บอร์ดเมนูของร้านบะหมี่ Hallym.ข้าวหนึ่งถ้วยนั้นฟรี,ตามด้วยราคาที่เหมาะสมของร้าน.เราสั่งบะหมี่น้ำกับหอย,เมนูที่ดีที่สุดของHallym และ Bulgogiหมูดำเผ็ด.
กิมจิสดและหัวไชเท้ากิมจิที่เข้ากันได้ดีกับบะหมี่และเครื่องเคียงอีกสองสามอย่างสำหรับBulgogi . เครื่องเคียงนั้นไม่เผ็ดและไม่เค็ม,และทั่วๆไปก็น่าสนใจ.
บะหมี่นั้นดูแตกต่างจากบะหมี่หอยอื่นๆที่ผมเคยกินบ่อยๆ,และมันทำให้ผมสงสัยในรสชาติ.
หอยอยู่ไหนนะ?ผมค้นหาในชามและพบพวกมันที่ก้นชาม.ขนาดนั้นเล็ก,แต่เนื้อมันนั้นหนุบๆและฉ่ำและหวาน,ยิ่งเคี้ยว,มันก็ยิ่งรสชาติดีขึ้น.
หมูหักนั้นย่างมาอย่างดี,พร้อมหนัง!มันอร่อยมากๆด้วยรสเผ็ดและหนึบๆ.
มันดีที่จะห่อ Bulgogi ในผักกาดกับกระเทียม.
วาง Bulgogi บนข้าวร้อนๆก็อร่อยเหมือนกัน.
ชายหาดHyeopjaeคนเยอะเสมอเพราะว่ามันมีชื่อเสียงจากนักท่องเที่ยวที่มาเจจู.จึงมีร้านอาหารมากมายตรงหน้าหาด Hyeopjae,แต่คนก็แน่นตลอดเวลา.ถ้าคุณขับรถไปอีกหน่อย,มันก็มีโอกาสที่จะกินอาหารอย่างเงียบๆที่ร้านHallym.
+ ที่อยู่: 1328-15, Hallim-ri, Hallim-eup, Jeju-si, Jeju-do
+ โทรศัพท์: 070-8900-3339
+เวลาทำการ: 07:00 ถึง 16:00 (ปิดวันอาทิตย์), ปิดเร็วถ้าของหมด.
เกสท์เฮาส์ Dalsup,ให้บริการพื้นที่ที่เป็นอิสระและผ่อนคลาย
ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน,มีเกสท์เฮาส์แปลกๆเปิดขึ้นมากมายรอบๆเกาะเจจู,ทำให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะมาและเยี่ยมชม.เกสท์เฮาส์แบบเก่าๆให้บริการแค่ห้อง,และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นเหมือนหอพัก.แต่ไม่นานมานี้,เกสท์เฮาส์จะมีห้องนอนและห้องน้ำ,เรียกว่าเกสท์เฮาส์คู่กำลังเป็นที่นิยม.ผมพักที่เกสท์เฮาส์ Dalsup,หนึ่งในเกสท์เฮาส์คู่ที่กำลังเป็นที่นิยม.
เพราะว่ามันไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว,การจองก็ไม่ยากเท่าไหร่,แต่มันมีแค่ห้องวิวทะเลเหลือหนึ่งห้อง.การจองนั้นมีตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกันยายน,ซึ่งผมโชคดีที่สามารถจองห้องได้สองคืนที่เกสท์เฮาส์ที่มีชื่อเสียงนี้.
มีไวไฟอินเตอร์เน็ต,ซึ่งช่วยได้มากตอนที่ผมใช้แล็ปท็อป.
เช้าวันต่อไป,ก่อนอาหารเช้าเราเดินดูรอบๆในส่วนที่ยังไม่เคยเห็นของที่พัก.
ล้อมรอบไปด้วยผาหินหนาๆแต่ก็สวย,สวนนั้นถูกปูด้วยหญ้านั้นตกแต่งอย่างสวยงาม.ห้องด้านในและด้านนอกก็ถูกตกแต่งอย่างเรียบร้อย.
