Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
269 | 19901100

Suwon #2 - มรดกโลก'ป้อมSuwon Hwaseong, Suwon Mandu - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
최종 수정일 : 2017/04/05

여행지역 : South Korea
 | 조회수 : 481464
https://blog.lookandwalk.com/ko/blog/mazinguide/1553/trackback

UNESCO World Heritage 'Suwon Hwaseong Fortress' มรดกโลก'ป้อมSuwon Hwaseong '


คุณไม่สามารถพูดได้ว่าคุณมาเที่ยวที่ Suwonถ้าคุณไม่ได้มาที่นี่.ป้อม SuwonHwaseong(水原華城)นั้นตั้งตระหง่านและมีความยาว6km เป็นซากที่คงรูปอยู่เกือบสมบูรณ์.Suwoncheon (แม่น้ำ) เชื่อมต่อกับHwahongmun(ประตูHwahong )นั้นยังคงไหลอยู่,และถนนที่เชื่อม Paldalmun(ประตูทางใต้),Janganmun(ประตูทางเหนือ), Hwaseong Haenggung (พระราชวังชั่วคราว Hwaseong)และChangryongmun(ประตูChangryong ) นั้นยังถูกใชเป็นถนนหลัก.ไปเดินดูป้อมSuwon Hwaseong ที่คงรูปแบบมากว่า200ปีกันเถอะ.ถ้าคุณดูรอบๆปราสาท,มันใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งและถ้าคุณนั่งรถไฟ Hwaseongตรงกลาง,ันจะใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง.



เราจะเริ่มกันที่Hwahongmun. Hwahongmun เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในหมู่ช่างภาพ.นี่เป็นประตูน้ำสร้างขึ้นเหนือ Suwoncheonที่ไหลผ่านกลาง Hwaseongซึ่งป้องกันน้ำท่วม Suwoncheonในหน้าฝนและป้องกันข้าศึก.เมื่อแม่น้ำมีน้ำมากในหน้าร้อนมันจะไหลแรงและสร้างรุ้งในท้องฟ้า.ซึ่งHong(虹)ในHwahongmun หมายถึงรุ้ง.



น้ำนั้นใสมากสำหรับน้ำที่ไหลผ่านเมืองใหญ่ที่มีประชากร 1.1 ล้านคน.มันมีปลาเยอะด้วย.รู้ไว้นะ, Suwon-siมันเป็นเมืองใหญ่ที่ใหญ่กว่า Ulsan.แต่มันไม่ใช่เมืองหลักเพราะมันมีโซลและIncheon ในGyeonggi-do.



น้ำนั้นมีไม่เยอะเหมือนกับที่อ่างเก็บน้ำ Gwanggyoมันฝนตกไม่มากหน้าร้อนนี้.ถ้าฝนตกปกติ,มันน่าจะไหลแรงและผมก็พลาดมัน.



แต่ต้องขอบคุณน้ำพุ,รุ้งที่ยังอยู่บนท้องฟ้า.นี่เป็นรูปที่ถ่ายเมื่อสองสามวันก่อน.



ผมอยากที่จะแสดงให้คุณเห็นว่ามันเป็นยังไงตอนกลางคืนที่นั่น.ศาลานั้นคือBanghwasuryujeong. ผมไม่ได้เอาไตรพอตมาและผมต้องเอากล้องวางตรงสิ่งก่อสร้างข้างๆซึ่งมันไม่ค่อยสะดวกแต่แค่อยากจะให้เห็นว่ามันดูเป็นยังไงตอนกลางคืน.




นี่คือBanghwasuryujeong(訪花隨柳亭) ด้านหลังHwahongmun ในรูปด้านบน.นี่คืออาคารที่สร้างเพื่อการทหารเช่นการเฝ้าระวังและควบคุมพื้นที่และในการที่เป็นศาลา,ซึ่งมันครีเอทฟมากๆที่คุณไม่สามารถหาที่ไหนได้อีก.


