Holiday Journal

หนึ่งคืนและสองวันในGyeongju

ปีนี้มีเดือนกุมภาพนธ์ที่มียี่สิบเก้าวันตามปฏิทินจันทรคติซึ่งฤดูใบไม้ร่วงดูเหมือนจะยาวกว่าปกติ.สิ่งแรกที่เข้ามาอยู่ในใจของพวกเราก็คือทริปของโรงเรียนเมื่อเรานึกถึงฤดูใบไม้ร่วง.และทริปของโรงเรียนทำให้เรานึกถึงGyeongju. อย่างนี้,ทุกๆคนในเกาหลีมีประวัติและความทรงจำเกี่ยวกับเมือง,Gyeongju. ในGyeongju. ,เป็นเมืองหลวงเป็นเวลา 1,000 ปีในยุคสมัยSilla,มีสถานที่ที่ผมแน่ใจ 100% ว่าชาวเกาหลีเคยไปแต่มันมีอีกหลายที่ที่คนไม่รู้จัก.วันนี้,ผมจะโชว์ให้คุณเห็นสถานที่เหล่านั้นเร็วๆนี้.

1,000 ปีของหมู่บ้าน Yangbang, “หมู่บ้าน Gyochon”ในGyeongju,

Gyeongju Gyochonนั้นเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนในGyeongju. Gyochon,ซึ่งได้ถูกเรียกว่า Gyodong หรือ Gyori ด้วย, เคยมีมหาวิทยาลัยของประเทศแห่งแรกของเกาหลี,, Gukhak,ถูกสร้างในปีที่สองในสมัยกษัตริย์Munmu(ในปี 682).ไม่นานมันนี้,มันได้ถูกเรียกว่าหมู่บ้านGyochon.มันมีบ้านหลังคากระเบื้องอยู่สองสามร้อยหลังและมีผู้คนอาศัยอยู่ในบางหลังยกเว้นที่เหลือ,ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์ประสบการณ์,ร้านอาหารและเวิร์คช็อป.โดยเฉพาะ,บ้านที่หรูหราและสูงศักดิ์ของ Choibuja ( บ้านของครอบครัวChoi ที่ร่ำรวย)ที่ได้รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลและฐานะกว่า400ปีใน Gyeongjuซึ่งน่าจะดีสำหรับเด็กๆ.ไปดูที่นั่นกันเถอะ.

สะพานบนสายน้ำที่ไหลผ่านด้านหน้าของหมู่บ้านGyochon เรียกว่าWoljeonggyo(月淨橋)ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อสองปีก่อนและมันก็ดูเหมือนว่าเกือบจะเสร็จแล้ว.มันเป็นที่รู้กันว่าพระ Wonhyoได้ข้ามสะพานนั้นเพื่อไปที่ Yoseokgungในยุคสมัยการรวมตัวของ Silla,และรูปร่างของมันก็ไม่เหมือนใครที่ตรงส่วนล่างของท่าเรือดูเหมือนเรือเพื่อเตรียมสำหรับเวลาน้ำท่วมในหน้าร้อน.มันยังไม่เสร็จดีซึ่งผมก็ข้ามสะพานไม่ได้,คุณสามารถที่จะเห็นหมู่บ้าน Gyochonทั้งหมดได้เลยทีเดียว.

คุณมาเดินกับผมระหว่างหลังคากระเบื้องช้าๆ.มันมีอากาศที่ดีสำหรับการเดินจริงๆ~

คู่หนุ่มสาวกำลังขี่จักรยานเป็นคู่ๆ.พวกเขาดูเด็กมากแลพพยายามที่จะทำตัวให้ดีต่อกันและกัน. ^^*

ในตรอก,ประตูสูงๆและกำแพงนั้นดูสูงส่งที่ผู้ชายในแบบชนชั้นสูงจะอาศัยอยู่.

เอากระเบื้องใส่ตรงด้านบนเพื่อทำให้กำแพงดูดีขึ้น,ใช่มั้ยล่ะ?

ตรงจัสตุรัสของหมู่บ้าน,มีเหล่าครอบครัวกำลังพักผ่อนอยู่.

เขาทำไม่ได้เลยซักครั้ง.ผมเห็นนะ!!