เฟรนช์โทสกับผลไม้สองสามชิ้นคืออาหารเช้า.เฟรนช์โทสนั้นอบอย่างดีด้วยเนย,ที่แช่อยู่ในนมและไข่นั้นอร่อยมาก.
วิปครีมนั้นนุ่มและหวาน,รสชาติที่คุ้นเคยของแยมซิทรัสข้างๆมันอร่อยมาก.มันเป็นรสชาติท่ีหาไม่ได้ที่ไหนนอกจากในเจจู.
ผมดูรอบๆคาเฟ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับ,และเจอเครื่องประดับเรียกว่าอัญมณีแห่งท้องทะเล.้าคุณมองใกล้ๆพวกมันคือเปลือกหอยที่เห็นที่ชายหาด,แต่ทาสีสวยๆและการตกแต่งทำให้ดูเหมือนอัญมณีแห่งท้องทะเลจริงๆ.
ในตอนหลังที่เจจู,มีเกสท์เฮาส์ที่นี่ที่นั่นเพราะว่าเป็นเทรนด์.ถ้าคุณอยากได้ห้องน้ำแยกจากห้อง,แต่ไม่ใช่โมเตล,ผมขอแนะนำDalsup เกสท์เฮาส์.
+ที่อยู่: 1319-1, Hyeopjae-ri, Hallim-eup, Jeju-si, Jeju-do
+ โทรศัพท์: 010-8990-7037
+ การจองและการติดต่อ: เยี่ยมชมเว็บไซต์click
บ้านของผู้ชนะมาสเตอร์เชฟเกาหลี'Aru yo 2'
มีรายการแข่งขันทำอาหารที่ดังเรีกว่า"มาสเตอร์เชฟเกาหลี".มีร้านอาหาร,ของเชฟ Kim Seung min,ผู้ชนะในซีซั่นที่หนึ่ง.ที่นี่มีชื่อว่า'Aru yo 2'. 'Aru yo'หมายถึง"มันมี~"และมันถูกแปลงให้เป็น"มันมีอาหารอร่อย~","อร่อย","มันมีส่วนผสม".มันเป็นชื่อที่สนุก.
ชุดหมูเสริฟก่อน.เครื่องเทศของ Kimโรยอยู่บนข้าว,กิมจิสามจาน,สตูว์รเย็นรสทะเล,และอาหารที่เป็นหมูที่ผมไม่เคยเห็น.
งา,ไม้อุ่นๆ,หัวหอม,ข้าวโพด,ต้นหอม,และผักอื่นๆทอดมาในแผ่นเดียวกัน.เพราะน้ำมันที่สะอาดในการทอด,ผักนั้นไม่มัน,และกรอบ.การทอดผักที่ปราณีตทำให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง.
ผมรู้สึกซาบซึ้งมากๆ,เพราะร้านนั้นเป็นของเชฟที่ชนะมาสเตอร์เชฟเกาหลี.อาหารอาจจะธรรมดาที่ญี่ปุ่น,แต่สำหรับผม,มันไม่คุ้นเคย,แต่สะอาดและรสชาตินั้นน่าพอใจ.ร้านอาหารญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องปกติที่ Seoul/Gyeonggi,แต่อาหารแบบนี้ไม่ใช่อาหารที่ปกติ,ดังนั้นผมแนะนำให้มาที่ 'Aru yo 'เมื่อคุณมาที่เจจู.
+ ที่อยู่: 255-6, Yeon-dong, Jeju-si, Jeju-do
+ โทรศัพท์:, 064-745-4858
+ เวลาทำการ: 11:30 a.m. to 10:00 p.m.
+ ปิด: วันอาทิตย์,วันหยุด.
