Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
2474 | 19926003

Mungyeong #1 - Mungyeongsaejae - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
Last Modified : 2017/03/27

Travel regions : South Korea
 | Hits : 537121
https://blog.lookandwalk.com/en/blog/mazinguide/997/trackback

มีการทำสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ใน'100 tour sites Koreans should visit' ในหมู่คนเกาหลีโดยองกรณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและศีลธรรมเกาหลี, Mungyeongsaejae ได้ที่หนึ่ง.มันเป็นทางเดินเก่าๆที่เชื่อมต่อไปยัง Mungyeong, Gyeongsangbuk-do และ Chungju, Chungcheongbuk-do, และมันไม่มีทางอื่นนอกจากผ่านทางนี้ถ้าต้องการไปยัง Hanyang จากJeollado หรือ Gyeongsangdo.บวกกับว่า,มันมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ในMungyeong ที่ไม่สามารถบอกได้หมดแต่ถ้าที่หลักๆ,ก็คือพิพิธภัณฑ์ถนนเก่า,สถานที่ถ่ายทำของKBS,พิพิธภัณฑ์ถ่านหิน,จักรยานรางรถไฟ,และคอร์สเดินป่าSeokyuDongcheonNadeulgil.ผมกำลังจะนำเสนอทริป2วันของผม.



ใช่,บทความของผมถูกเขียนขึ้นตามเวลาตั้งแต่ที่ผมคิดได้ว่านักท่องเที่ยวบางคนจะเดินทางในเมืองเหมือนกับที่ผมเดินทาง,และผมอยากที่จะแนะนำให้คุณพกขนมไว้กินตอนพักเนื่องจากคุณต้องใช้เวลาเดินค่อนข้างหลายชั่วโมง.โอ้,อย่าลืมใส่รองเท้าสบายๆสำหรับการเดิน.มันจะมีประโยชน์มากทีเดียวถ้าคุณมีไม้สำหรับปีนเขา.คำแนะนำสำหรับคุณ,ผมขับรถเพื่อที่จะไปยังจุดต่างๆเริ่มจากGyeonggi-do. โอเค,งั้น,เริ่มกันที่Mungyeongกันเลยมั้ย?

Mungyeongsaejae selected as the first tourist attraction that Koreans should visit 문경새재
มันใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยรถยนต์จาก Gyeonggi-doผ่านทางด่วน Gyeongbu→ ทางด่วนPyeongtaek-Jecheon → Sanggyeongro → Jungburoในที่สุดก็จะถึงตัวเมือง Mungyeongsaejae.



Map

ที่อยู่: 288-1, Sangcho-ri, Mungyeong-eup, Mungyeong-si, Gyeongsangbuk-do (경상북도 문경시 문경읍 상초리 288-1)

โทรศัพท์: 054-571-0709


เป็นหนึ่งในร้อยของถนนที่สวยที่สุดในเกาหลี,ถนนนี้สะท้อนถึงชีวิตที่เหนื่อยยากของคนสมัยก่อนและเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดระหว่าง Seoul และ Busan ตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์Goryeo.มีอยู่สามทางเข้าไยังถนนเส้นนี้.วันนี้,ผมจะเดินผ่านนไปยังทางเข้าที่1และไปยังทางเข้าที่2.รวมระยะทางน่าจะราวๆ 9.6km รวม 1km จากทางเข้าที่1,3km จากทางเข้าที่1ไปยังทางเข้าที่2, 1.6km ขาไปและขากลับจากน้ำตกYeogung ระหว่างทาง.บวกกับ,ยังมีสถานที่ถ่ายทำหนังและพิพิธภัณฑ์ถนนเก่าซึ่งคุณจะต้องเดินประมาณ11-12km.



สำหรับคนที่จะไปยังทางเข้าที่3,คุณจะต้องเดิน7km (3.5km สำหรับเที่ยวเดียว) มันจะเป็นทริปที่เหนื่อยกว่าที่คุณคาดไว้.ดังนั้น,ถ้าคุณมีรถ,ผมอยากจะแนะนำให้คุณใช้ทางไปกลับของทางเข้าที่2.




อากาศนั้นดีมากๆสำหรับการเดินในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงในเกาหลี.มันไม่ได้ร้อนหรือหนาวในวันนั้นที่ผมไปซึ่งผมก็สามารถเดินได้อย่างสบายๆ.ถ้าคุณมองที่ถนนจากทางเข้า,จะเห็นท่าเรือที่ทำจากไม้พาดผ่านลำน้ำทางด้านซ้ายและถนนดินเก่าๆทางด้านขวา.



