สถานที่ที่สร้างความสัมพันธ์, Saeyeongyo และเกาะ Sae.
สำหรับคนที่เที่ยวรอบๆเจจูต้องเคยไปที่น้ำตก Cheonjiyeonอย่างน้อยหนึ่งครั้ง.ที่ที่เราจะไปวันนี้เป็นที่ใกล้กับน้ำตก Cheonjiyeon, ตามถนนที่นำไปสู่น้ำตก,ถ้าคุณเลี้ยวขวาและข้ามสะพานSaeyeongyo ก็จะเห็นเกาะ Sae.สะพาน Saeyeongyo หมายถึงสะพานที่สร้างความสัมพันธ์,และเกาะSae ไม่ใช่สถานที่ที่นกอาศัยอยู่,มันชื่อเกาะSae เพราะส่วนผสมของsae(band)ขึ้นอยู่มากมาย.
Saeyeongyoจะโผล่มาใช้คุณเห็นเมื่อคุณเดินอ้อมอาคาร,จากที่จอดรถ.เนื่องจากวิวพระอาทิตย์ตกจากที่นี่สวยมากๆ,ดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ในวันที่เที่ยวมาเหนื่อยๆมันเป็นไอเดียที่ดี.
พระอาทิตย์เริ่มที่จะตก.ผมเที่ยวและยุ่งอยู่กับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้้คุณได้เท่าที่มากได้,แต่ผมเสียดายที่ทริปของเราเริ่มที่จะจบ.
ผมอยากจะดึงพระอาทิตย์เอาไว้~
ดูวิวบนSaeyeongyo เผยให้เห็นเกาะ Sae อยู่ไกลๆ.
ผมจึงมองอย่างลึกๆ,เกาะนั้นเป็นเกาะหิน,ไม่ใช่ดิน.เกาะนั้นน่าประทับใจ,ดูยาวๆเหมือนหัวจรเข้.
เนื่องจากเป็นเกาะหิน,น้ำฝนไม่สามารถซึมออกไปได้และกลายเป็นบ่อน้ำธรรมชาติบนเกาะ.มันเป็นที่ที่น่าตื่นเต้นมาก,ครั้งแรกที่ผมได้เห็น.ความรู้สึกแปลกๆเหมือนกับผมอยู่ในที่จกรวาล.ผมพนันว่าใครก็ตามที่ได้เห็นก็จะเห็นด้วย.
ตอนนี้ไปที่เกาะกันเถอะ.
ทางเดินมีไม้ปูอยู่,เพื่อให้แน่ใจว่านักท่องเที่ยวสามารถเดินได้อย่างสบาย.
ทะเลและเกาะที่ลอยอยู่บนทะเล,กับบ่อน้ำบนเกาะมันสวยอย่างน่าตกใจ.มันเป็นภูมิประเทศที่สวยมากๆ.
น้ำที่เติมเต็มเกาะนี้อยู่คือน้ำฝน.เหมือนกับน้ำที่Chunji, ภูเขาBaekdu,มันเป็นวิวที่น่าประทับใจ.ผมเศร้าที่ผมไม่สามารถบอกถึงความรู้สึกที่ผมมีเมื่อผมได้เห็นพระอาทิตย์ตกตรงหน้า.
หลังจากเกาะแห่งนี้,เกาะที่ดูอยู่ไกลมากๆ~คือเกาะBeom .เกาะBeom เป็นระบบนิเวศที่ยอดเยี่ยม,โดยยูเนสโก้,มีประการังอ่อนและสัตว์น้ำกึ่งเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุด.ถ้าผมมีเวลา,ผมจะโชว์วิวของเกาะในครั้งต่อไป.
เกาะที่ด้านขวาของประภาคารคือเกาะพุ่มไม้,และมันก็เป็นเกาะที่ถูกเลือกโดยยูเนสโก้,ด้วยระบบนิเวศที่ยอดเยี่ยมเหมือนเกาะ Beom.ผมจะโชว์เกาะนั้นพร้อมกับเกาะBeom.
