คิดถึงตอนเป็นเด็กทุกครั้งที่ไปทัศนศึกษาก็หนีไม่พ้นคยองจูซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอนาจักรชิลลาในอดีตครั้งนี้ก็เลยอยากทำอะไรแตกต่างไปบ้างตัดสินใจว่าจะไปตามร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของราชธานีแห่งสุดท้ายของอาณาจักรแพ็กเจเมืองแห่งดอกบัวที่ยังกักเก็บความโศกเศร้าของพระเจ้าอึยจาและนางกำนัลกว่า 3,000 คนนั่นก็คือเมืองพูยอจังหวัดชุงชองนัมโดนั่นเอง
ซาบีหรือโซบูรีเป็นอีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกพูยอความรู้สึกแรกที่ได้รับคือถือว่าที่นี่สะอาดเป็นระเบียบมากต่างจากชนบททั่วไปอาจได้รับอิทธิพลมาจากในอดีตเพราะเป็นเมืองที่มีการวางแผนสร้างขึ้นอย่างประณีตตั้งแต่สมัยอาณาจักรแพ็กเจปัจจุบันมีวงเวียนตั้งอยู่หลายแห่งและถนนใหญ่ทอดอย่างยาวเหยียด
เมืองพูยอมีบริการรถซิตี้ทัวร์ที่จะสร้างความสะดวกสบายในการเที่ยวชมเนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะของพูยอยังไม่ค่อยดีนักจึงแนะนำให้ใช้บริการนี้แทนโดยจะให้บริการทุกเสาร์อาทิตย์และมีทั้งหมด3สายให้ลองตรวจเช็คล่วงหน้าแล้วจัดจองภายในวันพุทธจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสบายบรื๋อและไม่ต้องคอยขับรถเอง
ที่อยู่: ลานจอดรถป้อมพูโซซานซอง-เลขที่77ควานบุครีพูยออึบ (부여읍관북리 77 부소산성 주차장)
โทร: 041-830-2330 (ศูนย์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดชุงชองนัมโด)
เวลาบริการ: มีนาคม~พฤศจิกายน (ทุกวันเสาร์อาทิตย์) รถออกเวลา10:00น.
เว็ปไซต์: http://buyeotour.net/
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพูยอ 국립부여박물관
หลังจากที่สำรวจดูรอบบริเวณสั้นๆแล้วก็คิดได้ว่าน่าจะไปดูพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพูยอที่อยู่ใกล้ๆก่อนเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของพูยอและร่างภาพแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งไว้ล่วงหน้าจะทำให้การเดินทางครั้งนี้สนุกยิ่งขึ้น
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพูยออยู่ห่างจากสถานีเพียง1กม. ในพิพิธภัณฑ์มีอาคารหลักๆให้ชมอยู่4หลังได้แก่ซาบีมารุ (ลานแสดง), พิพิธภัณฑ์เด็ก (ห้องกิจกรรมและสันทนาการ), อาคารจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ, อาคารจัดแสดงนิทรรศการ (อาคารหลัก)
อาคารซาบีมารุและอาคารจัดแสดงนิทรรศการพิเศษจะเปิดเฉพาะช่วงที่มีการจัดงานพิเศษเท่านั้นก่อนอื่นเราจะลองเดินเข้าอาคารหลักกันก่อนนะครับ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพูยอเก็บรักษามรดกเก่าแก่อยู่ทั้งหมด32,000กว่าชิ้นรวมถึงมรดกชาติ3 ชิ้นและสมบัติ5ชิ้นโดยมีการจัดแสดงมรดกจำนวน 1,000กว่าชิ้นในห้องที่1 (เขตชุงชองนัมโดสมัยก่อนประวัติศาสตร์) ห้องที่2 (ยุคพระเจ้าซอง~พระเจ้าวีด็อก) และห้องที่3 (ยุคพระเจ้ามูวัง~พระเจ้าอึยจา)