Hanguktogi เป็นศูนย์กลางทำเซรามิคที่ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง.รูปปั้นที่ทำจากกระเบื้องที่ตรงทางเข้านั้นสวยมากๆ.

เด็กๆที่นี่กำลังทำถ้วยและจาน.ผมลองทำดูเหมือนกันแต่ว่ามันไม่ง่ายเลย.ผมมีมือที่ช้าดังนั้นการทำถ้วยเล็กๆผมก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง.

ครูและเด็กๆกำลังทำเครื่งกระเบื้อง.มันจะต้องเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเด็กๆแน่ๆ.

“แม่จ๋า,หนูรักแม่".......ผมเห็นแม่ๆอยู่ที่ด้านหลัง. ^^*

อีกครั้ง,เราเดินตามทางระหว่างกำแพงสูงๆ.ที่ตรงสุดทาง,คนนั้นกำลังถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน,ทำไมเราไม่ลองแลกเปลี่ยนกันล่ะ?

นี่เป็นบ้านเก่าของครอบครัว ChoiในGyo-dong. ครอบครัวนี้มั่งคั่งมากว่า400ปีตลอด12รุ่นและพวกเขาก็ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่นแต่ช่วยเหลือ,คนจน,และปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและทำให้เป็นที่นับถือจากคนทั่วไป.โดยเฉพาะ, คติหกหลัก(六訓) ของครอบครัวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนด้วย.มันเป็นแบบนี้.

คติหกหลักของครอบครัว(六訓)

1. สอบของรัฐแต่ไม่สอบสูงกว่าJinsa.

2.อย่าเก็บสะสมพื้นที่มากกว่า 10,000 Seoks( หน่วยปริมาณสำหรับข้าว),และถ้ามันมีมากกว่า10,000 Seoks คืนมันให้กับสังคม.

3.อย่าซื้อที่ของคนอื่นในปีอธิกสุรทิน.

4.เป็นเจ้าบ้านที่ดีแก่ผู้เดินทาง(過客) ด้วยความศรัทธาและการเอาใจใส่.

5.หญิงที่แต่งงานกับครอบครัวนี้ต้องใส่ชุดผ้าฝ้ายสามปีหลังจากแต่งงาน.

6.อย่าให้ใครหิวโหยในระยะ100 ri(50km).

ที่ด้านหน้าของห้องรับแขก,ต้นทับทิมนั้นเต็มไปด้วยผลทับทิม.มันต้องเป็นผลไม้ที่พิเศษที่พวกเขาสามารถกินในตอนนี้ของปี,ใช่มั้ย?

สองปีที่แล้ว,หญิงแก่ที่อาศัยอยู่ตรงอาคารหลักและผมสงสัยว่าเธอยังโอเคมั้ย.

หลังจากจากที่เราออกจากที่บ้านของครอบครัวChoi ,ผมไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่แต่ผมเห็นแถวยาวๆ.

แถวนั้นมีคนกว่าร้อยคนที่มุ่งหน้าไปสู่ Gyori Gimbapที่มีชื่อเสียง.มันดีใช่มั้ยล่ะที่ได้ยืนต่อแถว อย่างนึ้?ทุกๆคนต้องคิดที่อยากจะมาที่นี่อยู่แล้วซึ่งพวกเขาต้องลองมัน.

ด้านในร้าน,พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการทำGimbap ให้ลูกค้า.

ซึ่งผมกำลังเข้าคิวและลองมันเหมือนกัน.มันกรอบและมีไข่เยอะ.มันมีรสชาติที่เฉพาะตัว,และนี่คือ Yachaegyeran Gimbap(Gimbapกับผักและไข่).มันดีเหมือนกัน.

เราเดินเพิ่มจากGyori Gimbap และเราเห็น Gyeongju Hanggyo. Hanggyoเป็นทั้งวัดและโรงเรียนที่สอนเด็กท้องถิ่นในสมัยJoseon .มันเคยเป็นGukhak,มหาวิทยาลัยแห่งชาติในสมัย Silla,และใช้เป็นสถานศึกษา Hyanghakในสมัย Koryeoและ Hanggyo ในสมัย Joseon.