ส่วนประกอบของเกาะSaeนั้นเป็นหิน,ด้วยรูปแบบนี้,เกาะต้องมีหอสูงมาจากในโลก,ใช่มั้ย?เพราะว่าตำนานที่ว่าเกาะนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อภูเขา Hallaระเบิด,แล้วลอยออกมาจากปล่องภูเขาไฟ.เชื่อหรือไม่.ก็,ผมไม่เคยเห็นผมก็เลยค้านมันไม่ได้......^^ *
สำหรับคนที่มาน้ำตก Cheonjiyeon,หรือผู้ที่กลัวค่ำคืนที่ยาวๆนานสามารถที่จะมาที่สะพาน Saeyeongyoและสร้างสัมพันธ์ใหม่,และหวังว่ารักนั้นจะเป็นจริงที่เกาะSae .มันใช้เวลาเพียง20นาที,เนื่องจากความยาวของเกาะนั้นยาวกว่า 1km นิดหน่อย,ผมคิดว่านั่นพอที่จะสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่!คุณรู้ว่าเราบอกว่า5นาทีนั้นพอที่จะทำให้บางคนรักผม.ทุกๆคนเป็นแบบนั้น,ใช่มั้ย? ^^ *
+ ที่อยู่: San 1, Seogwi-dong, Seogwipo-si, Jeju-do
เทรนด์ใหม่ในหมู่นักท่องเที่ยว,โลกแห่งน้ำเจจู
ความสวยงามของธรรมชาตินั้นไม่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นรู้สึกหรือตื่นเต้น,มากเหมือนกับนักท่องเที่ยวผู้ใหญ่.ดังนั้นผมอยากจะแนะนำคุณโลกแห่งน้ำ,ซึ่งคุณสามารถมีประสบการณ์ที่น่าสนใจเมื่อนักท่องเที่ยวเป็นเด็ก.
หันหน้าเข้าหายอดพระอทิตย์ขึ้นใกล้ๆ,โลกแห่งน้ำตั้งอยู่ตรงทางเข้าของ Seopjikojiและทิวทัศน์รอบๆก็สวยมาก.เนื่องจากมันเป็นอควาเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย,หน้าตาของมันทำให้ผมอยากที่จะมีส่วนร่าม.
คนพวกนี้ที่ผ่านตรงทางเข้าของโลกแห่งน้ำนั้นยอดเยี่ยมมาก!ผมคิดว่าพวกเขาเหมือนนักแสดงละครสัตว์แต่พวกเขาคือตำรวจภูเขาที่คอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ.ตำรวจของเจจูก็เป็นตัวแทนของเจจู.
คุณสามารถเข้าได้หลังจากซื้อตั๋วปลอกข้อมือที่ห้องขายตั๋วทางด้านซ้าย.
ที่นี่เป็นเซ็นทรัล คอร์ท (ศูนย์กลาง)ซึ่งจะพบได้ทันทีที่ผ่านทางเข้า.มันไม่มีทั้งหมดในรูป,แต่ SeongsanIlchulbong นั้นแน่นอนที่จะเห็นผ่านหน้าต่างบานใหญ่และรูปปั้นปลากระเบนยักษ์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ,ทำให้พวกเราอ้าปากค้าง.
เมื่อคุณเข้ามาในโลกแห่งน้ำ,เช็คตารางโปรแกรมก่อน.เราสามารถสนุกกับการดูปลาด้วยตาของเราเองแต่ไม่พลาดการแสดงของสัตว์น้ำต่างๆ,ซึ่งมันสนุกมาก.เรามุ่งหน้าไปยังชั้นใต้ดินโอเชี่ยน อารีน่า(ทางเดิน)เพื่อร่วมชมสภาพของสัตว์ทะเลต่างๆ.
มีฟู้ดคอร์ทที่ชั้นใต้ดินชั้นหนึ่งของโลกแห่งน้ำและคุณสามารถดื่มชากับอาหารที่นี่.เขาเสริฟอาหารหลายชนิดรวมถึงอาหารเกาหลีและอาหารแบบตะวันตกและอาหารฟาสฟูดส์ต่างๆ.แล้วก็,สถานที่นั้นกว้างพอสำหรับคนเยอะๆที่ต้องการกินอาหาร.นอกเหนือจากนั้น,เราสามารถกินที่ด้านนอกขณะชมวิวของ Seongsan Ilchulbong.
ถ้าเราเข้ามาด้านในอีกผ่านฟู้ดคอร์ท,เราก็จะเห็นโอเชี่ยน อารีนา(ทางเดิน).
สาวชาวรัสเซียสวยๆ4 คน,ผู้ซึ่งเป็นทีมชาติของการแสดงที่จัดขึ้นเป็นเวลา20นาที.
พวกเขาว่ามันเป็นการแสดงร่วมกันครั้งแรกในประเทศ.การแสดงนั้นสวยเกินกว่าที่จะบอกว่ามันคือกีฬา.พวกเขาแสดงได้สวยงามมาก,เล่าถึงเรื่องราวใต้ทะเลที่น่าสนใจ.
การแสดงของสิงโตทะเลก็ตามมา.สิงโตทะเลแกว่งหางของมันและปรบมือช่างน่ารักจริงๆ.