ถ้าคุณเดินตามถนนไประมาณ 1km จากที่จอดรถ,คุณจะเห็นทางเข้าที่1.มันดูงดงามด้วยากหลังที่เป็นภูเขา.



ดูหินที่ใช้สร้างเป็นปราสาทพวกนั้นสิ.ทุกๆหินนั้นมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างและพวกมันทำให้กำแพงนั้นแน่นหนาและแข็งแรงแบบนี้.ผมตื่นตาตื่นใจไปกับเทคนิคของบรรพบุรุษของพวกเรา.



ตั้งชื่อตามรูปร่างของผู้หญิง ' น้ำตกYeoGung '
여궁폭포 คุณสามารเห็นทางเดินอยู่ทางด้านขวาเมื่อตอนคุณเดินเข้าทางเข้าที่1ได้ทันที.เดินตามทางไปประมาณ800m,แล้ว,คุณจะเห็นน้ำตกYeogung ก่อนที่คุณจะถึงวัดYeogung .พวกเขาบอกว่ามันตั้งอยู่สูงประมาณ 800mขึ้นไปบนเขาแต่ภูเขานั้นค่อนข้างชันดังนั้นคุณจะไม่สามารถหามันได้อย่างง่ายๆ.ซึ่งผมไม่แนะนำคอร์สนี้ถ้ารองเท้าคุณไม่สบายและขาคุณเจ็บ.ผมก็ยังไปทางนั้นอยู่ดีเพราะว่าผมยังมีสิ่งที่ต้องนำเสนอให้คุณ.

Map

ที่อยู่: San 35, Sangcho-ri, Mungyeong-eup, Mungyeong-si, Gyeongsangbuk-do,เกาหลี (경상북도 문경시 문경읍 상초리 산35)



เมื่อคุณเดินผ่านทางเข้าที่1,คุณจะเห็นป้ายบอกทางว่าเหลืออีก 0.8km จะถึงน้ำตกYeogung.ผมถ่ายรูปจากฝั่งตรงข้ามซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางด้านซ้าย,แต่ผมว่าคุณน่าจะขึ้นไปยังด้านขวาเมื่อคุณผ่านทางเข้าที่1.



คุณสามารถเห็นน้ำไหลผ่านจากน้ำตกYeogung แม้ว่าจะมองจากทางด้านล่าง.ทางขึ้นน้ำตกมีความสวยงามมากซึ่งถ้าคุณมีขาที่แข็งแรง,ผมว่า,ขึ้นไปเถอะ.มีแค่คนไม่กี่คนที่ต้องการปีนขึ้นไปบนเขาที่สูงชันอย่างนี้ดังนั้นคุณสามารถที่จะสนุกกับการเดินขึ้นเขาอย่างเงียบๆและบรรยากาศที่สงบ.



ผมสามารถเห็นน้ำไหลมาอย่างไม่ขาดสายแต่ผมไม่ได้ยินเสียงของน้ำตก.มันจะต้องเป็นน้ำตกเล็กๆที่ซ่อนอยู่แถวนี้แน่ๆ!



นี่คือบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่พวกเราเจอระหว่างทาง.น้ำนั้นยังไม่ได้มีการพิสูจน์อย่างเป็นทางการแต่ผมก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่แอบปนเปื้อนอยู่ในที่อ้างว้างนี้.ดังนั้นพวกเราจึงแค่จิบและเดินต่อไป.



ทางเดินของถนนสิ้นสุดที่นี่และมันนำไปสู่ทางเดินหินและขึ้นไปยังทางเดินสูงขึ้นไป.ทางนั้นชันมากซึ่งมันก็เดินค่อนข้างยาก.ไม่ต้องรีบ.



ผมเชื่อว่าพวกเราเดินมา800m แล้วแต่ผมก็ยังไม่ได้ยินเสียงของน้ำตก.มันเป็นเพราะว่าไม่มีฝนตกเมื่อเร็วๆนี้ในเกาหลีซึ่งทำให้น้ำตกนั้นแห้งรึเปล่านะ?ผมรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที.



