Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
18895 | 19899798

Suwon #5 - พิพิธภัณฑ์Suwon Hwaseong , ตรอกไก่Suwon กับร้านไก่นับโหล - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
แก้ไขล่าสุด : 2017/04/05

สถานที่ท่องเที่ยว : South Korea
 | จำนวนผู้ชม : 501913
https://blog.lookandwalk.com/th/blog/mazinguide/1556/trackback

พิพิธภัณฑ์Suwon Hwaseong


ป้อม Suwon Hwaseongถูกสร้างยังไงน่ะหรอ?พิพิธภัณฑ์Suwon Hwaseong มีที่อีกสองสามที่ที่คุณพลาดไม่ได้เมื่อมาที่Suwon.ครั้งนี้.ผมจะโชว์ให้คุณเห็นรอบๆพิพิธภัณฑ์ Suwon Hwaseong ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงป้อมSuwon Hwaseong ,มรดกโลกที่ถูกเลืกโดยยูเนสโก้.ถูกสร้าง,รูปแบบตอนมันถูกสร้าง,และความคิดของกษัตริย์Joseonที่22, กษัตริย์Jeongjo.ดังนั้นเราไปดูข้างในกันมั้ย?



มันปิดทุกวันจันทร์อย่าลืมล่ะ.ปกติผมชอบไปไหนๆในวันจันทร์ดังนั้น...........



ตรงที่ทางเข้าชั้นหนึ่ง,มีศูนย์ที่เด็กน่าจะชอบที่จะเล่น.คุณสามารถที่ขะลองpalanquin หรือถ่ายรูปของตัวเองในชุดของกษัตริย์หรือราชินี.มันฟรีทั้งหมดซึ่งคุณสามารถสนุกได้นานเท่าที่นานได้.



ด้านในศูนย์,เด็กๆสามารถสร้างป้อมSuwon Hwaseong ได้ด้วยตัวเอง,และเรียนรู้ที่จะใช้สัญญาณด้วยไฟบนBongdon. พวกเขายังสามารถเรียนรู้การวัดในแบบเก่าอย่าง Mal, Doe and Hop.

แม้แต่เมื่อตอนผมเป็นเด็ก,เขาเคยขายเกรนที่ใช้เป็นหลักในการนับและSoju เคยขาย Hopsหรือ4 Hops.รู้ไว้นะว่า,โซจูขวดหนึ่งปัจจุบันประมาณ 2 Hops(360ml).



ในมุมหนึ่ง,คุณสามารถสร้างรูปแบบของภาพของChae Je-gong หรือจับของหลายๆสิ่ง.




คุณสามารถเช็คราคาและคำแนะนำที่พิพิธภัณฑ์ในภาพด้านบน.ถ้าคุณจะจ่ายสำหรับค่าทัวร์ของคุณ,มันจะถูกกว่าซื้อที่United Ticket. อย่าลืมซะล่ะ.



ยังไงก็ตาม,ผมจ่าย 2,000สำหรับผู้ใหญ่.มันมีนิทรรศการตลอดเวลาที่ชั้นหนึ่งกับรูปแบบใหม่ๆตลอดเวลาทุกๆสองสามเดือน.ในเมษายน,เขาเปิดนิทรรศการรูปภาพของป้อมSuwon Hwaseong ในยุคสมัยJoseon และยุคที่ญี่ปุ่นเข้าครอบครอง,แต่ตอนนี้,มรดกต่างๆที่ถูกบริจาคให้ Suwon-si ได้ถูกจัดแสดงเพื่อฉลองครบรอบ 5thปีของนิทรรศการ.