Banghwasuryujeongสวยกว่ามากถ้ามองมันไปด้วยกับดอกบัวด้านนอกปราสาท.ในฤดูใบไม้ผลิ,มันมีวิวที่สวยมากกับรอยัล อาเซเลียพวกนั้นที่บานอยู่ในพื้นที่.นี่ได้ถูกเือกให้เป็นสมบัติแห่งชาติNo. 1709ซึ่งแสดงให้คุณเห็นถึงเทคนิคการก่อสร้างในยุคศตวรรษที่ 18th.




กำแพงของSuwon Hwaseongดูสวยจากทางด้านนอก.ผมมาที่นี่ทั้งสี่ฤดูและดอกไม้ตอนฤดูใบไม้ผลิ,หญ้าสีฟ้าในฟดูร้อน,ใบไม้แห้งในฤดูใบไม้ร่วง,และหิมะในฤดูหนาวทั้งหมดทำให้มันเป็นสถานที่ที่สวยงาม.


มันเป็นสิ่งที่น่ตื่นเต้นถ้าคุณได้เห็นBanghwasuryujeong ในที่ที่สูงขึ้นเมื่อมันได้ผสมผสานกับบ่อน้ำชื่อYongyeon ที่ซึ่งดอกบัวกำลังบาน.ผมต้องบอกว่ามันเป็นทิวทัศน์ที่งดงามของป้อม Suwon Hwaseong.ถ้าหิมะตกจนถึงหัวเข่า,คุณอาจจะร้องไห้ที่ได้เห็นวิว!



ผมจะเดินไปตามกำแพง.มันไม่มีขึ้นหรือลงเขาซึ่งมันก็ไม่น่าจะยาก.



ป้อมSuwon Hwaseongนั้นได้ถูกออกแบบตามหลักฟิสิกส์.กำแพงนั้นโค้งเพื่อป้องกันจุดบอดและมันยังเพราะเหตุผลทางภูมิศาสตร์,พวกเขาสร้างChi(雉) ซึ่งป้องกันจุดตาย.เหมือนอย่างในภาพ,ส่วนบนของปราสาทนั้นเป็นมุมที่สามารถเห็นในทุกๆทางและเขายังสามารถเห็นทั้งสูงและต่ำแม้แต่ผ่านปืน.มันละเอียดจริงๆ.



มองกลับไปยังกำแพงมันสวยจริงๆ,ใช่มั้ยล่ะ?ที่ส่องทางนั้นเป็นอาคารที่มีชื่อว่าPoru(砲樓) ที่ซึ่งพวกเขาโจมตีข้าศึกที่เข้ามาใกล้กับปืนของปราสาท(ปืนใหญ่).


ขณะที่ผมกำลังชื่นชมความงามของทิวทัศน์,ผมก็มาถึงDongjangdae. คุณสามารถลองยิงธนูที่นี่และนี่ก็เป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟHwaseong ที่พาคุณไปยังSeojangdae.


ผมสงสัยเกี่ยวกับธนูผมจึงลองมันดู,ผมได้ลูกธนูสิบดอกมันราคา 2,000วอน.มันอนุญาติเฉพาะคนที่โตกว่าชั้นประถม,ซึ่งอาุมากกว่า7ขวบ.


เนื่องจากมีผู้แนะนำ,เราก็พร้อมแล้ว,และยิง!นี่เฉพาะฝึกซ้อมเท่านั้นซึ่งมันไม่ยากที่จะดึงสาย.แต่นิ้วจะเจ็บนิดหน่อยเมื่อผมดึงมัน.ถ้าคุณผ่านมาที่นี่,คุณน่าจะลองดู.มันจะเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับลูกๆของคุณและแม้แต่ำหรับผู้ใหญ่.



เราเดินจนถึงSeojangdae.ถ้าขาหรือส่วนอื่นๆของคุณรู้สึกไม่สบาย,คุณสามารถนั่งรถไฟHwaseong และบิน.