ภูมิประเทศอันงดงามที่ถูกซ่อนไว้ที่เจจู,หุบเขา Bangseonmun
อีกครั้ง,เราจะแนะนำสถานที่ที่สวยมากๆและลึกลับและนักท่องเที่ยวก็มาไม่บ่อย.ผมไม่เคยเจอใครที่นี่ตอนที่ผมมา,แม้ว่าผมจะมาที่นี่ทุกครั้งที่มาเกาะเจจู.นี่หมายความว่าไม่ค่อยมีใครรู้จักที่นี่.ตอนนี้,เราไปสู่ความสดชื่นกันเลยมั้ย?
ลงตามบันได,ใต้หุบเขามีที่ว่างเล็กๆดูเหมือนที่ซ่อน,ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และหน้าผา.บรรยากาศขมุกขมัวเป็นแบบที่ผมชอบ.
เพิ่มเติม,พื้นนั้นปกคลุมไปด้วยทรายสีดำเหมือนชายหาด Suwolbongเสียงกรอบแกรบจากเท้าของผมที่เดินมันฟังดูดีจริงๆ.
ผมรู้สึกถึงธรรมชาติ,เนื่องจากที่นี่ไม่ได้ถูกแตะต้องจากมนุษย์มานาน.อาจจะมีไข่ไดโนเสาร์ไกลออกไปก็ได้. ^^
+ ที่อยู่: 3819-11, Ora2-dong, Jeju-si, Jeju-do
ทางเดินป่าไม้ซีดาร์ที่งดงาม,อุทยานป่า Jeolmul
ในเจจู,มีทางเดินขึ้นเขาหรือทางเดินป่ามากมาย.วันนี้เราจะไปเดินกันที่อุทยานป่าตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟ,Bonggaedong,เมืองเจจู.พื้นที่นี้กว้างกว่าสามล้านha, และกว่า90% เต็ไปด้วยต้นซีดาร์อายุกว่า45ปี.และนั่นอาจจะทำไมที่นี่ถึงเย็น,เมื่อเดินผ่านป่าแม้แต่หน้าร้อน.ลงไปข้างล่างกันเถอะ.
ไปเดินผ่านDolharbang และเข้าไปในป่ากันเถอะ~
มันค่อนข้างร้อน,และหน้าตาของร่มของป่าทำให้คุณรู้สึกเย็น,ใช่มั้ย? ป้ายไม้ที่ต้อนรับผมมันน่าประทับใจจัง ฮิฮิ.
มีม้านั่งไม้เตี้ยๆตรงนั้นตรงนี้,ซึ่งคุณสามารถกินอาหารกลางวันหรือพักซักหน่อย.
มีความคิดเห็นมั้ย?มันเป็นสไตล์ Gangnam~! นั่นเป็นชิ้นงานที่ตลก.
เมื่อผมโยนขนมปังลงไป,ปลาคาร์ฟก็รุมล้อม.
ทางเดินนั้นหลากหลายสตั้งแต่สั้นจนยาว,แะเดินในป่าประมาณ2km,ซึ่งมันก็ไม่ยากใช้เวลาประมาณ40นาทีที่จะดูรอบๆ,คิดรวมขึ้นและลงเขา.และทางเดินลงเขาและขึ้นเขาทั้งหมดไม่มีบันได,และส่วนพื้นปูด้วยไม้.นอกนั้นก็เป็นหินเรียบอย่างที่โชว์ในรูปด้านบน,ซึ่งโอเคที่จะเอารถเข็นเด็กหรือรถเข็นไป.
+ ที่อยู่: San 78-1, Bonggae-dong, Jeju-si, Jeju-do + โทรศัพท์: 064-721-7421
Namokdo,ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในเจจูที่ซึ่งชาวท้องถิ่นชื่นชม
สมัยนี้มีเกสท์เฮาส์ที่ถูกกว่าและสะอาดกว่า,ต้องขอบคุณเที่ยวบินแบบประหยัด.แต่เพราะว่านักท่องเที่ยวต้องซื้อกินทุกมื้อ,ราคาของร้านอาหารที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยังเป็นภาระ.ดังรั้น,วันนี้ไปที่
Namokdo กันเถอะ, ตั้งอยู่ในGasi-ri,
Pyoseon-myeon ที่ที่เราสามารถอร่อยกับหมูท้องถิ่นด้วยราคาที่เหมาะสม.