อย่งแรก,ผมจะโชว์ให้คุณเห็นภาพวาดChae Je-gong [蔡濟恭肖像一括-時服本; Chae Je-gong Chosang Ilgwal-Sibokbon]. ผมจะเก็บลมหายใจไว้สำหรับมรดกชิ้นอื่นๆแต่ไม่ใช่อันนี้.ผมพนันว่าคุณเคยเห็นรูปนี้หลายครั้ง.มันเป็นภาพวาดของ Chae Je-gong ผู้ที่ขึ้นกับ Tang-pyeongของกษัตริย์Jeongjo ในปลายยุคJoseon ซึ่งได้กล่าวถึงไว้มากในหนังสือของOh Ju-seok 'Special Lectures on Korean Beauty'ซึ่งตอนนี้ได้ตายแล้ว,และนี่ยังได้ถูเลือกเป็นสมบัติหมายเลข1477-1.บนรูปภาพ, Chae Je-gongอายุ73ปีนั้นกำลังนั่งคิดกับพัดและถุงหอมในชุดสีชมพูอ่อนและที่มัดผม.



โอเค,ไปดูใกล้ๆกัน,รูปภาพแบบเกาหลีไม่ได้แสดงออกถึงความงามของผู้คน.มันมีคาแร็คเตอร์เกี่ยวกับรายละเอียดของธรรมชาติแม้แต่อายุหรือแผลเป็นบนในหน้า,และชายคนนี้ตาเขในรูปภาพนี้.บวกกับ,มือที่บอกถึงลักษณะเฉพาะแบบูปภาพในสมัยJoseon ,ซึ่งแสดงถึงพัดและถุงหอมที่กษัตริย์ Jeongjoเอาไว้กับตัว.ในมุมขวาบน'聖上十五年辛亥(1791) 御眞圖寫後承命摸像內入以其餘本明年壬子(1792) 粧'นั้นได้ถูกเขียนไว้,และข้างล่างนั่น,มันบอกว่า畵者(Hwaja - ศิลปิน)เป็นนักวาดภาพที่ยอดเยี่ยมในสมัย Joseon 李命基(Lee Myeong-gi).ที่ด้านซ้ายบน,Chae Je-gong ที่ทิ้งข้อความไว้สำหรับตัวเองและมันบอกว่า..........


“หน้าตาและวิญญาณของคุณเป็นสิ่งที่สวยงามจากพ่อแม่ของคุณ,ทุกๆอย่างที่ปกป้องคุณจากหัวจดเท้าจากกษัตริย์ของคุณ.พัดนั้นงดงามจากกษัตรย์ของคุณ,ถุงหอมก็งดงามจากกษัตริย์ของคุณ,และไม่มีอะไรที่จะครอบคลุมร่างกายของคุณที่ไม่ใช่สิ่งที่งดงามจากกษัตริย์ของคุณ.ยังที่ผมรู้สึกอายที่ไม่รู้จะตอบแทนความใจดีของท่านแม้แต่ผมได้ตายไป."ดังนั้นChae Je-gong ได้รับพัดจากกษัตริย์ Jeongjoได้ยังไง,จดหมายด้านบนได้ถูกให้ไว้พร้อมกับพัดจากกษัตริย์Jeongjo,และมันบอกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพัดในภาพและ Sinchu(ถุงหอม) ที่ผมจะโชว์ให้คุณเห็นเร็วๆนี้.มันบอกว่า....



「Jwauijeongคำนั้นเติมเต็มผม.อย่างไรก็ตาม,ปีที่แล้วไม่เหมือนกับปีที่การเก็บเกี่ยวไม่ดีซึ่งทำให้ผมกังวลว่าผู้คนอาจจะหลงระเริงกับสิ่งต่างๆและอาจจะไม่เตรียมพร้อม,ผมจะเตรียมพร้อมมันจากนี้ไป.ทันเวลา,พระราชวังทำพัดใหม่และแม่ของผม(Hyegyeonggung Hong)ได้ถูกบอกว่ามันถูกทำเมื่อนานมาแล้วดังนั้นผมจึงส่งไปสองอันดังนั้นถ้าให้มันกับJwauijeong เพื่อทำให้ทุกอย่างดูดี?ฮ่าฮ่า,หนึ่งในนั้นดูเหมือนกำลังนั่งอยู่บนที่จับ.」


นี่เรียกว่าSeonchu,ที่ประดับพัด.คุณสามารถใส่สมุนไพรในนั้นซึ่งมันเรียกว่า Hyangnang. และนี่คือ Hyangnangที่คุณเห็นในภาพวาดของChae Je-gong.นี่คือสมบัติหมายเลข 1477-1ด้วยกันกับภาพวาด.


