Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
1945 | 19925474

Chuncheon #9 - JinboDakgalbi(ไก่Jinboผัดเผ็ด ), สวนหยก - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
แก้ไขล่าสุด : 2017/04/04

สถานที่ท่องเที่ยว : South Korea
 | จำนวนผู้ชม : 477769
https://blog.lookandwalk.com/th/blog/mazinguide/1531/trackback

JinboDakgalbi(ไก่Jinboผัดเผ็ด ) 진보닭갈비


เนื่องจากเรากินDalgalbi, อาหารที่มีชื่อเสียงในChuncheon, กับเนื้อย่างที่ JanghanSutbulDalgalbi, ตอนนี้เราต้องกิน Dalgalbi ปกติบนจานร้อน.



ครั้งนี้,ผมมุ่งหน้าสู่ถนน Dakgalbiที่อยู่ทางเหนือของสถานีNamchuncheon ซึ่งมีชื่อเสียงตั้งแต่การเดินทางได้พัฒนาขึ้นมากกว่าถนนChuncheon Myeongdong Dakgalbi.



คุณไม่จำเป็นต้องออกจากสถานี Namchuncheon,คุณแค่เดินข้ามสะพานลอยและคุณก็จะไปถึงถนน Dakgalbiในสามนาที.



ในหมู่ร้านDakgalbi ที่มากมายบนถนนOnui Dakgalbi ,เราเลือกที่จะลอง JinboDakgalbi ที่มีชื่อเสียงสำหรับMakguksu(บะหมี่buckwheat )ที่แสนอร่อย.


มันเลยสี่โมงไปแล้ว,ช้าไปสำหรับมื้อกลางวัน,แต่ว่ายังมีลูกค้าเยอะอยู่.พนักงานก็ยุ่งกับการเตรียมโต๊ะ.เป็นปกติ,ราคานั้นถูกกว่าSutbuldakgalbi(ไก่ผัดเผ็ดโดยใช้ถ่าน ).



เราสั่ง DalgalbiสำหรับสองคนและMakguksu หนึ่งที่และเราก็คิดว่าเราควรที่จะลองMemiljeon-byeong(แพนเค้กbuckwheat )ขณะที่เราอ่านความยืนนานและต้นกำเนิดของDakgalbi ที่แขวนบนผนัง.


บนแอร์,โอ้~นักรายงานข่าวที่มีชื่อเสียงและโปรดิวเซอร์ JYP Park Jin-youngต้องเคยมาที่นี่แน่ๆ.



เราใส่ผ้ากันเปื้อน,จ้องที่จานเหล็กและรอDakgalbi ให้มาเสริฟ.



เครื่องก็เสริฟ.ผักกาดธรรมดา,หัวไชท้าวกิมจิ,กระเทียมและหัวหอมด้วย.



Dakgalbiที่เราออร์เดอร์สำหรับสองคนก็วางอยู่ตรงหน้าบนจานร้อน.จานนั้นใหญ่มากดูเหมือนกับว่ามันใหญ่เกินกว่าขนาดที่แท้จริงของมัน.



เมื่อไก่สุกไปได้ครึ่งหนึ่งกับซอส,เธอก็ใส่ใบเพริลล่า,คนมันอีกและใบเพริลล่าก็หอมมาก.มันยังไม่เสร็จแต่ผมก็น้ำลายสอเลย.



หลังจากซักพัก,อย่างน้อยก็เท่าที่ผมรู้สึก,และมันก็ถึงเวลาที่จะลอง.โอ้โห~ไก่นั้นฉ่ำซอสเปรี้ยวหวาน,ยอดมากๆ.



ขณะที่เราเอาDakgalbi ใส่ปาก Makguksuก็ถูกเสริฟ.”ซอสสีเหลืองๆนี่คืออะไร?"ผมสงสัยเกี่ยวกับซอสซึ่งผมจึงต้องถามคุณผู้หญิง.



นี่คือซอสผลไม้ที่ทำที่ร้านMakguksu ที่เยี่ยมที่สุด.เธอบอกมันทำจากผลไม้หลายชนิดผสมกัน.ผมลองกินด้วยตะเกียบหลังจากคนสองสามครั้งและในครั้งที่สามผมก็เห็นข้างใต้แล้ว.