มันเล่นกับผู้ชมและทำให้พวกเขาหัวเราะด้วยการโยนห่วง.ชื่อเล่นว่า พังค์ คิด ก็เหมาะกับเจ้าสิงโตทะเลตัวนี้จริงๆ.
และปลาโลมาโชว์ก็มา,ซึ่งเป็นการแสดงที่น่าประทับใจและสนุกที่สุด.นี่เป็นช่วงที่ปลาโลมา ทางด้านหน้าของผู้ชม,ต้อนรับด้วยการเป่า.
พนักงานที่นี่ก็มีส่วนร่วมในการแสดงกับปลาโลมา.นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาขี่ปลาโลมาและว่ายน้ำไปรอบๆสระ,ด้วยความเร็วและแรง.มันเยี่ยมมากแต่ก็หวาดเสียวในการชม.ผมคิดว่าสต๊าฟคนนั้นและปลาโลมามีความเชื่อใจกันอย่างมาก,ในตอนที่ซ้อมด้วยกันมานาน.การเคลื่อนไหวและความสัมพันธ์ของพวกเขาคือความงามอย่างแท้จริง.
ปลาโลมาเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาด,และผมเห็นด้วยเนื่องจากผมดูปลาโลมาไปตามทิศทางที่สต๊าฟบอก.
หลังจากนั้น,มีการแสดงใหญ่ของปลาโลมาสี่ตัวกับสต๊าฟสี่คน.มันน่าตื่นเต้นทุกช่วงเวลาที่ปลาโลมากระโดดจากตรงนั้นตรงนี้,และผมก็ปรบมือและหัวเราะ,วุ่นอยู่กับการชมพวกมัน.
สถานที่แรกที่ได้เห็นคือเกาะใต้น้ำ,ประกอบไปด้วยเกาะ munของเจจู.สีสันสดใส,รูปร่างและขนาด ~คุณสามารถชมสัตว์ทะเลที่มาจากประเทศอื่นได้ด้วย.
หลังจาก"เกาะในโลก"คือ"บ้านของเพนกวิน".เพนกวินตัวเล็กกว่าที่ผมคิดไว้และหายาก,แต่พวกมันก็น่ารัก.มันคือ"เกาะในโลก",แต่แทนที่จะเป็นเพนกวินซึ่งอยู่ไกลออกไป.มันเป็นนกที่สวยงาม,ซึ่งผมไม่รู้จักชื่อ.
นี่เป็นที่ที่เราลงไปจากชั้นสอง,ขณะดูรอบๆ.นี่เป็นสิงโตทะเลของจริง,ตรงทางเข้าชั้นหนึ่ง.เมื่อคุณเอามือวางที่กระจกแล้วขยับ,มันก็มองตาม,และเมื่อคุณเล่นนานๆ.มันก็จะมองที่ตาคุณ.
เมื่อผมได้มองที่ตาที่ใหญ่และใสของสิงโตทะเล,แทนที่จะรู้สึกกลัวผมรู้สึกแปลกๆว่าสิงโตทะเลนั้นคุยกับผมผ่านทางสายตา.เมื่อคุณผ่านอควาเรี่ยมนี้,เข้าไปที่หน้าต่างเอามือวางเบาๆแล้วเล่นกับสิงโตทะเล.มันจะเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมมากที่ได้สื่อสารกับสัตว์ทะเล.
นี่คืออควา ซาฟารีที่ชั้นหนึ่ง.มันชื้นและร้อนมากจากตรงทางเข้า,แสดงป่าอเมซอนและใต้น้ำ.
Yohot~มันเป็นอุโมงค์อควาเรียมที่สวยมากที่ผมเคยเห็นในทีวี.กับฉลาม,มีปลาเล็กๆว่ายน้ำไปมาในประกายสีเงิน,ที่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นปลาซาดีนหรือปลาอื่น.
ที่ด้านใน,มีฉลามที่น่ากลัวกำังว่ายน้ำอย่างขี้เกียจ.ผมจินตนาการว่าฉลามนั้นตัวโตเหมือนในหนัง,ซึ่งผมก็ผิดหวังนิดหน่อย,แต่ตาของพวกมันก็เฉียบคมมาก.
ปลายาวหนึ่งเมตรว่าน้ำเอื่อยๆตามมือของภรรยาผม,คิดว่ามันคืออาหาร.
หลังจากอุโมงค์ทะเล,อควาเรี่ยมที่มีชื่อเสียงก็ปรากฎ.ชื่อของมันคือ"ทะเลแห่งเจจู",สร้างตามแบบของทะเลที่เจจู,หลังจากการสำรวจจริง.