นอกจากนั้น,มีมรดกมากมายที่ได้รับบริจาคซึ่งถ้าคุณจะมีโอกาส,เดินดูรอบๆ.


ตอนนี้,ผมจะโชว์ให้คุณเห็นห้องชั้นสองของ Hwaseong.ห้องนี้โชว์คุณเกี่ยวกับการเมือง,วัฒนธรรม,และการสร้างป้อม Suwon Hwaseongผมสามารถรู้สึกถึงจิตวิญญาณจากภาพวาดที่ผมเห็นตรงทางเข้า.



สองในนั้นถูกวาดโดยกษัตริย์ Jeongjo. อันทางด้านซ้ายคือchrysanthemum และอันทางขวาคืออันว่างๆ.ผมสามารถที่จะจินตนาการเขานั่งและวาดรูปเหล่านี้.


เอกสารนี้คือYeongseo (令書)ของเจ้าชายSado,กษัตริย์ที่น่าเศร้า. Yeongseoนั้นควบคุมเอกสารที่กษัตริย์ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาแต่มันเหมือนกับความเคยชินในการสั่งของกษัตริย์.มันเพราะว่ากษัตริย์เป็นผู้จัดการทุกอย่างที่ทำได้ในYeongseo.

และเอกสารนี้ถูกเปิดเผยสู่ประชาชนหลังจากเก็บมากว่า250ปี,ข้อความมีดังนี้."วันที่28th, ธันวาคม, Geonryung ปีที่ 22nd(1757),ผมกล่าวถึงการช่วยเหลือของJo Don(趙暾) เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้อย่างที่เจ้าเมืองGyeonggi , ByeongmaSugunJeoldosa(ยศที่เลือกจากผู้ที่มาจากชนชั้นสูง)และ Sunchalsa(ผู้นำกองทัพ).และเจ้าชาย Sadoก็ซาบซึ้งคาแร็คเตอร์ของ Jo Donโดยบอกว่า"เมื่อผู้คนนั้นยากไร้และต้องการความช่วยเหลือ,เขาลดภาษี,และผมต้องบอกว่าเขาซื่อสัตย์,จริงใจและฉลาด"แล้วเขาก็ขอให้ Jo Donพยายามให้หนักขึ้นเพื่อที่จะทำให้ประชาชนสบายอย่างGwanchalsa.」


ผมสามารถเห็นมรดกต่างๆที่ผมเคยอ่านในหนังสือ.อันทางซ้ายคือMokminsimseo(牧民心書;เครื่องบอกยศของคนในรัฐบาล)และอันทางขวาคือHeumheumsinseo(欽欽新書).ทั้งสองอย่างเขียนโดยJeong Yak-yong(丁若鏞),ผู้แทน Silhakในปลายสมัย Joseon.ประชาชนของMokminsimseo และอธิบายถึงกฎที่เจ้าเมืองควรมี,และ Heumheumsinseoคือหนังสือเกี่ยวกับกฎหมายอาชญากรรมเขียนเพื่อพัฒนาการดำเนินชีวิตอย่างมีระเบียบ.ผมเดาว่าเขาเสนอหนังสือนี้เกี่ยวกับการสอบสวนในยุคสมัยนั้น.