มันเดินได้ง่ายขึ้นเมื่อพวกเราเข้าไปใกล้น้ำตกเมื่อมีทางเดินไม้ได้สร้างไว้.ที่นั่นดูเหมือนสะพานยาวๆน่าจะเป็นน้ำตก.ในที่สุด,ผมก็ได้ยินเสียงของน้ำตก.



เย้!น้ำยังไม่แห้ง.มันไม่ใช่น้ำตกที่ใหญ่แต่ก็ยังไหลเสียงดังทีเดียว.มันคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อที่เสียไปในการเดินทางมาที่นี่จริงๆ.มันช่างเย็นและสวยงาม.น้ำตกนั้นตกลงมาระหว่างผาหินที่สูงประมาณ20mมันดูเหมือนคริสตอล.น้ำตกYeogung นั้นได้ถูกตั้งชื่อตามรูปร่างงของผู้หญิงและมันก็เป็นที่รู้จักในนามน้ำตก Yeosim.ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆเรียกมันว่าParangso,ซึ่งมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางฟ้าที่ลงมาอาบน้ำที่นี่.





เมื่อผมมองกลับไปหลังจากที่ได้มาถึงน้ำตกแล้ว,ผมได้เห็นวิวแบบนี้.ทางเดินไม้ทางด้านซ้ายเป็นทางที่ผมเดินขึ้นมาและคุณจะเห็นวัดHyeguksa ถ้าคุณเดินไปทางขวา200m จากที่ที่ผมยืนอยู่.วัดHyeguksa นั้นไม่ได้อยู่ในแผนของผมดังนั้นผมจึงได้ผ่านไป.



ผเดินลงมาประมาณ800m จากน้ำตก Yeogungจนผมถึงทางเข้าที่1.ตอนนี้,ผมเดินตามทางด้านขวาที่นำไปสู่ทางเข้าที่2.

อีกครั้งเดินไปสู่ทางเข้าที่2ผ่านทางถนนสายเก่าของMungyeongsaejae… ระยะห่างระหว่างทางเข้าที่1และทางเข้าที่2 นั้นประมาณ3km.ผมหวังว่าคุณจะยังไม่เหนื่อยหลังจากเดินมาประมาณ1.6km.เดินไปยังทางเข้าที่2เรื่อยๆเนื่องจากมันไม่ไกลแม้เด็กๆก็ยังเดินได้.



ผมไม่แน่ใจว่าถ้าคุณสามารถมองเห็นว่าถนนนั้นเกือบที่จะเรียบแต่เอียขึ้นเล็กน้อยไปยังทางเข้าที่2.มีทางน้ำไหลเล็กๆที่ดูเหมือนทางน้ำสำหรับทำการเกษตรอยู่างด้านขวาของถนนและคุณยังจะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลาจากลำธารใหญ่ทางด้านซายของคุณ.คุณจะต้องรู้สึกสดชื่นมากๆ.





พวกเราไม่ถูกอนุญาติให้เข้าไปข้างในน่าจะเป็นเพราะว่าสะพานนั้นอันตรายอาจจะพังลงมาได้.ผมสงสัยว่ามันมีอะไรอยู่ที่ปลายสะพาน.



เดินตามถนนนี้,มีอะไรหลายๆอย่างให้ดูทางด้านซ้ายและขวาของคุณตลอดและหนึ่งในนั้นคือหินที่มีชื่อว่า'Jireumteulbau.' Gireum (น้ำมัน)ที่เรียกว่าJireumใน Gyeongsang-do,และมันถูกตั้งชื่อนั้นก็เพราะคราบของน้ำมันที่ไหลออกมา.ค่อนข้างเป็นวิวที่สวยงามตามธรรมชาติ,ใช่มั้ยล่ะ?



มีสิ่งต่างๆให้ดูมากมายตามสองข้างทางที่ทำให้พวกเราไม่รู้สึกเบื่อ.



ในบ่อน้ำ,มีปลาตัวเล็กๆและพวกมันก็มารวมตัวกันเพื่อกินขนมปังที่ผมเอามาไว้สำหรับเป็นของหวาน.:)



ถ้าคุณเดินตามทางในป่าไปเรื่อยๆ,คุณจะเห็น 'Joryeongwonteo(鳥嶺院址)' อยู่ทางด้านขวาของคุณ.Won(院)แสดงถึงการให้บริการอาหารแก่เจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ระหว่างการทำธุระติดต่อระหว่างเมืองและมันก็มีการก่อตั้งตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์Goryeo ถึงราชวงศ์ Joseon.