โชคดีที่ว่า,มันเป็นเวลาให้อาหารปลากระเบน,ซึ่งสต๊าฟสองคนอยู่ข้างในอควาเรี่ยม.โบกไปมาเหมือนกับนก,ภาพของปลากระเบนว่ายน้ำอยู่รอบๆพวกเขาเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ.
ผมเคยเห็นแต่ปลากระเบนที่ดำทั้งตัวไม่เคยเห็นตัวลายๆ,แต่ที่นี่มีลายจุด,ลายเสือดาว,และแบอื่นๆ.มันหลากหลายและสีสันสดใส,แม้แต่ขนาดยักษ์ของปลากระเบนก็ทำให้ผมเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่สวยที่สุดในอควาเรี่ยม"ทะเลแห่งเจจู".
หลังจากเวลาให้อาหาร,มันเป็นเวลาของนักดำน้ำหญิงสาธิตการดำน้ำ.นักดำน้ำที่มีอายุกว่า70ปี,และพึ่งหัดที่จะดำน้ำ.เธอเป็นนักดำน้ำที่พิเศษของเจจู,เลือกจากการแข่งขัน.เธอนั้นเก่ง,จริงๆ,ถ้าเทียบกับอายุของเธอ.
หลังจากการสาธิตการดำน้ำของนักดำน้ำหญิง,ก็เป็นการแสดงของสองเงือกสาวแสนสวย.
หลังจากการแสดงที่หลากหลาย,ผู้ชมก็ได้รับการอนุญาติให้มาที่ด้านหน้าและดู,ในรูปอควาเรี่ยมดูเล็ก,แต่จริงๆแล้วมันใหญ่เกินไปจนเราจะต้องหมุนหัวรอบแล้วดู.
เรานั่งที่ตรงไหนได้ที่โลกแห่งน้ำเจจูมันยากที่จะทิ้งความหลากหลายและทิวทัศน์ที่งดงามของโลกใต้น้ำเจจูไว้เบื้องหลัง.เมื่อคุณเดินไปรอบๆอควาเรี่ยม,คุณก็สามารถเดินไปพร้อมๆกับการกินไอติม.
เมื่อคุณผ่าน"ทะเลแห่งเจจู"และออกมาด้านนอก,อย่างแรกที่คุณจะเห็นคือสิงโตทะเล.
หลังจากนั้น,เป็นวอลรัส,และสัตว์ทะเลใหญ่ๆอีกมากมายเช่นปลาโลมายักษ์.หลังจากที่ชมพวกมัน,คุณสามารถออกจากอควาเรี่ยมผ่านร้านขายของที่ระลึก.
โปรดเข้าชมศูนย์วิทยาศาสตร์ทางน้ำตรงข้ามอควาเรี่ยม,ถ้าคุณมีเวลา.ศูนย์วิทยาศาสตร์เป็นสถานที่ที่เขียนตำอธิบาเกี่ยวกับรูปแบบของก้นทะเลและสัตว์ใต้ทะเลเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น.ไม่มีสัตว์ทะเลให้ดู,แต่มันเป็นคอร์สที่สั้นและมันดีต่อการศึกษา.
ตอนระหว่างกลับจากโลกแห่งน้ำเจจู,ภรรยาผมบอกว่าหัวใจเธอเต้นรัว.มันไม่ใช่สถานที่ที่คุณสามารถที่จะเห็นสัตว์ต่างๆใต้ทะเลได้ง่ายๆในควาเรี่ยม,แต่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถสื่อสารกับสัตว์ทะเลอย่างเช่นแมวน้ำ,สิงโตทะเลผ่านตาของพวกมัน,และคุณยังสามารถเอามือสัมผัสน้ำทะเลที่สระ,และยิ่งไปกว่านั้นเราประทับใจกับความยิ่งใหญ่ของ"ทะเลแห่งเจจู".มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม.ทั้งผู้ใหญ่และเด็กสามารถที่จะสนุกกับที่โลกแห่งน้ำเจจู!ผมแนะนำว่าเป็นสถานที่ที่คุณและครอบครัวจะสนุกด้วยหัน.(แขกที่พักที่รีสอร์ทJeju Hanwha ,อย่าลืมว่ามีลด23% )
+ ที่อยู่: 127-1, Goseong-ri, Seongsan-eup, Seogwipo-si, Jeju-do
+ โทรศัพท์: 064-780-0900 + เวลาทำการและค่าเข้า: ตามเว็บไซต์ click
สถานที่ที่นักแสดง Lee Byeongheonกินอาหารทั้งสามมื้อถึงสามครั้ง,ร้านราเมนปลาหมึก 'Kyung Mi's House'
ใกล้กับปล่องภูเขาไฟSeongsan Ilchulbong,มีร้านราเมนที่มีชื่อเสียงที่ที่นักแสดงLee Byeongheon ได้มาที่นี่และกินหลายครั้งในหนึ่งวัน,เมื่อตอนที่เขามาที่เจจูสำหรับถ่ายละครเรื่อง 'All In'. เมื่อก่อนเรียกว่า 'Kyung Mi Rest Area', แต่ตอนนี้ชื่อ'Kyung Mi's House'. 'Kyung Mi's House'นั้นเป็นตำนานของราเมนซีฟู้ด,เพราะมันมีชื่อเสียงกว่า10ปี,แม้แต่ตอนนั้นราเมนซีฟู้ดไม่ได้เป็นที่นิยมที่เจจู.