หนังสือเรื่องนี้ชื่อHwaseong Seongyeokuigwe(華城城役儀軌) เป็นหนังสือเกี่ยวกับความทรงจำในโลก.มันบันทึกทุกรายละเอียดตั้งแต่การเริ่มสร้างป้อม Suwon Hwaseongในปี1794 จนถึงมันสร้างเสร็จในปี1796.

ไม่ใช่แค่แปลนของปราสาทและประตู,รายละเอียดของเครื่องมือ,อิฐ,ผงจากต้นไม้ที่ใช้สร้าง,ราคา,และซื้อวัสดุจากที่ไหน,ค่าจ้าง,ราคาในสมัยนั้น,ผู้ที่ควบคุมงาน,คนที่เข้าถึงคนงานและช่างไม้ผู้ชำนาญ,และเอกสารการติดต่อระหว่างกษัตริย์และผู้ควบคุมก็อยู่ที่นั่นด้วย.สรุปแล้ว,พวกเขามีรายละเอียดทุกอย่างของอาคารในเมืองใหม่,Suwon.บรรพบุรุษของเราลงข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคฟังดูเจ๋ง,คุณคิดเหมือนกันมั้ย?


ถ้าคุณรู้จักของที่จัดแสดง,มันตลกแต่ถ้าคุณไม่รู้,มันคงจะเป็นทัวร์ที่น่าเบื่อ.คุณสามารถได้มากเท่าที่คุณรู้!เอกสารยาวๆนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน.นี่คือ Yuneumที่คนจะได้ลดภาษี 50%ที่พวกเขาต้องจ่ายสำหรับแต่ละเมืองในการฉลองการแต่งตั้งเจ้าชาย Munhyo ในปี1784.น่าเสียดาย,เจ้าชาย Munhyoตายจากโรคร้ายในพระราชวังChangdeokgung หลังจากนั้นสองปี.

หลังจากนั้นน้องของเขากลายมาเป็นกษัตริย์Sunjo. (※Yuneum(綸音)คือคำพูดของกษัตริย์ในสมัย Joseon )



และการออกแบบของป้อม Suwon Hwaseongได้ถูกจัดแสดงไว้ด้วย.ภาพด้านบนคือแบบแปลนของการซ่อมแซมของ Hwahongmunที่ผมโชว์ให้ดูก่อนหน้านี้.นี่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ในสมัยก่อน,พวกเขาก็วางแผนก่อน,ไม่ใช่แค่สร้างเพื่อให้เสร็จ.


ต่อไป,ผมเข้าสู่ห้องวัฒนธรรม Hwaseongตรงข้ามห้องโถงบนชั้นสอง.



ห้องวัฒนธรรมHwaseongมีมรดกที่ Chae Je-gong,จุดสำคัญในการสร้างกองทัพในสมัยของกษัตริย์ Jeongjo,ได้รับบริจาคและมรดกที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์และขบวนหลวงในปี1795.คุณสามารถรู้สึกถึงกษัตริย์ Jeongjoกับความรู้สึกถึงพ่อแม่ของเขา, Hyegyeonggung Hongและเจ้าชายSado, และเห็นอาวุธและศิลปะการป้องกันตัวของกองทัพที่ Jangyongyeongก่อตั้งเพื่อความแข็งแกร่ง.




ธงนี้ที่ผมเห็นในทีวีบ่อยๆ.มันเป็นธงสำหรับเตือนผู้คนเวลากษัตริย์ผ่านด้านหน้าของขบวน.มังกรดูสวยมาก.



กษัตริย์Jeongjo ก่อตั้งKyujanggak และ Jangyongyeong เพื่อปรับปรุงวรรณกรรมและศิลปะการป้องกันตัวไปพร้อมๆกับ.สาเหตุที่ทำไมสมัย Jeongjoมีการพัฒนาที่ดีเยี่ยมทางวัฒนธรรมเพราะว่าสองสถาบันนี้,แต่ผู้คนไม่ได้สนใจJangyongyeong ดีพอ.มันเพราะว่ามันได้ถูกลืมหลังจากที่กษัตริย์Jeongjo และไม่มีอะไรเหลือ.นี่คือกรอบรูปของ JangyongyeongเขียนโดยKim Jong-soo.