ก็,ผมใส่บะหมี่ที่เหลือลงไปบนชิ้นไก่, Ssam(ส่วนผสมหลายๆอย่างห่อในผักกาด,งาหรือผักอื่นๆ)มันอร่อยกว่าด้วยส่วนผสมอื่นๆ.



ผมไม่รู้ว่าเจ้าของชอบวิธีที่เรากินหรือเราดูเหมือนนักท่องเที่ยวมาก,เราได้ Jeon(Korean แพนเค้ก)ฟรี.เย้!


เราลอง Ssamแบบต่างๆ, Dakgalbi, Makguksuและแพนเค้กมันฝรั่งกับสไปรท์เย็นๆที่เข้ากันกับDakgalbi.



เราต้องสั่งMemiljeonbyeong(แพนเค้กbuckwheat)ห่อกลับและกินมันที่บ้าน.มันดูน่าอร่อยหลังจากการเดินทางของเราแต่มันยังรสชาติเหมือนเดิม.



Memiljeonbyeongคือกิมจิเผ็ดที่ผสมกับเส้นบะหมี่ห่ออยู่ในแพนเค้ก buckwheat.มันเป็นหนึ่งในอาหารที่ต้องลองถ้าคุณไปที่Gangwon-do.มีถนนDakgalbi หลายที่ในChuncheon, และมองหา'Jinbo Dakgalbi' ในถนนพวกนั้นที่ชื่อว่าถนนOnui Dakgalbi นั้นยากแต่สิ่งนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง.ไม่ต้องพูดถึงว่ามันมีรสหวานและเผ็ด,หวานและเปรี้ยวของ Makguksu ด้วยซอสผลไม้ด้านบนและเจ้าของผู้ใจดีก็ยิ้มให้เราแม้ว่าจะยุ่ง,ทุกอย่าดีมากๆ.ผมจะต้องมาร้าน Jingo Dakgalbiอีกถ้าผมมา Chunchonครั้งหน้า.


Map

ที่อยู่ : 627-7, Toegye-dong, Chuncheon-si, Gangwon-do (강원도 춘천시 퇴계동 627-7)

โทรศัพท์ : 033-253-0714 เวลาทำการ : 09:30 ~ วัดถัดไป 00:30



สวนหยก 제이드 가든


มันมีกลิ่นอายของ Gangwon-doแต่Chuncheon นั้นออกรายการบ่อยๆรวมถึงละครเพราะว่าเดินทางง่ายกว่า.



ครั้งนี้,เรามาที่สวนหยก,ป่าเล็กๆสไตล์ยุโรป.สวนหยกนั้นตั้งอยู่ที่ตรงกลางระหว่างสถานี Gapyeongและสถานี Gulbongsan.


แม้จะเพียงแค่หนึ่งสถานีของสาย Gyeongchun,ระยะทางนั้นก็ไกลจนคุณไม่ต้องคิดที่จะเดิน.แทนที่,เขามีบริการรถรับส่งฟรีเจ็ดครั้งต่อวันไปกลับระหว่างสถานีGulbongsan และสวนหยก.



ไปให้ทันที่ป้ายรถเมล์จากสถานี Gulbongsan,และคุณจะเห็นรถบัสของสวนหยกที่เพนท์สีเหมือนกับต้นไม้.


เมื่อคุณขึ้นรถและนั่งไปประมาณสิบนาที,คุณจะเห็นทางเข้าของสวนหยกที่ทำจากอิฐแดงอยู่ในหมู่ต้นไม้.



อาคารทรงยุโรปภายใต้แสงแดดในป่าสีเขียวกับหญ้าไอวี่ตั้งแต่ทางเข้าทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่คนละประเทศ.



มีสวนมากกว่ายี่สิบสวนภายในสวนหยก,และในแผ่นพับก็แนะนำสามเส้นทางเพื่อชมรอบๆสวนเหล่านี้แต่มันเป็นทริปไปกลับคุณจึงไม่มีปัญหาสำหรับทัวร์.



ค่าตั๋วราคา8,000 วอนสำหรับผู้ใหญ่.ถ้าคุณจองออนไลน์,คุณสามารถได้ส่วนลด10%.อย่างไรก็ตาม,คุณจะต้องจองตั๋วอย่างน้อยหนึ่งวันล่วงหน้า.



