Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
1068 | 20030956

เคียงนัม ทังยอง #2 - วัดมิแรซา - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
Last Modified : 2017/03/30

Travel regions : South Korea
 | Hits : 484053
https://blog.lookandwalk.com/ru/blog/mazinguide/1007/trackback

ไม่ทราบสถานที่แน่ชัดให้กับนักท่องเที่ยวของทังยอง, วันมิแรซาและป่าสน

ขับรถจากเคเบิ้ลคาร์ทังยองประมาณ 10 นาที, ที่นั่นมีวัดเล็กๆ แต่สงบเงียบเรียกว่า วัดมิแรซา ล้อมรอบไปด้วยป่าสนและสระที่น่ารักทางด้านใต้เนินเขาของภูเขามิรึก. ไม่ค่อยเป็นที่รู้่จักของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น เพราะฉะนั้นที่นี่จึงเงียบสงบ ที่นี่คงจะดีที่สุดที่จะใช้เวลาเดินสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสถานที่แออัด. ทั้งนี้, ก็เป็นวัดเดียวที่มีทางเดินจากป่าสนในเกาหลี.



ที่นั่นมีดอกไม้ที่สวยงามทั้งสองข้างทางและหลังจากที่ข้ามสะพานหินที่น่ารักเหนือบ่อน้ำมีปลาในนั้นด้วย, คุณจะเข้าสู่วันมิแร.



วัดมิแรซาซ่อนตัวอยู่ด้านอยู่ในเนินเขาของภูเขามิรึก นั่นจะทำให้คุณประทับใจว่าที่นั่นได้แยกตัวได้อย่างสมบูรณ์จากโลก.



วัดเล็กมากไม่มีแม้กระทั่งเสาประตู (ประตู อิลจูมุน) และคุณจะเข้าทางลานด้านหน้าของแดอึงจอน ทันทีที่คุณเดินข้ามป้ายสัญลักษณ์เขียนว่า'มิแรซา(彌來寺)'.



ลักษณะเฉพาะ, มีถนนที่ปูด้วยลูกรังเป็นรูปกางเขนเป็นสีเหลี่ยมตรงลานส่วนที่เหลือตกแต่งด้วยหญ้า. ลานที่เต็มไปด้วยโคมไฟดอกบัวห้อยเต็มลานเป็นทัศนียภาพที่พิเศษที่คุณจะเห็นได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ. พวกมันจะหายไปเมื่อฝนเริ่มตกในฤดูร้อน.



แบบของความคิดหวังและความปราถนาที่ต่างกัน พร้อมกับการแขวนขึ้นบนท้องฟ้าในสีที่แตกต่างกัน. ผมก็ปราถนาให้คุณได้สมหวังในสิ่งที่คุณปราถนา.



ผมคิดว่าผมควรจะจิบเพราะมันไหลบริสุทธิ์มาจากภูเขา.



ขันน้ำได้แขวนคว่ำอยู่ข้างๆ ดูน่ารักดี. ผมจะขอเตือนคุณว่าควรจะเงียบในบริเวณนั้นเพราะเนื่องจากพระสงฆ์ได้มีการฝึกบำเพ็ญตบะ และได้โปรดอย่าล้างหน้าหรือล้างอย่างอื่นที่น้ำนี้ เพราะเป็นน้ำที่ใช้สำหรับดื่ม. :)



ผมไม่ได้นับจำนวนทั้งหมดแต่ผมเคยไปมาแล้วมากกว่า 200 วัดในเกาหลีและต่างประเทศ, แต่ผมต้องพูดเลยว่าที่นี่ให้ความรู้สึกลึกลับ. ผมรู้สึกว่ามีพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก. ทุกคนที่เข้ามาที่จะรู้ว่าผมหมายถึงอะไร.



ในมุมหนึ่ง, มีการตั้งโต๊ะขายของเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ, ที่ซึ่งมีทัศนียภาพที่แตกต่างจากวัดอื่นในเกาหลี. มันทำให้ผมรู้สึกว่าอยู่ในร้านเล็กๆ ในยุค 70 และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องพูด, ผมรู้สึกว่าวัดนี้แตกต่างด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง.



ผมไม่มีศาสนาและผมก็ชอบที่จะดูรอบๆ อาคารทางศาสนารวมไปถึงโบสถ์, โบสถ์ของแคทอลิค, วัด หรือ มัสยิด,และ เมื่อผมอยู่ที่นั้นผมไม่ลืมที่จะอธิษฐาน. ที่ผมทำเพราะว่าผมต้องการที่จะแสดงความเคารพต่อศาสนาเหล่านั้น. ผมมีช่วงเวลาฟรีที่ดีมากเช่นกัน ดังนั้นผมจึงได้บริจากเงินสดในกล่องบริจาคเหมือนกับเป็นคำอธิษฐานและค่าเข้า.



แด่พระผู้เป็นในโลกนี้, ตอนนั้นผมได้แสดงความเคารพและได้อธิษฐาน, ทำไมท่านไม่ตอบคำอธิษฐานของผม? :)



ผมเห็นแม้กระทั่งโคมไฟดอกบัวที่แบ่งแยกระหว่างคนรวยและคนจน. ผมสามารถที่จะเห็นโคมไฟดอกบัวกับจานทองคำบนโต๊ะหินข้างหน้าของแดอึงจอน. รวมทั้งพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้าประดิษฐ์สถานอยู่ในเจดีย์หิน 3 ชั้น ด้านหน้าลาน, ฉะนั้นทำไมคุณไม่อธิษฐานที่นั่น? ใครจะรู้? พระพุทธเจ้าอาจจะตอบคำอธิษฐานของคุณก็เป็นได้?