คันธนู,ลูกศรและกระบอกใส่ลูกศรถูกใช้ในสมัย Joseon.ลูกศรนั้นดูเหมือนก่อนที่จะถูกยิงจากคันศร.และเอกสารด้านล่างนั้นตลก.


มันบอกว่ากษัตริย์ Jeongjoยิงธนู50ดอก,และ48ดอกโดนเป้า,และเขาก็มีความสุขมากซึ่งเขาก็ให้ Jang Yong-won,เจ้าหน้าที่รัฐ,ก้อนสีเหลืองๆและสายของ coilia-nanusเพื่อแบ่งปันความสุข.เอกสารนี้ที่บันทึกสิ่งของที่ได้รับจากกษัตริย์จากผู้รับใช้เพื่อฉลองบางอย่าง.


อาวุธที่ผมโชว์คุณจากศิลปะการป้องกันตัวทั้ง24ที่พระราชวัง Hwaseongได้ถูกจัดแสดงที่นี่.การแสดงศิลปะการป้องกันตัวทั้ง24นั้นใช้อาวุธทั้งหมดจากที่เห็นด้านบน.น่าประทับใจมาก.ถ้าคุณมาที่ป้อม Suwon Hwaseong,คุณต้องมาที่พิพิธภัณฑ์.คุณจะได้เห็นขั้นตอนของอาคาร, ประวัติศาสตร์, วัฒนธรรมและความคิดของกษัตริย์.ผมแนะนำให้คุณต้องมาที่นี่.


Map

ที่อยู่:Suwon Hwaseong Museum, 21, Changnyong-daero, Paldal-gu, Suwon, Gyeonggi-do (경기도 수원시 팔달구 창룡대로 21 수원화성박물관)

โทรศัพท์: 031-228-4205



ตรอกไก่Suwon กับร้านไก่นับโหล 수원통닭골목


Suwonเป็นเมืองที่น่าสนใจ.มันดูวุ่นวายตลอดเวลาและยุ่งยากแต่ถ้าคุณมองใกล็ๆ,คุณจะสังเกตุได้อย่างง่ายๆว่าคุณไม่สามารถพบเมืองที่สดใสมากกว่านี้ได้อีกที่มีสถานที่มากมายให้ดูและกิน.ดังนั้นสิ่งที่ผมกำลังจะแนะนำกับคุณตอนนี้คือถนนที่ต้องมา,ตรอกไก่Suwon(ถนนไก่).เมืองดูผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากที่Suwoncheon ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่.น้ำนั้นใสจนมีปลาซึ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่ต่างจังหวัดแบบตอนเด็กๆ.Suwon-si,เป็นเมืองเก่า,ยังมีโรงตีเหล็กซึ่งน่าจะหายไปกับเมือง.มันขายจอบ,ส้อมและช้อนตักดิน.




ถ้าคุณเดินขึ้นไป 100mตามแม่น้ำจากตลาด Yeongdong หรือตลาด Jidongที่Suwon Paldalmun, คุณจะเห็นร้านขายไก่ทางด้านซ้าย.คุณไม่จำเป็นต้องหามัน,คุณจะได้กลิ่นมันเอง.ถ้าคุณมีรถ,คุณสามารถจะจอดมันไว้ที่ลานจอดรถใกล้ๆตลาด JidongหรือตลาดYeongdong ,และตอนกลางคืนคุณสามารถจอดรถที่ไหนก็ได้ซึ่งคุณสามารถจอดบนถนน.ผมเคยไปที่นั่นกว่าร้อบครั้งแต่มันหาที่จอดรถได้ไม่ยาก.