ภายใต้แสงแดดในช่วงบ่าย.เราผ่านทางเข้าและเดินเข้าไปด้านในสวนที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า.มันเป็นส่วนภูเขาแต่ก็เป็นเนินไม่ชันมาก.



สวนแรกเราพบสวนชายแดนอังกฤษ.มันน่าจะดีมากๆถ้าดอกไม้ขาวในกระถางนั้นบานที่ด้านข้างทางแต่ผมเดินตามทางสีขาวที่มีต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี,ผมคิดว่าผมมาที่นี่ได้ถูกเวลา.



ใกล้กับอาคาร,สวอิตาลี,ซึ่งผมต้องบอกว่ามันเป็นสวนที่ดีที่สุดในสวนหยก,มันถูกเรียงตามน้ำพุที่แผ่ออกตามบรรยากาศกับสวยหรู.



ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดเนื่องจากมีทุกอย่างในที่เดียวประกอบด้วยต้นไม้,ดอกไม้,น้ำพุหินอ่อนและรูปปั้น.



ด้านข้างสวนครัว,ซึ่งเรียกว่าสวนผัก,เรือนกระจกก็ปรากฎ.อย่างแรกที่ผมคิดคือ"ตายแล้ว........ในนั้นมันจะต้องร้อนแน่ๆ".



อย่างไรก็ตาม,สวนAlpine นี้เย็นกว่าข้างนอกนิดหน่อย.ผมเห็นน้ำหยดตามใยแมงมุม.




ดอกไม้ต่างๆ,ซึ่งผมไม่รู้ชื่อและคุณก็จะพบมันง่ายๆในเขตAlpine กำลังบานรอบๆเรือนกระจกภายในสวน.



ที่ด้านหน้าของเรือนกระจก,มีน้ำพุสวยๆที่รู้จักกันว่าอธิษฐานได้,และคู่รักสองสามคู่กำลังโยนเหรียญใส่.เคยมีคนบอกว่าเหรียญทั้งหมดที่เก็บได้จะบริจาคสู่สภากาชาดเกาหลี.


เรามาถึงที่บ้านไม้ที่ตั้งของที่นี่สูงกว่าที่อื่นนิดหน่อยหลังจากที่เราผ่านเขาวงกตแต่เรายังไม่รู้สึกถึงอากาศบนภูเขาน่าจะเป็นเพราะมีหุบเขากั้นอยู่.


ซึ่งเราตัดสินใจที่จะใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อจะเล่นกับบ้านไม้ที่ที่เราสามารถมองลงไปยังหุบเขาที่ไกลๆมากกว่าสวนรอบๆ.



อ้า.......ผมไม่เห็นป้ายจนผมเล่นชิงช้าเสร็จแล้ว.แม้แต่ชิงช้าอันนี้จะต้องเคยอยู่ในละครแน่ๆ.


สะพานชิงช้าเล็กๆกับตาข่ายด้านหลัง,ผมไม่ชอบสะพานที่ขยับได้แต่มันเตี้ยผมเลยลองดู.ก็.....อย่างที่ผมคิด,เธอเริ่มที่จะเเกว่งมันแรงขึ้นทันทีที่ผมอยู่บนสะพาน.


หลังจากสวนคลื่นดอกไม้ที่ไม่มีคาแร็คเตอร์ที่เจาะจง,ผมสามารถรู้ถึงความแตกต่างและยากที่จะจำผมจึงยอมแพ้.



มีทางเดินสองสามทางที่นี่ซึ่งคุณสามารถกระโดดข้ามลำธารเย็นๆเหมือนแก่งหินหรือเลือกทางอื่น.



เราชนป้ายเตือนเรื่องขนมโดยังเอิญ.มันบอกว่าพวกเขาพยายามที่จะไม่ทำลายธรรมชาติให้ได้มากที่สุดที่อาจจะมาจากขนม.ผมอยากที่จะเห็นอันนึงเพราะว่าเราก็อยู่บนภูเขาอยู่แล้วแต่ก็ทำไม่ได้.



เราปีนไปครึ่งทางถึงสวนพืชน้ำกับน้ำพุและสวนน้ำตกที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นด้วยวิวที่งดงาม.



ด้านในสวนน้ำตกมีย้ำตกเล็กด้วยแต่น้ำนั้นไหลไม่แรงในช่วงหน้าแล้ง.