มันน่าจะสนุก.ค่าบริการรถไฟHwaseong อยู่ด้านบน.ภูเขา Paldal นั้นอยู่ต่ำกว่าภูเขาSeojangdae และ Yeongmudaeนั้นก็คืออย่างเดียวกับDongjangdae.



ต่อจากศูนย์ยิงธนู,มีเต้นท์กว้างๆสองเต้นท์ที่คุณสามารถที่จะเช่าจักรยาน,ที่หนึ่งถัดจากศูนย์ให้บริการการท่องเที่ยวDongjangdae ,ห้องขายตั๋ว JanganmunและลานHwaseong Haenggung .ทุกคนที่มีบัตรประชาชนสามารถที่จะเช่าจักรยานได้และราคามันคือ 1,000วอนต่อวันจนถึงหกโมงเย็น.



เดินมาซักพักผ่านDongjangdae,คุณจะเห็น Changryongmun(蒼龍門), ประตูตะวันออกของป้อม Suwon Hwaseong.น่าเสียดาย,มันพังระหว่างสงครามเกาหลีและสร้างใหม่เมื่อปี1975.


ทุกอย่างในป้อมSuwon Hwaseong มีชื่อของคนอยู่.ผู้ซึ่งได้สร้างมันและวีธีการสร้างก็ได้ถูกจารึกไว้บนทุกอย่าง,ชื่อของคนที่สร้าง Changryongmunนั้นได้้ถูกเขียนไว้.ประตูและกำแพงอื่นๆนั้นไม่รวมด้วย.วิญญาณของพวกเขาได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์นั้นดีกว่าผู้คนจากยุคสมัยนี้.



มอง Changryongmunจากทางด้านนอก,มันป้องด้านหน้าเพื่อป้องกันประตูป้อมและมีโครงสร้างแบบเปิดOngseong ที่แต่ละด้าน.ข้าศึกจะต้องเดินผ่านทางเล็กๆเพื่อโจมตีประตูปราสาทที่ถูกซ่อนไว้ด้านในและปราสาทก็ได้ถูกสร้างแบบที่จะทำลายข้าศึกจากที่แคบๆ.ถ้าข้าศึกบุกOngseong,พวกเขาก็จะถูกโจมตีจากทุกทาง.บรรพบุรุษของเราฉลาดจริงๆ.



สิ่งก่อสร้างนี้ที่คุณสามารถเห็นอยู่ทางด้านซ้ายจากฝั่งตรงข้ามของChangryongmun, และสิ่งก่อสร้างนี้ชื่อ Chi(Chiseong, 雉城) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเิาไว้โจมตีข้าศึกที่ปีนข้ามกำแพง.



เดี๋ยวก่อน,คุณมองที่อิฐของChi?ไม่เหมือนส่วนอื่น,Chiนั้นถูกสร้างด้วยอิฐเล็กๆ.เพราะว่าอิฐก้อนเล็กสามารถทำให้กำแพงแน่นขึ้นได้และหนาไม่พังเวลาโดนข้าศึกโจมตี.ภาพด้านบนคือภาพที่ผมถ่ายด้านนอกกำแพงระหว่างทางไป Seojangdaeในฤดูใบไม้ผลินี้และผมก็กำลังจะเปรียบเทียบ.กำแพงธรรมดาที่มีส่วนประกอบของหินก้อนเล็กและใหญ่.คุณคิดว่าอะไรที่เคยใช้ทำให้หินก้อนใหญ่กลายเป็นก้อนเล็ก.



พวกเขาทำหินให้แตกด้วยวิธีนี้.คุณเจาะรูที่หินด้วยสิ่ว,ใส่ไม้ลงไปและใส่น้ำ.แล้วแท่งไม้ก็จะใหญ่ขึ้นและหินก็จะแตกออก.ไอเดียดีจริงๆ,ใช่มั้ย?