ทันทีที่เราเข้าไป,เราพบบางอย่างที่แปลก.หินก้อนใหญ่ๆล้อมรอบบ่อน้ำและทางน้ำนั้นได้ถูกทำไว้เพื่อไม่ให้น้ำไหลกลับไปที่บ่อน้ำ.มันเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมันซึ่งมันช่างน่าประหลาดสำหรับผมด้วย.

ในสวนหลังบ้าน,ต้นไม้ใหญ่ๆที่ใหญ่กว่าสองแขนโอบรอบเหมือนกับบอกอายุของมันที่มีชีวิตอยู่.

ผมสามารถเห็นบ้านหลังใหญ่หลังจากที่เข้าสวน.โดยเฉพาะโบสถ์ Daeseongjeonทางด้านขวาที่ถูกจัดให้เป็นสมบัติNo.1727. มันถูกเผาในยุคการเข้ายึดครองเกาหลีของญี่ปุ่นในปี1592 แต่เริ่มสร้างใหม่ในสมัยกษัตริย์Seonjo และแล้วเสร็จเมื่อสมัยกษัตริย์Gwanghae.แต่ผมสามารถเห็นคนยืนและพักที่นั่น.มันไม่มีป้ายห้ามใดๆซึ่งผมก็เดาว่ามันทำได้.

คุณชอบหมู่บ้านGyochon มั้ย?มันดูว่าคุ้มค่าที่จะมา,ใช่มั้ยล่ะ?,มันเป็นหนึ่งในสองสามที่ในเกาหลีที่คุณสามารถมีประสบการณ์ทั้งสมัยSilla และสมัยJoseon อยู่ด้วยกัน.ผมแนะนำว่าคุณควรจะมาที่นี่ใน Gyeongju.

+ ที่อยู่ : 39-2, Gyochon-gil, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do

+ โทรศัพท์ : 054-779-6142

+ เว็บไซต์ : click

ความสามารถในการทำอาหารของลูกสะใภ้คนแรกของครอบครัวหลัก,หมู่บ้านGyochon 'Choiga Bapsang'

หลังจากขับรถสี่ชั่วโมงเพื่อไปยังGyeongju และชมรอบๆหมู่บ้าน Gyochon,ผมหิวแทบแย่จนผมไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป.ร้านนี้ชื่อ Choiga Bapsang ในหมู่บ้าน Gyochon, Gyo-dong.ร้านนี้ทำอาหารให้ลูกค้าหนึ่งคนที่โต๊ะซึ่งปกติต้องเป็นปาร์ตี้หรืองานครอบครัวในบ้านChoibuja(ครอบครัว Choiเป็นที่รู้กันว่าร่ำรวยในGyeongju),และผมเจอพวกนี้ผ่านทางออนไลน์.มันค่อนข้างแพงแต่ผมได้ยินมาว่ามันเป็นสูตรโบราณซึ่งผมสงสัยว่ามันจะรสชาติยังไง.ไปดูกันว่าเจาเสริฟอะไรบ้าง.

ร้านนี้อยู่ใกล้กับบ้านของChoibuja,สะพานWoljeong ,, GyerinและCheomseongdae(หอสังเกตุการณ์),ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ดีที่จะมาแวะ.มีที่จอดรถฟรีมากมาย.ผมเข้าไปด้านในที่ดูสูงส่ง.

ผมอิจฉาเจ้าของสวนสวยๆที่ได้รับการดูแลอย่างดีนี้.มีประตูเล็กๆไปสู่บ้านใกล้ๆและผมสามารถเดาได้ว่าพวกเขาเคยรวยขนาดไหน.

ผมเห็นราคาในเมนู,ใช่มันแพง.ผมจะกินอะไรดี........เราสั่ง"เซทซุปเนื้อกับข้าว(Yukgaejang)” หนึ่งที่และ"เซท Bibimbap สไตล์ Gyeongsangdo”.แต่ละเซทราคา 13,000วอน.

พวกเขาใช้ข้าวในฤดูเก็บเกี่ยวและไม่เคยใช้เครื่องปรุงคุณภาพไม่ดีรวมถึงน้ำมันหรือน้ำตาล.ทุกๆจานที่ทำในร้านนี้ซึ่งมันทำให้ดูน่าเชื่อถือ.