ขณะนี้ทางพิพิธภัณฑ์ได้เปิดให้เข้าชมห้องจัดแสดงในอาคารหลักฟรีพร้อมแจกจ่ายแผ่นพับสำหรับชาวต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษจีนและญี่ปุ่นและมีบริการให้เช่าหูฟังบรรยาย(เสียค่าใช้จ่าย)เป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นเพื่อให้ชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมได้อย่างง่ายขึ้นนอกจากนี้ยังสามารถฟังคำบรรยายทางแอ็ปพลิเคชั่น 'พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพูยอ'ในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
พอเข้าไปยังห้องที่1 จะเห็นดาบทองแดงสไตล์เกาหลีที่ผลิตด้วยทองแดงจัดแสดงอยู่แต่มรดกจำพวกนี้ไม่ได้มีอยู่ในพูยอเพียงแห่งเดียวเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าพิเศษเท่าไหร่นัก
แดจกโมยังดงกี(24.5ซม.) (เครื่องทองแดงรูปซีกไม้ไฝ่) ถูกจัดแสดงอยู่ในตู้เดี่ยวเป็นมรดกที่คาดว่ามีความเกี่ยวพันกับชามอนิซึ่ม(การติดต่อวิญญาณ) ซึ่งถูกค้นพบตามลุ่มแม่น้ำคึมคังจังหวัดชุงชองโดเท่านั้น
ในห้องที่1มีการจัดแสดงตั้งแต่ศิลปะทองแดงและเหล็กธรรมดาจนถึงเครื่องปั้นดินเผาสไตล์พูยอซงกุกรีซึ่งนับว่าเป็นมรดกหลักของยุคสำริด
พอเดินเข้าห้องที่2จะเห็นรูปปั้นครี่งตัวบนของพระเจ้าซองแห่งอาณาจักรแพ็กเจโดยพระเจ้าซองเป็นผู้แต่งตั้งป้อมซาบีซองให้เป็นเมืองหลวงของแพ็กเจจึงสามารถเห็นรูปปั้นและภาพวาดของพระเจ้าซองอยู่ทั่วเมืองพูยอ
กระเบื้องลายดอกบัวที่พบเห็นอยู่บ่อยๆบนหลังคาของพระราชวังหรือวัดในเกาหลีมีการจัดแสดงเยอะที่สุดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
โฮจาเป็นเครื่องปั้นดินเผารูปสิงโตที่มีรูปร่างโดดเด่นจัดแสดงอยู่ตรงกลางห้องมีดวงตาและหูอยู่ด้านหลังรูที่อยู่ข้างบนน่ารักทีเดียวครับหากได้รินเหล้าดื่มคงจะเยี่ยมไม่น้อยเลย
แต่พอมาอ่านคำบรรยาย“โยกัง(โถปัสสาวะ)สำหรับผู้ชาย!!"อะจึ๋ย!
แพ็กเจชางวางมยองซ็อกโจซารีกัม (มรดกชาติเลขที่288 / สูง74ซม.)เป็นวัตถุขนาดเล็กด้านในเจดีย์ที่ใช้เก็บรักษาพระธาตุค้นพบในเขตนึงซานรีเมืองพูยอณพื้นที่ที่มีร่องรอยของวัดในอดีต
เริ่มจะเห็นของที่เปล่งกายระยิบระยับขณะที่ตื่นตาตื่นใจกับต้มหูและเพชรพลอยทองที่เปล่งราศีอันงดงามก็ได้เจอห้องเล็กๆที่แยกออกมาเจอแล้ว!ในที่สุด! รูปร่างนี้ดูคุ้นตามากเห็นอยู่ทั่วทุกมุมในเมืองพูยอสุดยอดมรดกแห่งแพ็กเจ!!
มรดกชาติเลขที่287แพ็กเจคึมดงแดเฮียงโร(กระถางธูปขนาดใหญ่) (61.8 ซม.) แต่เสียดายมากที่วันนั้นไฟเสียพอดีเห็นกำลังซ่อมกันใหญ่อันที่จริงตัวที่จัดแสดงอยู่เป็นตัวจำลองครับตัวจริงจะเปิดให้ชมที่อาคารจัดแสดงนิทรรศการพิเศษต่างหากเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
พอเดินออกจากห้องที่2 ก็จะเจอห้องพักที่ตกแต่งไว้อย่างสง่างามมานั่งพักกันสักครู่
มาถึงห้องที่3จะได้พบกับพระซอซันซัมจนมาแอบุล (มรดกชาติเลขที่87) ซึ่งเรียกกันว่าเป็นสุดยอดรอยยิ้มแห่งเมืองแพ็กเจคอยต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยบุญบารมี
ในห้องที่3 มีการจัดแสดงตั้งแต่มรดกชิ้นใหญ่เช่นชีมี(เครื่องประดับหลังคา)จนถึงคึมดงควานอึมโบซัลอิบซัง(พระโพธิสัตว์กวนอิม) (มรดกชาติเลขที่293) ซึ่งเป็นมรดกที่แสดงความประณีตอันเป็นเอกลักษณ์ของแพ็กเจ