ในรูป,คุณสามารถเห็นร้านขายไก่ที่ดังที่สุด, JinmiTongdak(ไก่) และYongseong Tongdak. คุณอาจจะคิดว่า Tongdakนั้นเป็นคำที่คนแก่เคยใช้โดยเฉพาะในเกาหลีผู้ซึ่งชอบภาษาอังกฤษมาก.แต่คุณจะไม่สามารถหาร้านที่ดีกว่าหรือขายดีกว่าด้วยเครื่องหมาย Tongdakในตรอกนี้.



นี่คือJinmi Tongdak.ผมเห็นหม้อเหล็กใหญ่ๆสองสามหม้อด้านนอกที่ดูว่าเก่ามากๆและมันก็ดูยุ่งอยู่กับการทอดไก่.ราคานั้นเกือบที่จะเท่ากันและพวกเขาก็ยังบริการจัดส่งไก่ในระยะใกล้ๆ.ผมจะบอกราคให้คุณฟังตอนที่ผมแนะนำเกี่ยวกับร้าน Maehyang Tongdak...........




นี่คืออันที่ผมซื้อที่ Jinmi Tongdak เมื่อตอนที่ผมไปที่นั่นครั้งก่อน.ผมอยากที่จะโชว์คุณเยอะๆซึ่งผมก็ต้องขุดค้นรูปเก่าๆJinmiTongdakและYongseong Tondakจุ่มไก่ลงในแป้งตามเทรนด์.ซึ่งมันก็รถชาติเหมือนทั่วๆไป.แต่ไก่นั้นชิ้นใหญ่กว่าและอร่อยกว่าจากร้านเฟรนไชส์.



ตอนนี้,ไปดูที่Yongseong Tongdak



ไม่เหมือนกับที่Jinmi Tongdak, Yongseong Tongdakนั้นทอดไก่ในบรรยากาศที่สะอาดกว่า.น้ำมันดูใหม่,ใช่มั้ย?ไก่ที่Jinmi นั้นแฉะและเหนียวแต่ไก่ Yongseongมีแป้งที่กรอบ.เขาต้องใช้ไก่คุณภาพเดียวกันแต่แป้งนั้นไม่เหมือนกัน.




บวกกับ, Jinmiให้Ddongjib(เครื่องใน)ฟรีแต่ Yongseongให้ Ddongjibและเท้าไก่จานนึงฟรี.ผมน่าจะไปที่นั่นตอนเย็น,ไม่ใช่ตอนบ่าย.ด้วยของว่างแบบนี้,ผมสามารถดื่มโซจูได้เป็นร้อยขวดเลย.


ซึ่งในการที่จะสั่งโซจูผมกลับไปที่นั่นในตอนกลางคืน!ผมสามารถไปที่ถนนไก่ได้ภายในห้านาทีผ่านPaldalmun(Nammum) โดยเท้า,เนื่องจากมันมืดลง,ถนนดูรื่นเริงมากขึ้น.



ครั้งนี้,ผมไปที่ Maehyang TongdakตรงสุดถนนตามSuwoncheon. MaehyangTongdakนั้นอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์.



ถ้าคุณตามผม,คุณไม่ต้องมองหาร้านนี้,คุณแค่ข้ามถนนจากพิพิธภัณฑ์ Suwon Hwaseong .ร้านนี้ใช้น้ำมันสะอาดในการทอดไก่.



แต่ผมรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง Jinmi Tongdak หรือ Yongseong Tongdakว่าเขาไม่ได้ใช้แป้งเลย.ผมสงสัยว่ามันจะรสชาติยังไง.


เราสั่งไก่ตัวนึงแล้วรอ.



ท้าด้า~หม้อไก่ก็มา.มันไม่มีแป้งซึ่งมันดูเหมือนอะไร



มันแค่ไก่ที่แยกเป็นสองส่วน.ไก่ดูตัวเล็กน่าจะเป็นเพราะไม่มีแป้งแต่กลิ่นของมันทำให้ผมใจละลาย.ไก่ตัวนึงกับ Ddongjibได้ถูกทอดและเสริฟทั้งตัว.เจ้าของตัดเป็นชิ้นๆให้เรา.



