด.คุณสามารถเห็นทุกสื่งทุกอย่างได้จากที่นี้ แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้นะครับ.ส่วนมาก นักท่องเที่ยวจะเดินลงไปบันไดสวรรค์ข้างล่างในตรงกลาง, แต่คุณควรขึ้นไปที่หอดูดาวและชมวิวก่อนนะครับ .คุณจะไม่ลืม วิวทิวทัศน์นี้อีกเลยครับ




ผมก็เห็นฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาจากแสงแดดผ่านใบไม้. เร็ว ๆ นี้ใบไม้จะร่วงและฤดูหนาวกำลังจะมา. แต่ก่อนที่จะทำให้คุณคิดถึง.ธรรมชาติจะแสดงให้คุณเห็นวิวทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่มันจึงโอเค.




นี้คือถนนที่มีความยาวถึง 100เมตร เรียกว่า บันได หรือ ทางไปสวรรค์.ทั้งสองข้างทาง มีต้น ไวเบอร์นัมกับผลไม้สีแดง ปลูกอยู่ , และในสวนถัดไปที่บันได,มีพืชหายากอยู่กับกลิ่นหอมที่แรงพอสมควรครับ .ซึ่งมีลักษณะเหมือนสวนที่ซ่อนอยู่.บริเวณนี้เคยมี ต้นส้มเขียวหวาน 3,0009ต้น และต้นไม้ ดวงอาทิตย์ 8,000 ต้น แต่ทั้งหมดของพวกเขาถูกโค่นลงจากพายุไต้ฝุ่น Maemi ในปี 2003 และตอนนี้มันได้รับการตกแต่งสวนอีกครั้ง.




ไม่มีที่ไหน ของที่น้เลย ที่จะดูว่าไม่สวย.ครอบครัวลคู่รัก ต่างพากันถ่ายรูปและหัวเราะเล่นกันอย่างมีความสุข.




มันไม่ยากที่จะสังเกตเห็นว่า Oedo Botania ได้รับการตกแต่งด้วยความรักและการดูแลรักษา มันได้รับการจัดการอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ที่ผมไม่เคยเห็นอะไรเช่นที่อื่น ๆ ในเกาหลี ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะไป Geojeกรุณาคุณต้องไปที่นี่ ผมสัญญาว่าคุณจะไม่เสียใจ


+ ค่าเรือที่ท่าDojangpo และคำแนะนำ

+ Django →แม่น้ำ Haegeum → Oedo → Django สำหรับผู้ใหญ่ 24,000 วอน (ล่องเรือ16,000 วอน+ ค่าผ่านประตูใน Oedo 8,000วอน )

+ ถ้า คุณเป็น พลเมืองของ Gojedo คุณจะได้รับส่วนลด 50% ของค่าใช้จ่ายเป็นเงินสดเมื่อคุณแสดงบัตรประจำตัวประชาชนของคุณไปยังสำนักงานใน Oedo

+ เวลา: 2 ชั่วโมงและ 10 นาที (ทัวร์แม่น้ำ Haegeum 40 นาที + Oedo ทัวร์ 1 ชั่วโมงครึ่ง)

+กรุณายืนยันไว้ล่วงหน้าก่อนเนื่องจากคุณอาจจะไม่สามารถไปยัง Oedo ขึ้นอยู่กับการรายงานสภาพอากาศ

+ ที่อยู่: 109, ซาน วาฮยอน-รี, อิลอุน-มยอน, กอเจ, จังหวัดคยองซังนัม

+ โทรศัพท์: 070-7715-3330


Map





어촌마을, 유람선, 해금강, 외도, 보타니아, 정원, 핫도그, Fishingvillage, Cruiseship, HaegeumRiver, OedoIsland, Bonania, Garden, HotDog, 漁村, 遊覧船, 海金剛, 外島, ボタ二ア, 庭園, ホットドッグ, 渔村, 游艇, 海金刚, 外岛, 海上农园, 花园, 热狗, หมู่บ้านชาวประมง, ล่องเรือ, Haegeumgang, เรื่อง, พฤกษศาสตร์เอเชีย, สวน, ฮอทดอก
One line comment(2) 
PDF
Bookmark
E-mail
0bytes / 200bytes
View list