อย่างไรก็ตาม,ที่นี่มีวิวที่สวยที่สุดภายในสวนหยกและน้ำตกก็อยู่ในละครด้วย.



ที่เป็นจุดกลางของสวนหยกที่มีร้านเล็กๆที่สร้างเหมือนกระท่อมในป่าเล็กๆเหมือนในนิทานที่คุณสามารถซื้อน้ำเย็นๆและไส้กรอก.


โชคดีที่ว่ามันมีห้องน้ำด้วยที่เราสามารถล้างเหงื่อ.จากที่สุดท้ายของสวนกระท่อม,ซึ่งด้านบนเหมือนกับสัตว์,ทางเดินเป็นทางขึ้นเขานิดหน่อย.


ตอนนี้มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ภายใต้ภูเขาซึ่งเรารู้สึกเย็นมากกว่าสวนด้านล่าง.


คุณต้องบิดเิวนิดหน่อยตามหุบเขาเล็กๆด้วยหินและฝุ่นจากสวนมอสและหินที่ปกคลุมไแด้วยหญ้าซึ่งมันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่กลางเขา.



สวนมอสนั้นเต็มไปด้วยพืชต่างๆประกอบด้วยไอวี่ตามต้นไม้,มีหลุมบ่อนิดหน่อยซึ่งถ้าคุณมีรถเข็นเด็กคุณจะต้องหาทางอื่น.



เราผ่านฟาร์มเบอรี่สีม่วงและถนนเดินขึ้นเขา,ในที่สุดเราก็ถึงส่วนภูเขา.


ฝั่งภูเขานั้นอยู่ด้านในของสวนหยกเรียกว่าสวนแต่งงาน.เขานั้นอยู่ไกลออกไปแบะท้องฟ้าทำให้มันดูสวยงาม.



แม้แต่ยอดเขา.ก็ยังมีห้องน้ำและคาเฟ่สำหรับนักท่องเที่ยว.บวกกับพื้นที่นั้นกว้างและลาดมีที่นั่งและม้าหมุนอยู่มากมาย.



เราเจอที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ซึ่งเราก็วางกระเป๋าและนอนมองลงไปยังหุบเขาที่เราพึ่งปีนขึ้นมา.



เราสามารถที่จะเห็นบางส่วนของภูเขา Hwaak(1,468m),สูงเป็นลำดับที่ 12thของเกาหลีใต้และสูงที่สุดในGyeonggi-do,ไกลออกไป.


ทันเวลาพอดี,เฮลิคอปเตอร์สี่ลำที่ดูเหมือนบินอยู่บนฟ้ารบกวนเวลาพักของเราและบินข้ามภูเขาไปทำเสียงดังอยู่ไกลๆ.


เราดูดอกไม้ลึกลับที่ตกแต่งสวนท้องฟ้า,สวนที่สูงที่สุด,และมันเป็นเวลาที่จะต้องลงแล้ว.



กบนั่งอยู่ระหว่างหญ้าหนาๆ.ที่นี่สูงกว่าที่ที่คุณจะพบสัตว์เล็กๆที่หลากหลายรวมถึงจิ้งจกเกาหลี.



เราขุดอยู่ตามพุ่มไม้,เราสามารถเห็นกบที่หลากหลายประกอบด้วยแบบธรรมดาและกบสีน้ำตาลที่เราเคยเห็น.


เราสามารถเห็นจิ้งจกเกาหลี,น่า จะเป็นเพราะว่าเราไม่มีโชคแต่เราก็ไม่ค่อยเห็นอยู่ดี.



แทนที่,เราเริ่มที่จะเดินลงตามถนนไปยังทางเข้าสวนหยกที่ตั้งอยู่ขณะที่เรากำลังชื่นชมดอกไม้ที่กำลังบานตามถนนที่ไม่มีชื่อและแมคโนเลีย.


เราเริ่มที่จะจำดอกไม้สวยๆต่างๆที่เราพลาดตอนเดินึ้น.แต่เราก็ยังไม่รู้ชื่อ.



ผ่านสวนกับดอกอเซเลียเกาหลีที่บานอยู่ในที่ที่ลึกที่สุดของสวน,เราลงมาและเดินถึงที่ที่ไม่ชันมาก.