หลังจากที่สั่งอาหารเสร็จ,ของทานเล่นก็เสริฟ.นี่เป็นเซทแพนเค้กเกาหลีสำหรับลองชิม.ถ้าคุณดูที่เมนู,ถ้าเป็นเซทแพนเค้กที่เป็นอาหารจานหลักจะราคา15,000 วอน.มันอร่อย.ไม่มีอันไหนที่รสจัดเกินไป,แต่มันสะอาดและเราสามารถรู้สึกถึงรสชาติที่แท้จริงของส่วนผสม.มันเยี่ยมมากๆ.

นี่เป็นเซทBibimbap สไตล์ Gyeongsangdo.มันเสริฟสำหรับหนึ่งที่ในจานเล็กๆ.มีคนบอกผมว่ามันเคยเสริฟในสมัย Joseonด้วย.มันต่างจากเครื่องเคียงห้าอย่าง,ของบดต่างๆและซุปแตงกวาเย็น.

มีสองสามอย่างที่จะพูดถึงGochujang ที่เป็นแรงบันดาลใจของBibimbap. สิ่งนี้ได้สืบทอดรุ่นต่อรุ่นในครอบครัว Choibujaเรียกว่าYukjang,ซึ่งทำจากเนื้อทอด.เผ็ดนิดหน่อยแต่Yukjang ที่กลมกล่อมก็เข้ากันได้ดีกับ Bibimbapผมต้องขอบอกว่านี่คือ GochujangสำหรับBibimbap ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมา.

คุณรู้ว่าคุณสามารถเดาความสามารถในการทำอาหารจากการทำซอสของแต่ละบ้าน. Deonjang(ถั่วบด) รสชาติจะดีมาก.นี่ก็ผสมกับ Bibimbapและรสชาติมันก็เหมือนทอดกับแอนโชวี่แต่มันก็ไม่เค็มเลย,แต่อร่อยซะมากกว่า.โดยเฉพาะรสชาติของแอนโชวี่ได้เพิ่มรสชาติให้กับ Bibimbapมากขึ้น.นี่เรียกว่า Myeoljang (ซอสแอนโชวี่).

ผมสามารถกินข้าวใหม่ๆและร้อนๆตั้งแต่พวกเขาเสริฟมัน,ไม่ได้เก็บมันในตู้เย็นหรือในถ้วยในอุณหภูมิห้องมาล่วงหน้า.ผมสามารถรู้สึกได้ว่าพวกเขาใส่ใจมากๆแม้แต่กับสิ่งเล็กๆ.

สำหรับคนที่คุ้นเคยกับBibimbap ทั่วๆไปจะหลงรักมัน.ด้วยYukjang ที่บดอย่างดีและmyeoljang, รสชาติของมันยอดเยี่ยม.มันไม่เค็มหรือเผ็ดแต่จะละมุนและสดใหม่ซึ่งคุณสามารถรัรู้ถึงรสชาติของส่วนผสมทั้งหมด.นี่,ผมแนะนำให้คุณต้องลอง.

อย่างที่สอง,”ซุปเนื้อและข้าว",เป็นเมนูที่ดีที่สุดสำหรับเสริฟให้แขกในสมัย Joseon.ในสมัยนี้นี่เรียกว่า Yukgaejang ( สตูว์เนื้อรสเผ็ด).เครื่องเคียงก็ยังเป็นแบบเดิม.

แม้แต่แค่มองมัน,ผมก็น้ำลายไหล.ในถ้วยใหญ่ๆ,มันมีเครื่องปรุงของสตูว์อีก. Yukgaejangนั้นสมควรจะมีเครื่องปรุงเยอะๆ,ส่วนใหญ่คือผัก,เพราะเมื่อต้มแล้ว,คุณก็สามารถอร่อยกับรสชาติที่เข้มข้นและลึกของเครื่องปรุงต่างๆ.