หลังจากงานพวกนั้น,ป้อม Suwon Hwaseongก็ถูกก่อสร้างขึ้นจาก7มกราคม, 1794ถึง 10กันยายน, 1796.ปราสาทนี้มีความยาว 5.3kmได้ถูกสร้างขึ้นภายใน2ปีกับ6เดือนซึ่งเป็นเวลาที่สั้นที่สุดในโลกประวัติศาสตร์.คุณคิดว่าทำไมมันถึงได้เร็วอย่างนี้?


ในตอนนั้น,ทุกคนคาดว่ามันจะใช้เวลาสิบปีแต่เหตุผลที่ทำไมมันถึงได้เร็วก็เพราะว่าเขาจ่ายค่าจ้างร้อยเปอร์เซ็นให้กับคนสร้าง.รัฐบาลตั้งใจว่าจะจ้างพระและคนงานเพื่อที่จะสร้างปราสาทนี้แต่กษัตริย์ Jeongjoนั้นก็มีความคิดที่ว่านี้และสั่งให้จ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนแก่ผู้ที่สร้าง,ไม่ใช่ให้เสื้อผ้าสำหรับใส่ในฤดูหนาว,เขายังจ่ายเงินให้กับคนงานที่แม้เพียงทำงานแค่ค่อนวัน.เขามียาให้ด้วยซึ่งไม่นึกว่าจะมีในสมัยนั้น,ไม่ต้องพูดถึงว่าคนงานก็ต่างมีความสุขกับค่าตอบแทน,พวกเขาจึงทำงานด้วยความภูมิใจเพราะรู้สึกว่าถูกปฏิบัติด้วยดี.

นั่นทำไม Jeongjoจึงถูกเรียกว่าเป็นJeongjo กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสมัย Joseon หลังจากที่เขาตาย.ถ้าคุณเดินขึ้นเขามาหน่อยหลังจากที่คุณผ่านPaldalmun,คุณจะเห็นSeonamAmmun (ตะวันตกเฉียงใต้) เล็กๆ. SeonamAmmunนั้นตั้งอยู่ที่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้,และ Ammunก็คือประตูเล็กๆบนกำแพงเพื่อขนส่งเสบียงสู่ปราสาทโดยที่ข้าศึกจะไม่รู้เลย,และเมื่อมันถูกโจมตี,มันก็อาจจะพังลงมาปิดประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้าไปได้.



ไม่เหมือนกับ Ammun อื่นๆ,คุณจะเห็นทางเดินยาวๆด้านใน SeonamAmmun และนั่นคือ Hwayangru (華陽樓) ตรงสุดทาง.



Hwa(華) เป็นตัวแทนของป้อม SuwonHwaseong และYang(陽) หมายถึงทิศใต้ที่พระอาทิตย์ส่องแสง.นั่นคือHwayangru เป็นศาลาในทางใต้ของปราสาท.คุณคิดว่าธงทั้งสองข้างนั้นหมายถึงอะไร? คุณจะเห็นความแตกต่างของสีธงในป้อม Suwon Hwaseong และแต่ล่ะสีเป็นตัวแทนของหน่วยทหารที่เป็นพื้นที่ของเขา.ซึ่งหมายถึง,มันจะแสดงให้เห็นว่ากองไหนปกป้องส่วนไหน.



ทำไมเขาสร้างHwayangroo จากกำแพง?ถ้าคุณดูที่ภาพด้านบน,พื้นที่จาก Seonamammun ถึง Hwayangrooนั้นตั้งอยู่ที่สูง.ในสงครามของสมัยJoseon ,ที่ที่คุณครอบครองยิ่งสูง,ก็มีโอกาศที่จะชนะมากขึ้น.