คุณอยากรู้มั้ยว่ามันรสชาติยังไง?สุดยอด!ผมไม่รู้ว่าเขาทำยังไงและมันก็ไม่ได้ดูเหมือนปรุงรสแต่มันเป็นไก่ที่เค็มกำลังดี เหนียวและจืด,มันเยี่ยมมาก.





ซึ่งเราสั่งอันนี้เพราะผมกำลังไดเอท,ผมนึกได้ว่ามันดีกว่าถ้าจะตัดไก่ออก.บวกกับ,รสชาติก็อร่อยมาก.เพอร์เฟ็ค,ใช่มั้ย? ^^*


เราออกจากร้านไม่ได้จนเรากินทุกอย่างจนหมดรวมถึง Ddongjibเหนียวๆ.ก็,คุณอาจจะถามว่าอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับไก่นี้แต่ถ้าคุณอยากลองไก่ที่สะอาดๆ,ผมแนะนำให้คุณลองที่นี่.บวกกับ,รสเผ็ดหรือซอสเข้มๆนั้นก็ถูกเสริฟกับไก่ด้วยซึ่งคุณสามารถที่จะลองรสชาติที่หลากหลาย.


ราคาบนถนนไก่นั้นเหมือนกันหมด.ไก่ทอดหนึ่งตัวราคา14,000 วอนและไก่อบซอสราคา15,000 วอน.เนื่องจากผมลองร้านขายไก่ที่ดังทั้งสามร้าน,ผมว่าไก่Yongseong มีแป้งที่กรอบ.อีกด้านหนึ่ง, Jinmi Tongdakมีแป้งที่เหนียวๆและมันอร่อยแม้แต่มันเย็น.สุดท้าย, Maehyang Tongdak ไม่มีแป้งและไก่ก็ไม่มัน,ไม่หนักที่จะกิน.ทั้งหมดมันอร่อยมากๆ.


Map

Yongseong Chicken : 15, 800beon-gil, Jeongjo-ro, Paldal-gu, Suwon, Gyeonggi-do (경기도 수원시 팔달구 정조로800번길 15) / โทรศัพท์ : 031-242-8226




수원화성, 수원화성박물관, 박물관, 조선시대, 기록, 수원통닭골목, 진미통닭, 용성통닭, 매향통닭, 통닭, 치킨, 똥집, SuwonHwaseongFortress, SuwonHwaseongMuseum, Museum, JoseonDynasty, Record, Suwonchickenalley, JinmiTongdak, chicken, YongseongTongdak, MaehyangTongdak, Tongdak, Chicken, Ddongjib, largeintestines, 水原華城, 水原華城博物館, 美術館, 朝鮮時代, 記録, 水原鶏の丸焼き路地, 珍味鶏の丸焼き, チンミトンダック, ヨンソン鶏の丸焼き, ヨンソントンダック, メヒャン鶏の丸焼き, 鶏の丸焼き, チキン, 鶏の砂肝, 水原华城, 水原华城博物馆, 博物馆, 朝鲜时代, 记录, 水原炸鸡大街, 真味炸鸡, 龙城炸鸡, 梅香炸鸡, 炸鸡, 鸡胗, ซูวอน, ซูวอนฮวาซองพิพิธภัณฑ์, พิพิธภัณฑ์, ยุคโชซอน, การบันทึก, ซูวอนไก่ซอย, อาหารอันโอชะไก่, ไก่ว่าง, Maehyangไก่, ไก่, ttongjip
ความคิดเห็นหนึ่งบรรทัด(0) 
PDF
บุ๊คมาร์ค
อีเมล์
0bytes / 200bytes
ดูรายชื่อ