Yukgaejang ที่ Choigabapsang ไม่ได้มีส่วนผสมที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติซึ่งทำให้รสชาตินั้นดีและสะอาด.เขาใช้เครื่องปรุงมากพอซึ่งทำให้ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงที่เป็นสารปรุงแต่งในตอนแรก.ปีที่แล้ว,ผมถามรายการทีวี ที่ช่อง A เพื่อที่จะหาร้านอาหารที่มีความชำนาญในด้านYukgaejang ใน Yonginและมันออกอากาศในทีวี,ซึ่งทำให้ผมประหลาดใจ.และผมต้องบอกว่า,อันนี้มันดีพอๆกับอันนั้น.บางคนที่ใช้เครื่องปรุงแต่งอาจจะคิดว่ารสมันอ่อนแต่มันYukgaejang ก็อร่อยจริงๆกับรสชาติของส่วนผสมในถ้วยสตูว์.

รูปภาพมันบอกพอมั้ย?คุณต้องการอะไรอีก?ผมไม่ชอบรสของเครื่องปรุงแต่ง,ผมชอบรสชาติของเครื่องปรุงแท้ๆมากกว่าและรักมันเลย.ยกเว้นkkakdugi(กิมจิหัวไชเท้าหั่น), เรากินพวกมันจนหมด. ^^* ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ที่จะกินในGyeongju, ผมว่าคุณไม่ต้องคิดมาก,แค่มองหา Choigabapsang.ผมว่าคุณควรจะมาที่นี่.

+ ที่อยู่ : 21, Gyochonan-gil, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do

+ โทรศัพท์ : 054-775-7557

+ เวลาทำการ : 11:00 - 21:00 (ไม่มีวันหยุดยกเว้นวันหยุดประจำชาติ)

วิญญาณลึกลับในGyerimที่ล่มสลาย

หลังจากที่เราผ่านหมู่บ้าน Gyochonใน Gyeongjuแฃะเข้าสู่ทางเดินในป่า,เราสามารถเห็นGyerin กับวิญญาณที่ลึกลับทันที.โดยปกติ,คนจะเข้าทางCheomseongdae (หอสังเกตุการณ์) หรือ Banwolseongเก่าแต่เราต้องเข้าทางด้านหลังเพราะเราแวะที่บ้านของครอบครัว Choiซึ่งทางเข้าทำให้เรารู้สึกถึงความลึกลับแบบแปลกๆ,และเรารู้สึกว่าที่นี่ดีต่อการพักผ่อนบนเสื่อเพราะมีต้นสนอยู่มากมาย,ต้น zelkovaและผลไม้ต่างๆ.

Gyerimมีประวัติของการก่อตั้งสมัย Silla.เรื่องราวของการถือกำเนิดของKim Al-ji,หนึ่งในวรากเหง้าของนามสกุล (姓) รู้จักกันในชื่อPark, Seok และKim,ก็ถือกำเนิดจากที่นี่.มีตำนานเกี่ยวกับคนที่เฝ้าตามฝูงของไก่ป่าและพบหีบเงินและบรรพบุรุษของครอบครัว Gyeongju Kim, Kim Al-ji, อยู่ในหีบนั้น.Kim(金; ทอง) ได้ถูกตั้งขึ้นตามหีบทอง.และบรรพบุรุษของเขาคือกษัตริย์แห่ง Sillaที่สิบสาม,กษัตริย์Michu.

Gyerim มีวิวยามค่ำคืนที่งดงามแต่กลางวันก็สวยงามอย่างที่เคย.ตรงประตูหลังทางที่นำไปสู่Gyochon,มีป่าที่หนาทึบแบบที่มีต้นสนแบบที่ไม่เหมือนใคร.

มันเป็นช่วงสุดสัปดาห์ในตอนนั้นซึ่งผมสามารถเห็นครอบครัวและคู่รักกำลังพักผ่อนอยู่บนเสื่อ.มันเงียบและสบาย,ซึ่งเพอร์เฟกต์สำหรับปิกนิค.

คุณสามารถเดินรอบๆหลุมศพโบราณ.แต่,รถเล็กๆนั่นคืออะไร?

คนขับรถเด็กๆกำลังฝึกซ้อมอยู่ในสนามหญ้า.น่ารัก.

ที่ด้านหลัง,มีหลุมศพโบราณอยู่ด้วยทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ,ใช่มั้ย?ต้นสนแต่ละ

ต้นดูเหมือนมีเรื่องราวของมันเองผ่านประวัติศาสตร์.