ข้างใต้ของโคมไฟดอกบัว, มีข้อความเป็นตันที่อธิษฐานขอถึงความสุขสบายของคนในครอบครัว.



อย่างไรก็ตาม, Beomjongru ที่ซึ่งมีระฆังแขวนลงมาดูแล้วค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง. ถ้าคุณมองไปบนหลังคา, หลังคาเป็นกางเขนกระจายทุกทิศทาง Paljak และผมต้องพูด, อาคาร SinjaPaljaNugak (หอกางเขน Paljak) ซึ่งหาได้ยากแม้แต่ในเกาหลี. ยิ่งไปกว่านั้น, ผมบอกได้เลยที่นั้นมีพระเขี้ยวแก้วทั้ง 3 ของพระพุทธเจ้า จากทิเบตได้ประดิษฐสถานที่นี่, ผมคาดการณ์ว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ยิ่งนักและจะมีชื่อเสียงในภายหน้าแน่นอน.



ทางด้านขวาของ Beomjongru, นั่นคือ sargent cranberrybush viburnum (佛頭花) บานสะพรั่งด้วยกัน. Buldu ตั้งชื่อให้เพราะว่ารูปร่างเหมือนกันเศียรของพระพุทธเจ้า. และมันจะบานสะพรั่งช่วงใกล้กับวันประสูติของพระพุทธเจ้าที่จะถึงในฤดูใบไม้ผลิทุกปี. ใบไม้จะบานเป็นสีเขียวก่อน, แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีขาวเมื่อพวกมันบานเต็มที่, และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนที่จะร่วงโรย. พวกมันเหมือนพืชไม้ดอกขนาดใหญ่, หรือไม่ใช่?



ผมกำลังจะเดินผ่านสู่ป่าสนจากประตูทางเข้าของวันมิแรซาและสุดท้ายก็จะไปถึงมิรึกโบล.



คุณสามารถที่จะเดิน 200ม ของถนนที่เรียบในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ มันเไม่เหนื่อยเลย. หายใจลึกๆ ขณะที่คุณเดิน.



เส้นทางในบริเวณป่านี้เป็นหนึ่งใน 'ทางน้ำฮอลโย บาดา กิล' ของทังยองเหมือนหนึ่งในเกาะของเกาะเชจูโด, และทำหน้าที่เป็นสะพานของ 6 เกาะที่เชื่อมต่อมหาสมุทรทังยอง. ไม่มีสะพานที่สร้างขึ้นเองท่ามกลาง บาดา บังนิ กิล (ส่วนที่เชื่อต่อมหาสมุทร) บางส่วนพวกเขาใช้สำหรับช่วยเหลือครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเกาะนี้ ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้สำหรับตัดฟืน.



ต้นสนในป่านี้ได้ถูกปลูกคือโดยคนญี่ปุ่นประมาณ 70 ปีที่แล้วและหลังจากเกาหลีได้รับอิสระภาพจากการเป็นเมืองขึ้น, วัดมิแรซาได้ซื้อที่และทำการบำรุงรักษามัน.



ตอไม้ทางประโยชน์ให้กับระบบนิเวศถึงแม้ว่าจะดูสวยงาม. พวกมันอยู่ที่นี่มา 70 ปีแล้ว แต่มันต้องหายไปเพื่อประโยชน์ต่อต้นไม้อื่น.



เดินไปตามทางเดินประมาณ 200ม,คุณจะเห็นมิรึกโบล หันหน้าไปทางทะเลของสุดทางเดิน.



ผมเห็นผู้คนที่มาที่นี่จุดเทียน, จุดธูปและอธิษฐาน. ผมก็อธิษฐานสำหรับพวกเราด้วยเพื่อให้พวกเราได้สิ่งที่ต้องการ, สำหรับสุขภาพ, และสำหรับสิ่งดีในชีวิตพวกเรา.



มิรึกโบลมองไปทางนี้. นี่ไม่ได้อยู่ในแผนของผมแต่ ผมควรจะไปดูเกาะก้อนหินที่มีเอกลักษณ์ที่ มิรึกโบล. ผมจะโชว์ให้คุณดูเร็วๆ นี้, ตามผมมาทางนี้!


วัดมิรึกซา
Map

ที่อยู่ : 192, Mireuksan-gil, Sanyang-eup, Tongyeong-si, Gyeongsangnam-do (경상남도 통영시 산양읍 미륵산길 192)
โทรศัพท์ : 055-645-5324
เวลาเปิดทำการ : 09:00 น.. - 06:00 น.



미래사, 절, 연등, 편백나무, 숲길, 미륵불, MiraesaTemple, temple, lanterns, cypresstrees, trails, Mireukbul, ミレサ, 節, 燃灯, ヒノキ, 森路, 弥勒仏, 弥来寺, 寺院, 扁柏树, 林路, 弥勒佛, Miraesa, ส่วน, โคมไฟ, ขี่, Maitreya
One line comment(0) 
PDF
Bookmark
E-mail
0bytes / 200bytes
View list