ซึ่งถ้าคุณอยู่เหนือข้าศึก,ส่วนมากคุณก็จะชนะศึก,และ Jeong Yak-yongผู้ซึ่งออกแบบป้อม Suwon Hwaseong ได้คิดถึงว่าจะปกป้องโครงสร้างของมันได้อย่างไรจากส่วนบนเขาจากข้าศึก.นั่นที่เขาคิดถึงว่าจะสร้างHwayangru ตามกำแพง.ชึ่งข้าศึกทุกคนก็จะอยู่ใต้กำแพง.พวกเขาฉลาดมากใช่มั้ยล่ะ?



เราออกจาก Hwayangruและเดินนิดหน่อยไปยังSeojangdae.ทางขึ้นเขามันไม่ชันมากซึ่งเราก็สามารถพยายามได้อีกหน่อย!



เราอยู่ที่Seojandae แล้วตอนนี้. Jangdaeคือที่ที่คุณสามารถสั่งการคนของคุณและมันมีสองJangdae,Dongjangdae(Jangdae ตะวันออก) และSeojangdae(Jangdae ตะวันตก ), ในป้อม Suwon Hwaseong.นั่นคือที่สำหรับยิงธนูมันคือที่ Dongjangdae. Seojangdaeคือกุญแจสำคัญที่ช่วยป้องกัน Suwon Hwaseongที่ซึ่งคุณสามารถมองได้ชัดโดยระยะ100li(ประมาณ 500km) รวมถึงภายในปราสาทด้วย.



กรอบภาพของ Hwaseong Jangdaeในเรื่องที่สองนั้นถูกเขียนโดยกษัตริย์Jeongjo. ที่Seojangdae,คุณจะเห็นพื้นที่ Suwon-siทั้งหมด.ถ้าคุณหันมา,คุณจะเห็นวิวนี้.และกำแพงปราสาทที่ยังคงอยู่แบบเดิมนั้นสูงส่งถ้าคุณวางแผนที่จะไปที่Suwon, คุณอาจจะเหงื่ออกนิดหน่อยแต่คุณควรจะปีนขึ้นมาที่นี่.คุณจะเห็นภูมิปัญญาของคนเก่าแก่และนี่ทำไมมันถึงถูกเลือกให้เป็นภูมิปัญญาโลกโดยยูเนสโก้.


Map

ที่อยู่: 190, Yeonmu-dong, Jangan-gu, Suwon-si, Gyeonggi-do (경기도 수원시 장안구 연무동 190)

โทรศัพท์: 031-251-4435



Suwon Mandu 수원만두

Suwon Mandu กับประสบการณ์กว่า40ปีของประวัติในการทำเกี๊ยว

มันมีชาวจีนหลายคนใน Suwonนานมาแล้วซึ่งมันก็ไม่ยากที่จะหาร้านอาหารจีนแท้ๆที่ไม่ Jjajangmyeon และ Jjambbong บนเมนู.ในหมู่ของร้านเหล่านั้น,ผมจะขอแนะนำคุณ Suwon Mandu(เกี๊ยว)ที่เปิดขายเกี๊ยวมากว่า40ปี.



Suwon Manduอยู่ห่างจาก Hwaseong Haenggung5นาที.สถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุด,ซึ่งมันก็เป็นสถานที่ที่จะกินอาหารหลังจากเที่ยว.ฝั่งตรงข้ามจากลานHaenggung ,ไปทางด้านหลังเพื่อที่หามัน.ที่นี่ไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงแต่ยังอยู่ในตรอกแคบๆซึ่งมันอาจจะหายากในตอนแรก.เดินตามตรอกว่างๆ,คุณอาจจะคิดว่า"มันใช่ที่นี่หรอ?"แต่ไม่ต้องกังวลและเดินตรงไป,คุณจะเห็นโคมไฟสีแดงเหมือนกับในรูป.