ไม่มีอะไรอยู่ด้านในของ Joryeongwonteo, เหลือแต่เพียงพื้นของบ้านเท่านั้น.ตัวอาคารในรูปนั้นถูกสร้าขึ้นชั่วคราวตามแบบของจริง.กำแพงของปราสาทที่ทำด้วยหินมี่เหลี่ยมทั้งก้อนเล็กและใหญ่ดูมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว.



หินนั้นได้ถูกสร้างอยู่ทางด้านนอกและดูเป็นขั้นอยู่ทางด้านในซึ่งผมเดาว่าน่าจะถูกใช้สำหรับเป็นกำแพงของปราสาทในอดีต.



มันค่อนข้างจะน่าเบื่อถ้าจะเดินกลับไปทางเดิมดังนั้นผมจึงมุ่งหน้าไปทางเก่า.ทางนี้พึงจะถูกขยายให้กว้างขึ้นแต่ที่จริงแล้ว,ทางนี้เป็นทางไปสู่Hanyangในสมัยก่อน.พวกเราสามารถเดินขึ้นลงง่ายๆตามทางเก่าและใหม่.



ผมเจอหินกว้างๆในตอนที่ผมกำลังเดินตามทางเดิน.ในสมัยก่อน,พวกโจรจะซ่อนอยู่ข้างหลังหินใหญ่ก้อนนี้บ่อยครั้งโจมตีเหล่าตัวแทนผู้ซึ่งเดินทางไปราชการที่Hanyang.ผมคิดว่ามีสิ่งไม่ดีอยู่ในทุกยุคทุกสมัย.



ผมเห็นบ้านหลังคามุงจากอยู่ตรงด้านข้างของทางเดินตอนที่ผมกำลังจะถึงตรงกลางระหว่างทางเข้าที่1และทางเข้าที่2.มันเขียนไว้ว่าเคยถูกใช้เป็นที่พักริมทางในสมันราชวงศ์Joseon.บ้านนั้นล้อมรอบไปด้วยกำแพงหินดูน่ารัก.



ผมเชื่อว่าที่นี่ต้องแน่นไปด้วยเหล่าผู้แทนผู้ที่ซึ่งจะต้องเดินทางไปเพื่อสอบเป็นข้าราชการ,พ่อค้าเร่หรือคนที่เดินทางเพื่อไปเยี่ยมญาติๆ.ผมหวังที่จะไปที่นั่นถ้าหากว่ามีเครื่องย้อนเวลา.



มีJangdokdaeที่งดงาม(ทางเดินสำหรับหม้อซอสและเครื่องปรุงอาหาร)ล้อมรอบสวนดอกไม้ azaleaในมุมหนึ่งของสนาม.




ถ้าคุณเดินขึ้นไปอีกหน่อย,คุณจะเห็นพระราชวังชื่อว่าGyoguijeong (交龜亭)อยู่ทางด้านขวาของคุณ.นี่คือGyoincheo (交印處) ซึ่งเป็นที่ที่นักเขียนของ Gyeongsangเคยนำส่งผลงานให้เขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จ.อาคารได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทีหลังแต่นี่ก็เป็นเพียงอาคารเดียวที่ยังเหลืออยู่ในเกาหลี.



ถ้าในที่สุดคุณมาถึงGyoguijeong, จะเหลืออีกเพียงแค่ 1 km แล้วคุณจะได้เห็นทางเข้าที่2.ดังนั้นก็พยายามอีกซักหน่อย.



ขาของผมรู้สึกหนักจากการปีนขึ้นไปยังน้ำตก Yeogung.นี่เป็นหินกว้างที่ที่Gungye ตายในฉากสุดท้ายในละครเกาหลีเรื่อง'Taejo Wanggeon(Wang-geon, the Great)'.ผมจะต้องพักซักหน่อยนึง.



ขึ้นไปนิดหน่อย,มันคือน้ำตกJogokกำลังไหลอยู่อย่างกึกก้องทางด้านขวาของคุณ.มันค่อนข้างจะเป็นวันที่ร้อนและน้ำก็เย็นพอทีจะทำให้อากาศโดยรอบเย็นลงในระหว่างวัน.เดินรอบๆมันแล้วทำให้ผมรู้สึกสดชื่น.