มันตั้งอยู่ตรงทางเข้าของปล่องภูเขาไฟSeongsan Ilchulbong ,คุณควรจะระวังหรือคุณอาจจะเลยได้เพราะว่ามันหายากเทียบกับชื่อเสียงของมัน.
เพราะว่ามันเป็นร้านอาหารดังที่ตั้งอยู่ตรงด้านหน้าสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างปล่องภูเขา Seongsan Ilchulbong ,มันจึงแน่นตลอดแม้แต่มันจะไม่ใช่เวลาอาหาร.
เมนูที่สอง.เมนูที่สามารถกินกับข้าวได้.เราสั่งราเมนซีฟู้ดหนึ่งชาม(5000 วอน),ซึ่งทุกโต๊ะก็กินด้วย,และข้าวหน้าหอยเม่นหนึ่งถ้วย(10,000 วอน).
ผมเดาว่า'Kyung Mi's House'ใช้ซีฟู้ดที่สดและใหม่ซึ่งตรงมาจากทะเล,จับโดยนักดำน้ำหญิง.
อย่างแรกที่มาถึงคือข้าวหน้าหอยเม่น.ข้าวหน้าหอยเม่น/ bibimpapหอยเม่นนั้นขายในร้านอาหารในเจจูหลายๆร้าน.ร้านอื่นๆขายข้าวหน้าหอยเม่นราคา 13,000 วอน,ที่มีหอยเม่นนิดหน่อยและผักเยอะๆ.
ปริมาณของหอยเม่นนั้นพอๆกับร้านอื่นๆสำหรับสองท่าน.มีหอยเม่นในปริมาณที่เยอะ,สาหร่าย,น้ำมันงา,และรถชาติของข้าวหน้าหอยเม่นนั้นอร่อยมาก.คุณสามารถได้รสชาติของหอยเม่นจริงๆ,มันเจ๋งมากๆ!
แม้ว่าคุณจะผสมมันและตักมันด้วยช้อน,มันยังมีรสชาติดีดีของหอยเม่นผสมอยู่.
รสชาตินั้นไม่พิเศษ,รสชาติเหมือนราเมนที่เรากินที่บ้าน,เพราะว่าเครื่องปรุงหลักๆนั้นเป็นราเมนผง.แต่ซุปนั้นมีรสที่เผ็ดและลึกกว่าราเมนธรรมดา,และมันไม่ค่อยเลี่ยน.อย่างไรก็ตาม,คนชอบซีฟู้ดจะรักราเมนนี้.
นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ได้ทิ้งความทรงจำไว้ที่นี่และที่นั่น,ด้วยประโยคที่น่าสนใจ.เพราะ ปล่องภูเขาไฟSeongsan Ilchulbong นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติ,มันจึงมีคำทักทายจากชาวต่างชาติด้วย.
+ ที่อยู่: 145-4, Seongsan-ri, Seongsan-eup, Seogwipo-si, Jeju-do
+ โทรศัพท์: 064-782-2671
+ เวลาทำการ: ตี 5:00ถึง6:30 เย็น,เปิดตลอดทั้งปี.
ในตอนจบ........
เป็นยังไงบ้าง,เที่ยวที่เจจูกับผม?โดยส่วนตัวแล้วผมไปเที่ยวที่เจจูทุกปี,และผมพยายามที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆให้ผู้อ่านเสมอๆ.อย่างที่เคย,ผมพยายามมองหาสถานที่สดใหม่ซึ่งยังไม่มีชื่อเสียง.แน่นอนจะมีคนที่รู้จักทุกที่แล้ว,สำหรับคนเหล่านั้น,ผมจะพยายามหาสถานที่ที่ถูกซ่อนไว้และร้านอาหารที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร.ได้โปรดติดตามตอนต่อไป.แล้วเจอกัน~