Suwon Manduทำอาหารจีนมาตั้งแต่พนักงานทั้งหมดเป็นคนจีน.อย่าหงุดหงิดที่คุณไม่สามารถเห็นJjajangmyeon หรือ Jjambbong และต้องเปิดใจว่าคุณสามารถกินอาหารที่แตกต่างในเกาหลี.ดังนั้นเราจึงสั่ง Gunmandu(เกี๊ยวทอด)ที่มีชื่อเสียง, Dandantangmyeonสำหรับภรรยาผมและ Japchaebap(ข้าวกับผัดวุ้นเส้นและผัก)สำหรับผม.อย่างแรก, Japchaebapก็ถูกเสริฟ.


คุณสามารถหาJapchaebap ได้ง่ายๆในร้านอาหารจีนซึ่งผมอยากจะรู้ว่ามันต่างจากที่อื่นหรือเปล่า.ก่อนอื่น,วุ้นเส้นนั้นใสไม่ชุ่มในซีอิ๊วดำหรือมีกลิ่นพริกไทยฉุนแบบปกติ,ดังนั้นผมต้องขอบอกว่ามันดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิง.


ไม่เหมือนกับ Japchaeของเกาหลีที่ใส่ซีอิ๊วหรือ Japchaeจีนที่ผัดในน้ำมัน, Japchaebap ที่ Suwon Manduมีผักเยอะซึ่งทำให้มันครบหมู่,ซอสไม่เข้มเลย,และจืด.ผักกรอบและวุ้นเส้นก็หนึบๆ,ซึ่งผมว่ามันมีรสเพื่อสุขภาพทุกส่วนผสมมีรสชาติของมันเอง.มีซุปเสริฟกับJapchaebap.



ผมคิดว่ามันคือ deonjanggukแต่มันเป็นซุปเนื้อใส่ซีอิ๊วและเครื่องเทศของจีน.ซุปที่เผ็ดและเค็มเข้ากันกับ Japchaebapจืดๆอย่างดี.


จานที่สองคือDandantangmyeon ที่ภรรยาผมสั่ง.คุณอาจจะรู้จักมันในชื่อTantanmyeon.มันยากที่จะหาที่เกาหลียกเว้นที่โซลแต่เธอเคยลองที่Crystal Jade ระหว่างทริปไปฮ่องกง.เธอจะสั่งมันเสมอเวลาไปร้านอาหารจีน,นี่เป็นบะหมี่กับซีฟู้ดและผักในน้ำซุปทำจากถั่วต่างๆรวมถึงถั่วลิสงและงา.มันควรจะเป็นบะหมี่น้ำซุปถั่วเกาหลี.





คุณจะต้องชิซุปก่อน.ผมรู้สีกได้ถึงรสชาติที่เข้มข้นของถั่ว.มันอาจจะมันดังนั้นซอสพริก,ซีฟู้ดสดๆ,กะหล่ำและผักฉ่อยถูกใส่ในซุปเพื่อตัดเลี่ยน.ถ้าคุณลองชิมมันก่อน,มันอาจจะทำให้คุณแขยงที่กินซุปถั่วร้อน,ไม่ใช่แบบเย็น.แต่จริงๆแล้ว,ถั่วนั้นรสชาติเข้มและหวานซึ่งผมรู้สึกเหมือนกินขนมถั่วและผมไม่ชอบมันเท่าไหร่.แต่ภรรยาผมว่ามันติดและก้มหน้าลง,กินมันต่อเหมือนกับผีดิบ.



บะหมี่นั้นเป็นแบบทั่วๆไปในJjambbong.หนึบๆกำลังดีและนุ่ม.



ทา-ด๊า!!ในที่สุดก็เมนูพิเศษของSuwon Mandu!! เกี๊ยวที่ทำให้ร้านนี้เปิดมาได้ถึง40ปี!!เกี๊ยวทอดเสริฟแล้ว.



Suwon Manduมีเกี๊ยวทอด,เกี๊ยวต้มและเกี๊ยวน้ำขึ้นอยู่กับว่าเขาจะทำมันยังไงกับเครื่องปรุงที่เหมือนกัน.อันที่เป็นที่นิยมที่สุดคือเกี๊ยวทอด.