มีต้นพลับที่เต็มไปด้วยลูกของมันที่ตกลงบนพื้นมากมาย,แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครกินเพราะว่ามันยังไม่สุก.

ผมไม่ได้ขโมยนะ,ผมแค่หยิบมันจากพื้น.มันยังไม่สุกผมก็เลยกินมันไม่ได้.

ตรงทางเข้าป้อมBanwolseong ,มีต้น zelkovaยืนต้นอยู่อย่างลึกลับเป็นแนวป่า.ค่อนข้างแปลกและลึกลับ,ใช่มั้ย?ถ้าคุณจ้องมัน,คุณอาจจะรู้สึกเหมือนว่าจะมีผู้แทนในสมัยก่อนจะโผล่ออกมา.

แล้วเราก็ออกจากGyerim, มีสวนดอกฝ้ายยักษ์อยู่.

โอ้,คุณเห็นดอกฝ้ายมั้ย?มันบานอยู่ตรงนี้และตรงนั้น,มันสวยมากเลย.

นี่จะต้องเป็นปุยฝ้ายแน่ๆ.ตอนที่มันพร้อม,ฝ้ายข้างในระเบิดออกมา.ผมอยากที่จะเห็นปุยฝ้ายด้านในแต่ว่ามันยังไม่มี.

ผ่านทุ่งดอกฝ้ายไป.ผมสามารถเห็น Cheomseongdae ( หอสังเกตุการณ์).คุณสามารถที่จะหาสมบัติที่มีอายุกว่า 1,000ปีในGyeongju.แวะที่Gyerim เมื่อคุณมาที่Gyeongju.มันเป็นสถานที่ที่น่าประทับใจมาก.บวกกับ,ที่จอดรถและค่าเข้าก็ฟรี. ^^*

+ ที่อยู่ : 1, Gyo-dong, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do

ขนมสองอย่างที่ต้องกินที่Gyeongju, 'Danseokga Chal bori ppang' กับ'Hwangnambbang'

มีอาหารมากมายที่คุณต้องลองที่Gyeongju.เมื่อมาถึงอาหาร,มีหมูย่าง,jjigaeหมู,gukbap, milmyeon, gimbap,ddeokgalbi, และมันก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ.แต่สำหรับของหวานหรือขนมปังเพื่อเป็นของว่าง,มีอยู่สองอย่างที่เป็นต้นตำรับใน Gyeongju. Danseokga Chal borippang และ Hwangnambbang! แน่นอนคุณสามารถที่จะหาขนมปังแบบอื่นได้เหมือนกันใน Gyeongjuแต่ทุกอย่างได้สร้างขึ้นใหม่ตามรากฐานของขนมสองอย่างนี้.ดังนั้นลองทั้งสองอย่างที่เป็นตัวแทนของขนมจาก Gyeongjuและลองเปรียบเทียบพวกมันดู.ไปกันเลยมั้ย?

Danseokgaเป็นอันแรกที่ได้รับการพัฒนาและขาย Chal bori ppang (ขนมปังบาร์เลย์).เบเกอรี่อื่นๆมีป้ายเหมือนกันแต่ต้นตำหรับคือที่นี่,ในHwangnam-dong.

ด้านในร้าน,พนักงานก็กำลังวุ่นอยู่กับการอบ.มันมีชื่อเสียงน้อยกว่าHwangnambbang ซึ่งร้านนั้นก็เล็กกว่า.ผมสงสัยจังว่ามันเป็นยังไง.

ผมสามารถซื้อได้จาก5ถึง40ชิ้นแต่ไม่ว่ายังไง,ก็ไม่มีส่วนลด.บวกกับ,มันก็จะหมดอายุภายใน3-4วันในอุณหภูมิห้อง.เหมือนกับที่Hwangnambbang,หมดอายุเร็วเราจึงตัดสินใจซื้อแค่10ชิ้น.ถ้ามันสามารถที่จะเก็บได้นาน,ผมคงจะซื้อเยอะ.แต่ละอันราคา 600วอน.