ผมได้มาถึงยังทางเข้าที่2ในที่สุด.มันดูสวยงามและต็มไปด้วยใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วง,แต่ผมต้องบอกว่าวิวที่เต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวๆในฤดูใบไม้ผลิก็น่าตื่นตาตื่นใจ.นักท่องเที่ยวกำลังยุ่งอยู่กับการถ่ายรูปบนสะพาน.ผมพบว่ามีต่างชาติมากพอๆกับคนเกาหลีที่Mungyeong.



ทางเข้าที่2นั้น ห่าง3.5km จากทางเข้าที่3 ด้วยทางเดินที่ขึ้นและลงเขาและมันใช้เวลา 3ชั่วโมงสำหรับไปกลับซึ่งผมไม่แนะนำให้คุณใช้เส้นทางนี้ถ้าคุณมีเวลาเพียงแค่2วันในMungyeong.ดังนั้นผมจึงกลับไปทางทางเข้าที่1จากตรงนี้.



ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อเดินป่า,ผมคิดว่ามันจะดีถ้าเดินตามทางMungyeongsaejaeถนนสำหรับผู้ที่เดินไปสอบราชการ(ทางเก่า). นอกจากความจริงที่การเดินทางนี้ซึ่งคนในสมัยก่อนเคยใช้,มันจะให้ความสนุกสนานกับคุณเมื่อคุณได้เจอกลอนเกาหลีที่ได็ถูกเขียนโดยบรรพบุรุษจากในยุคสมัยราชวงศ์Joseonอยู่ตรงข้างทาง.ในรูปด้านบน,มีหินอยู่สามก้อนที่มีการเขียนกลอนไว้.



ผมกำลังกลับจากทางเข้าที่2และมุ่งหน้าไปยังทางเข้าที่1.พยายามที่จะมองไปยังทางเข้าและกำแพงปราสาทจากทางด้านหลัง,แล้วคุณจะรู้ว่าใครที่พยายามปกป้องตัวเอง.คุณเห็นมั้ยว่ามันป้องกันตัวเองจากทางใต้?คุณสามารถเห็นได้ว่ามันถูกสร้างตั้งแต่การเข้าโจมตีของญี่ปุ่นในการป้องกันตัวเองจากข้าศึกเดินทัพเข้ามายังเมือง.



ทางเดินกลับนั้นเป็นทางลงเขาซึ่งง่ายต่อการเดิน.ตอนนี้ผมสามารถเห็นพวกดอกไม้แล้ว . :)



สีสันสดใสของเหล่าใบไม้บนต้นไม้นั้นดูน่าประทับใจมาก.ผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นของธรรมชาติ.



พวกเราเกือบจะถึงทางเข้าที่1เร็วๆนี้.มีกองถ่ายทำที่กำลังสร้างให้เหมือนยุคสมัราชวงศ์ Joseon ใกล้ทางเข้าที่1,ซึ่งพวกเราก็จะไปที่นั่น.ก่อนนั้น,พวกเราจะถอดถุงเท้าและล้างเท้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผู้ที่ต้องการจบการเดินป่า.น้ำนั้นไม่นิ่งและไหลอยู่ตลอดเวลาทำให้น้ำนั้นค่อนข้างสะอาด.


문경새재, 산책, 성문, 여궁폭포, 폭포, 여심폭포, 지름틀바우, 조령원터, 교귀정, 조곡폭포, 제1관문, 제2관문, Mungyeongsaejae, walk, fortressgate, YeoGungFalls, fall, YeosimFalls, Jireumteulbau, Joryeongwonteo, Gyoguijeong, JogokFalls, GatewayNo1, GatewayNo2, 聞慶セジェ, 散歩, 城門, 女宮瀑布, 滝, 瀑布, 女深瀑布, 油しめ木岩, チルムトルバウ, 鳥嶺院址, 交龜亭, 鳥谷瀑布, 第1関門, 第2関門, 文庆鸟岭, 散步, 城门, 女宫瀑布, 榨油机岩石, 鸟岭院址, 交龟亭, 鸟谷瀑布, 第一关门, 第二关门, เดิน, ประตู, yeogungฟอลส์, ฟอลส์, yeosimฟอลส์, กรอบเส้นผ่าศูนย์กลางโบว์, joryeongOneTouch, สะพานgwijeong, ชุดน้ำตก, ประตูที่สอง
One line comment(0) 
PDF
Bookmark
E-mail
0bytes / 200bytes
View list