ถ้าคุณเดินทางนี้,มันถึงเวลาที่จะลาอากาศดีดีของสวนหยก.เรานั่งตรงม้านั่งข้างๆรูปปั้นเพื่อจดจำเวลาอีกครั้ง,ครั้วนี้แบบลึกๆ.



เรารู้สึกถึงบรรยากาศที่สบายในธรรมชาติที่เราสามารถรู้สึกได้แม้แต่กิ่งของต้นไม้ที่ย้อยลงมาที่พื้นหลังจากเสร็จงานนี้,และเราก็ต้องกลับ.



ตอนเดินกลับ,มันเป็นทางลงเขาซึ่งทำให้เราถึงเร็วขึ้นกว่าตอนที่เราเดินขึ้น.แล้วเราก็มาถึงสวนชายแดนอังกฤษที่เราเจอในตอนแรก.เราสามารถเห็นทางเข้าสไตล์ยุโรปอีกครั้ง.



เราไม่ได้แวะที่นั่น,มันมีร้านขายของที่ระลึกขายสมุนไพรชนิดต่างๆที่ทางเข้าและร้านอาหารที่ขายสลัดและ bibimbap.



การได้มาที่สวนหยกนี้เป็นที่สุดท้ายที่เราจะเที่ยวที่ Chuncheon.อย่างที่ผมบอกตอนแรก, Gangwon-doฟังดูเหมือนไกลจากตัวเมืองโซลแต่มันก็ใกล้พอแม้แต่ทัวร์ภายในวันเดียว.......และเป็นเมืองที่รื่นเริงที่คนหนุ่มสาวมีปาร์ตี้,เทศกาล MimeและDoggaebi Jangnan(goblin prank),ประมาณเดือนพฤษภาคม.


เรายังข้ามเกาะIsland และ Gangchon,สองสถานที่ที่นักท่องเที่ยวรัก,เนื่องจากตารางที่แน่น,ผมต้องบอกว่าเรามีประสบการณ์ที่ดีที่แม่น้ำและบนภูเขาและกิจกรรมดีดี. Chuncheon แห่ง Gangwon-doเป็นที่ที่คุณสามารถชมสวนดอกไม้ในช่วงฤดใบไม้ผลิ,แม่น้ำ Soyangของ SoyanggangCheonyeo(ท่านหญิงSoyanggang )ในฤดูร้อน,ใบสีเหลืองและแดงของป่าในฤดูใบไม้ร่วง,และดอกไม้,สกี,ในฤดูหนาว.


ผมรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเล่นเยอะๆเช่น 'Good City to Live' อีกครั้ง.ทำไมคุณไม่ลองมาที่Chuncheon ตอนที่คุณอยากมาล่ะ?


Map

ที่อยู่ : 111, San, Seocheon-ri, Namsan-myeon, Chuncheon-si, Gangwon-do (강원도 춘천시 남산면 서천리 산 111번지)

โทรศัพท์ : 033-260-8300

เวลาทำการ : 09:00 - 17:00

เว็บไซต์ : www.jadegarden.kr


남춘천역, 진보닭갈비, 제이드가든, 산책로, 정원, 드라마촬영지, 촬영지, 꽃, 닭갈비, 갈비, 막국수, 메밀전병, NamchuncheonStation, JinboDakgalbi, JadeGarden, trails, Garden, dramafilmingsite, filmingsite, flowers, Dakgalbi, Galbi, Makguksu, Buckwheatnoodles, Memiljeonbyeong, buckwheatpancakes, 南春川駅, ジンボ·タッカルビ, ジェードガーデン, 遊歩道, 庭園, ドラマ撮影地, 撮影地, 花, タッカルビ, カルビ, マッククス, そば煎餅, 南春川站, 进步铁板鸡, 散步路, 花园, 电视剧外景地, 摄影地, 铁板鸡, 排骨, 荞麦粗面, 荞麦煎饼, สถานีNamchuncheon, ขั้นสูงซี่โครงไก่, เดิน, สวน, ละครที่อยู่, สถานที่ตั้ง, ดอกไม้, ซี่โครงไก่, ซี่โครง, makguksu, แครกเกอร์บัควีท
ความคิดเห็นหนึ่งบรรทัด(0) 
PDF
บุ๊คมาร์ค
อีเมล์
0bytes / 200bytes
ดูรายชื่อ