ซาแท็กจีจอกบี(แผ่นหินจารึกโดยซาแท็กจีจอก) (สูง109ซม.) ที่ค้นพบในป้อมพูโซซานซองเฮ้อนึกถึงวันเก่าๆตัวนี้ชอบออกข้อสอบในชั่วโมงประวัติศาสตร์เป็นประจำเลย
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงฮึกชีซังจีโมซอก(ศิลาหน้าหลุมศพของฮึกชีซังจี) เป็นผู้ที่พยายามฟื้นฟูแพ็กเจขึ้นมาใหม่ในช่วงที่เกิดการรวมสามประเทศแต่ไม่ประสบความสำเร็จต่อมาก็ได้ย้ายไปเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในราชวงศ์ถัง
คึมดงควานโมเป็นหมวกที่ขุนนางใส่กันในสมัยนั้นมีความประณีตและอลังการมากสิ่งประดิษฐ์นี้ยังเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประเทศญี่ปุ่นได้ซึมซับวัฒนธรรมของแพ็กเจไป
ตัวจำลองอิโซโนะกามิชินกุงชิลจีโด (ยาว74.9ซม.) เป็นของขวัญที่กษัตริย์ของแพ็กเจทรงประทานให้กับกษัตริย์ของประเทศญี่ปุ่นปัจจุบันนับเป็นมรดกชาติชิ้นสำคัญของญี่ปุ่น
เมื่อเดินออกจากห้องที่3จะเจอห้องศาสตราจารย์ปาร์คมันซิกที่จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาหลากหลายชนิดหลังเดินดูรอบๆแล้วเดินออกมาทางสวนที่อยู่กลางอาคาร
จะได้เจอกับพูยอซ็อกโจ (มรดกเลขที่194)จัดแสดงอยู่กลางลานมีรูปร่างเหมือนชามขนาดใหญ่และไม่มีอะไรอยู่ข้างในมรดกชิ้นนี้เคยใช้เลี้ยงดอกบัวค้นพบหน้า"พูยอดงฮอน"และถูกนำมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ช่วงที่ญี่ปุ่นปกครอง
พอออกจากอาคารหลักแล้วก็ลองย้ายไปดูพิพิธภัณฑ์เด็กได้ยินมาว่ามีกิจกรรมต่างๆให้ลองเล่นโชคดีที่ยังเป็นช่วงเช้า(10:00น.) เลยยังไม่ค่อยมีคนเข้าชมมากนัก
พอเข้าไปด้านในจะเจอห้องเล่นที่ได้ไอเดียมาจากคึมดงแดฮยางโร(กระถางธูปขนาดใหญ่) และยังมีการบรรยายประวัติศาสตร์แพ็กเจและมรดกต่างๆในรูปแบบการ์ตูนให้เด็กๆสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ระหว่างการละเล่น
ห้องนี้มีกิจกรรมให้ลองทำทักบนซึ่งเป็นการสลักบนกระเบื้องหลังคาหรืออิฐเป็นลวดลายมังกรดอกบัวฯลฯนอกจากนี้ยังสามารถชมการแสดงประดิษฐ์ศิลปะแก้วอีกด้วย
มีเด็กๆที่มาเที่ยวกับพ่อแม่กำลังสร้างเจดีย์กันอย่างคึกคัก
ก็มีกิจกรรมต่างๆให้ลองอยู่หลายอย่างทีเดียวกิจกรรมที่เราสองคนเลือกที่จะลองคือการใส่ชุดสมัยแพ็กเจมีคำอธิบายบนกระจกอย่างละเอียดเอาล่ะมาใส่ชุดกัน!!
'เอ่อลืมไปเลยว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เด็กไม่กล้าใส่ชุดเด็กหรอกลองแค่หมวกละกัน'
แค่หมวกก็เล็กแย่แล้ว
บนผนังบริเวณปากทางออกพิพิธภัณฑ์เด็กมีรูปกระถางธูปที่ให้เด็กๆแปะกระดาษความหวังไว้
อยากเขียนจังว่า“ให้ผู้ใหญ่ลองบ้างสิ~!!!"
สุดท้ายก็ไม่ได้ชมอาคารจัดแสดงนิทรรศการพิเศษและซาบิมารุเพราะไม่ใช่ช่วงที่เปิดให้ชมเลยได้ดูแต่หน้าประตูที่ปิดไว้แน่นส่วนลานจัดแสดงด้านนอกก็มีดงซารีซ็อกทับ(เจดีย์ศิลา)และสมบัติสมัยโครยอบางชิ้นให้ชมเช่นกันพอมาถึงจุดนี้ก็เริ่มอยากจะไปดูโบราณสถานจริงๆซะแล้วเราจึงลาจากพิพิธภัณฑ์เพื่อไปยังจุดมุ่งหมายต่อไป
ที่อยู่: ซัน16-9 ดงนัมรีพูยออึบ (충청남도 부여읍 동남리 산16-9)
โทร: 041-833-8502
เวลาบริการ : 09:00~18:00 (สุดสัปดาห์ ~19:00) / เมษายน~ตุลาคมวันเสาร์ ~21:00 / วันอาทิตย์ปิด