Namokdoนั้นเห็นได้ตรทางเข้าหมู่บ้าน Gasi-ri.มันเป็นร้านอาหารธรรมดาๆในชานเมืองของเจจู,ซึ่งไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆ,แต่ชื่อเสียงมันนั้นกว้างไกล,และนักท่องเที่ยวมากมายชอบรสชาติอาหารและราคาที่ถูก.
เพราะว่านักท่องเที่ยวหลายคนถ่ายรูป,เด็กท้องถิ่นก็ทำท่าดีดีสำหรับถ่ายรูป.ผมจะให้แว่นตาเจ๋งๆกับพวกคุณ,สำหรับรูปของคุณใช่มั้ย. ^^ *
ราคานั้นเหมาะสม,ใช่มั้ย? ถ้าคุณอยากกินหมูสามชั้นที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่เจจู,200g สำหรับหนึ่งคนประมาณ15,000วอน.แต่ที่นี่ที่ร้าน Namokdoราคา9,000วอน,แม้แต่เนื้อดิบราคา6,000วอน .และบะหมี่ราคา 3,000วอน!!! เรามาเพื่อกิน,ดังนั้นเราสั่งของย่างสำหรับสองที่.
เครื่องเคียงสี่ที่และssamjang,ผักก็ถูกเสริฟ.กิมจิและkkakdugi รสชาติแตกต่างจาก Seoul/Gyeonggi นิดหน่อย,แต่มันก็ไม่แย่มาก.
พวกเขาเสริฟเนื้อย่างบนที่ย่างและเทน้ำซุปลงไป.หลังจากนั้นลูกค้าควรจะทำและกินด้วยตัวเอง.
ผมสงสัยว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง,แต่ตอนนี้ผมเห็นมันเหมือนผัดเผ็ดหมู,กับพริกแดงบด.เมื่อหมูสุก,คุณสามารถใส่ถั่วงอกและปรุงรสด้วยน้ำส้มและผัดมันด้วยกัน.
ข้าวหนึ่งถ้วยเป็นตัวเพิ่มรสชาติ,ดังนั้นตอนผมสั่ง,เขาจึงเสริฟซุปหัวไชเท้าด้วย.
ผมชอบความอบอุ่นแบบบ้านๆ,ข้าวนั้นเหลือเฟือ.
มันอร่อยถ้ากินเนื้อกับถั่วงอกและต้นหอมและผักกาด~
หรือผสมเนื้อกับข้าวก็อร่อเหมือนกัน.
Gasi-ri Pyoseon-myeon, เป็นที่ที่ร้าน Nomokdoนั้นตั้งอยู่,มันเป็นหมู่บ้านชานเมืองเงียบๆในเจจู.
ฮิฮิ ผมพยายามถ่ายรูปภรรยาผม,และลูกหมาก็พยายามเข้ามาระหว่างเรา.
เจ้าลูกหมาตัวนี้ต้องฉลาดมาก.เราหัวเราะเยอะมาก,ตลกเพราะเจ้าหมาตัวนั้น.
ร้านNomokdo นั้นจริงๆแล้วมีชื่อเสียงในท้องถิ่น,แต่ไม่นานมานี้ก็เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว,มีนักท่องเที่ยวมากมายมาที่นี่.ยังไงซะ,มันก็ยังเป็นร้านอาหารของชาวท้องถิ่นซึ่งเราได้ยินภาษาเจจูในระหว่างทานอาหาร.อาหารนั้นอร่อยและเยอะมาก,แต่เราก็ยังได้สนุกกับบรรยากาศที่เป็นมิตรของชนบทในเจจูที่ร้าน Nomokdo.
+ ที่อยู่: 1877-6, Gasi-ri, Pyoseon-myeon, Seogwipo-si, Jeju-do
+ โทรศัพท์: 064-787-1202
+ เวลาทำการ: 9:00 เข้าถึงสองทุ่ม, วันหยุดไม่แน่ชัด.