มันมีเนื้อบดและผักอยู่ด้านใน,และรสชาติก็ยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ดีที่ว่ามันไม่มันหรือเลี่ยนเลยแม้แต่พวกเขาจะทอดมันในน้ำมัน.โอ้,หนังมันก็พิเศษด้วย,เขาห่อมันด้วยมือทุกอัน,ซึ่งมันก็หนึบๆ.เมื่อคุณกัด,คุณสามารถรู้สึกถึงซอสที่ไหลจากหนังกรอบๆและหนึบๆซึ่งมันก็อร่อยมากและจือ.ตอนกลับหลังจากที่พอใจกับอาหารแล้ว,ของเก่า,ลูกคิด!มันไม่ใช่สำหรับตกแต่งแต่เจ้าของใช้มันที่เคาท์เตอร์.เจ้าของร้านพูดภาษาจีนเก่งมากเนื่องจากมันเป็นร้านอาหารจีนซึ่งแม้แต่ลูกคิดก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในร้านขายของเก่า.


Manduไม่ใช่ร้านอาหารจีนทั่วไปในเกาหลีแต่เป็นร้านอาหารจีนแท้ๆโดยชาวจีนซึ่งคุณสามารถลิ้มลองอาหารจีนด้วยราคาที่เหมาะสม.โดยเฉพาะ,มันใกล้กับที่เที่ยวมากมาย, Hwaseong Haenggung, ป้อมSuwon Hwaseongและ Haenggungdongหมู่บ้านเขียนภาพดั้งเดิม,ที่คุณสามารถกินอาหารหลังจากเที่ยวเสร็จ,มันเป็นร้านที่ต้องมาชิมที่ผมต้องขอแนะนำ!


Map

ที่อยู่: 5-2, Paldal-ro 1-ga, Paldal-gu, Suwon, Gyeonggi-do (경기도 수원시 팔달구 팔달로 1가 5-2)

โทรศัพท์: 031-255-5526

เวลาทำการ: 11:30~ 21:30, ไม่มีวันหยุด.




유네스코, 세계문화유산, 수원화성, 화성, 성, 화홍문, 방화수류정, 정자, 창룡문, 서남암문, 화양루, 서장대, 수원만두, 잡채밥, 단단탕면, 탄탄면, 군만두, UNESCOWorld, CulturalHeritage, SuwonHwaseongFortress, HwaseongFortress, Fortress, HwahongmunGate, BanghwasuryujeongPavilion, Pavilion, ChangnyongmunGate, SeonamAmmun, SouthwestAmmun, Gate, Hwayangru, Seojangdae, Command, Post, Suwondumpling, Japchaebap, Dandantangmyeon, Tantanmyeon, Gunmandu, Frieddumpling, ユネスコ, 世界文化遺産, 水原華城, 華城, 性, 華虹門, 訪花隨柳亭, あずまや, 蒼龍門, 西南暗門, 花兩樓, 西将台, 水原餃子, ジャプチェバプ, ダンダンタン麺, 坦坦麵, タンタン麺, 焼き餃子, UNESCO, 世界文化遗产, 水原华城, 华城, 城, 华虹门, 水原访花随柳亭, 亭子, 苍龙门, 西南暗门, 华阳楼, 水原饺子, 韩式杂菜盖饭, 担担汤面, 担担面, 油炸饺子, ยูเนสโก, มรดกโลก, ซูวอน, ดาวอังคาร, จังหวัด, hwahongmun, ดับเพลิงryujeongน้ำ, สเปิร์ม, changryongmun, ตะวันตกเฉียงใต้ammun, Hwayangลู, seojangdae, ซูวอนเกี๊ยว, japchaebap, พื้นผิวอาบน้ำยาก, พื้นผิวของแข็ง, v
한줄의견(0) 
PDF
북마크
이메일
0bytes / 200bytes
목록보기