ในตอนที่ผมหิวมากๆครั้งต่อไป,ผมสัญญาผมจะซื้อแพ็ค40ชิ้น.

Chal bori ppang (ขนมปังบาร์เล่ย์ดูเป็นแบบนี้.เหมือนฟองน้ำกลมๆ.

ผมอยากให้คุณนึกถึง,รสชาตินุ่มๆและฉ่ำเหมือนฟองน้ำและมันมีถั่วadzuki ข้างในนิดหน่อยซึ่งมันหวานและอร่อยกำลังดี.เมื่อคุณกินอันนึงหมด,คุณอาจจะคิดว่าโอเค......แล้วคุณก็จะคิดถึงมันอีกตอนมาที่รถ,และอีกครั้งตอนคุณขับรถ,ซึ่งมันยืนยันว่มันเป็นรสชาติที่น่าสนใจ.ผมว่ามันคุ้มที่จะลอง.

+ 주소 : 경상북도 경주시 탑리4길 2

+ 전화 : 054-773-7520

+ 영업시간 : 오전8시 ~ 오후10시 (연중무휴)

ครั้งนี้ผมจะโชว์คุณHwangnambbang( ขนมปังHwangnam). Danseokga Chal bori ppang (ขนมปังบาร์เล่ย์)นั้นอยู่ที่ Hwangnam-dongขณะที่ Hwangnambbangเบเกอรี่นั้นอยู่ที่ Hwango-dong. มันมีที่จอดรถอยู่ข้างทางซึ่งคุณสามารถที่จะหามันได้อย่างง่ายๆ. Hwangnambbang นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาจากครอบครัว Gyeongju Choiในปี1939, 75 ปีที่แล้ว.พวกเขาพยายามที่จะจดจำและสร้างรสชาติของเค้กข้าวหรือขนมปังจากยุคสมัย Joseonขึ้นมาใหม่.ไม่เหมือนกับที่Danseokga,ไม่มีร้านสาขามีแต่แค่เบเกอรี่ร้านเดียว.แน่นอนมันมีร้านเบเกอรี่ที่คล้ายกันใกล้๐แต่ของต้นตำรับนั้นอยู่ที่นี่.

ผมซื้อกล่องที่ใหญ่กว่าเดิมเพื่อแชร์กับคนอื่นๆ.ใช่ผมใช้เงิน.เหมือนคนโตๆ,ผมซื้อ20ชิ้น. ^^*

มันราคา 16,000วอนสำหรับขนมปัง20ชิ้นซึ่งก็หนึ่งชิ้นราคาประมาณ800วอน.

วันหมดอายุก็ประมาณอีก3-4 วันซึ่งถ้าคุณซื้อมัน,ควรจะกินให้หมดเร็วๆ.มันไม่มีสารกันบูดซึ่งถ้าคุณอยากที่จะรักษาความสดใหม่,เอามันใส่ตู้เย็นไว้.ถ้าคุณเก็บมันในตู้เย็น,หนึ่งอาทิตย์ก็ยังโอเค.

ตอนที่ผมแยกมันออกเป็นสอง,ผมเห็นว่าขนมปังนั้นเต็มไปด้วยถั่ว adzuki.รสชาตินั้นอย่างที่คุณคิด,ปากของผมนั้นเต็มไปด้วยความหวาน.แป้งนั้นบางแต่นุ่มแต่ก็แข็ง.ด้านในแป้งบางๆนี้,มันเต็มไปด้วยถั่ว adzukiซึ่งชิ้นเดียวก็พอที่จะทำให้ผมรู้สึกอิ่ม.ตอนนี้ผมเห็นแล้วว่าทำไมมันแพงนิดหน่อย.ผมกินอันที่อยู่ในตู้เย็นและลองมันหลังจากอุ่นในไมโครเวฟกับนม,ทั้งสองแบบก็อร่อยเหมือนกัน.ถ้าคุณมาที่Gyeongju, คุณจะต้องลองHwangnambbang กับ Danseokga Chalborippang. พวกมันเยี่ยมมาก!!!

+ ที่อยู่ : 72, Gyerim-ro, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do

* โทรศัพท์ : 054-749-7000

+ เวลาทำการ: 08:00 - 20:00 (ไม่มีวันหยุด)