พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติGyeoungju -งานจัดแสดงกลางแจ้ง 국립경주박물관
สถานที่แรกที่ผมหาคือพิพิธภัณฑ์,แต่ที่ทริป Gyeounguนี้,เพราะพิพิธภัณฑ์นั้นตั้งอยู่นอกเมือง,เราจึงมาที่นี่ในตอนบ่าย.
เมื่อคุณผ่านประชาสัมพันธ์,จะมี Beomjongruขนาดใหญ่อยู่ทางด้านขวาของอาคารประวัติศาสตร์ Silla.มีระฆังของกษัตริย์ Seongdeok(สมบัติแห่งชาติหมายเลข29).ยังมีชื่อเรียกอีกว่าระฆังEmille เพราะว่าเสียงของระฆังนั้นเหมือนกับเด็กร้องไห้หาแม่.
กษัตริย์ Seongdeokนั้นกล่าวว่าระฆังนี้เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี,มันสูง3.75เมตรและเดิมทีมันเคยอยู่ที่วัด Gyeongju Bongduk,ซึ่งเป็นวัดสำหรับวิญญาณของเหล่ากษัตริย์.แล้วระฆังก็ได้ถูกย้ายมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในปี1975..
แล้วก็,ยังมีตำนานว่าสร้างระฆังจากเด็กทารก,เพราะเสียงระฆังนั้นน่าสนใจมากๆเหมือนกับเด็กร้องไห้.แต่ตามผลของการค้นคว้าวิจัย,มันกลายเป็นว่าเป็นแค่เรื่องเล่าเพราะว่าไม่พบสารฟอสฟอรัส(P),ซึ่งเป็นส่วนประกอบของร่างกายมนุษย์.
ที่ด้านหลังของอาคารประวัติศาสตร์ Sillaมีสถูปขนาดเท่าของจริงของวัด Bulguksaทางด้านSeokgatap(ขวา) และDabotap(ซ้าย) จัดแสดงอยู่ในทุ่งโล่ง.แต่เพราะว่ามันไม่ไกลจากวัด Bulguksa,จึงไม่มีใครสนใจมากนัก.
หลังจากเรื่องราวที่ได้ฟังมาซักพัก,มันเป็นอะไรที่ดีที่ในที่สุดผมก็ได้เห็น Seokgatapที่นี่.( ปัจจุบัน~31 ธันวาคม 2014 Seokgatap ของวัดBulguksa กำลังอยู่ภายใต้การซ่อมแซม).
ด้านหลังSeokgatap และ Dabotap มีสิ่งก่อสร้างที่ทำจากหิน(ที่เก็บน้ำสำหรับวัด) เกื้อหนุนพระพุทธรูปหิน,ด้วยหินที่หลากหลาย.
มีหอหินสามชั้นที่ดูเก่าๆตั้งอยู่ใกล้กับอาคารจัดการซึ่งอยู่ที่มุมด้านหลังของพิพิธภัณฑ์. มันเป็หอหินสูงสามชั้นของวัด Goseonsa ที่ซึ่งนักบุญ Wonhyoเคยอาศัยอยู่.
มันได้ถูกย้ายมาจากวัด Goseonsaมาที่พิพิธภัณฑ์,เเพราะเขื่อนที่ล้น.และมันยังเป็นหอแฝดกับหอหินสามชั้นที่วัด Gameunsaใกล้กับสุสานของกษัตริย์ Munmuทางตะวันออก.
พระพุทธรูปอวโลกิเตศวร โพธิสัตวานี้แปลกและใหญ่กว่าพระพุทธรูปอื่นๆ.แต่มันมีเรื่องเล่าที่ต่างออกไป.
จนถึงยุค70,ส่วนลำตัวนั้นอยู่ที่ Namsanและหัวนั้นอยู่ในพิพิธภัณฑ์,และชายแก่ผู่ที่จำพระพุทธรูปที่แปลกและบอกว่าพระพุทธรูปนี้เป็นชิ้นเดียว.ดังนั้นตั้งแต่ปี1975, ชิ้นส่วนต่างๆได้กลับมารวมกันอีกครั้งเป็นชิ้นเดียว.
มีหินอยู่รอบๆสุสานและการตกแต่งที่หลากหลายที่ใช้หลังคาหินในการจัดแสดงกลางแจ้ง.
โดยเฉพาะด้านหลังตึกจัดแสดงพิเศษ,มีซากปรักหักพีงมากมายของพระโพธิสัตย์วางอยู่เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม.
และยังมีการจัดแสดงกลางแจ้งอีกมากมาย,ดังนั้นถ้าคุณเดินชมอย่างช้าๆรอบๆพิพิธภัณฑ์,คุณสามารถเห็นโบราณวัตถุมากมาย.
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติGyeoungju – อาคารประวัติศาสตร์แห่งยุคSilla(อาคารหลัก) 신라역사관
หลังจากที่เราดูรอบๆด้านนอกแกลลอรี่,เรามุ่งหน้าเข้าไปยังอาคารประวัติศาสตร์แห่งยุค Silla.อาคารนี้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในหมู่อาคารอื่นๆ,และเป็นที่ที่ปกติคนจะมาชมก่อน.
เมื่อคุณเข้าไปในอาคาร,อย่างพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่,โบราณวัตถุจะถูกจัดตามประวัติ.ดังนั้นสิ่งแรกที่เห็นเป็นมีดหินรูปเสี้ยวและศิลปะสกัดหิน,พวกนั้นจากยุคหิน.
ตัวแทนของโบราณวัตถุจากยุดสัมริด,กริชเป็นรูปแมนโดลิน ( กริชสัมริด สไตล์ ไลโอนิค).มันเป็นโบราณวัตถุที่ผมเห็นมาก่อน,ดังนั้นผมจึงดูโบราณวัตถุที่ดูเหมือนมาจากยุคSilla.
เครื่องปั้นดินเผาที่มีลักษณะแปลกในสมัยสามอาณาจักร(AC. 3C) หรือสมัย Sillaนั้นคือพวกที่มีรูปร่างคล้ายเป็ดหรือนก.
มันถูกเรีกว่าเป็นแม่พิมพ์ของเครื่องปั้นดินเผาหรือเป็นภาชนะที่มีลายนูนและมันใช้สำหรับใส่เหล้าหรือน้ำและรูปร่างมันดูเหมือนนกจริงๆ.
หยกกลมๆนั้นคือเครื่องประดับที่ติดกับเครื่องตกแต่ง,หยกที่ถูกแกะสลักด้วยความชำนาญ.มันถูใช้ตกแต่งมงกุฎทองในสมัย sillaค่อนข้างเยอะ
มีจ่างหูทองและเครื่องแก้วจากทางตะวันตกจัดแสดงอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ Silla.
อ่างสัมริดGoguryeoและhoumyeongนั้นถูกพบในสุสาน Gyeongju Howoo,สุสานโบราณในสมัย Silla.คำว่า‘EulmyonyungukgangsangGwanggaetoJihoTaewang’ได้ถูกจารึกไว้บนอ่าง,ช่วยให้เราคาดเดาความสัมพันธ์ของGoguryeo และSilla ได้ในสมัยของกษัตริย์ Gwanggaetoผู้ยิ่งใหญ่.
ตุ๊กตาดินเผา,นำเสนอยุคสมัยSillaที่ล่มสลาย.มันชัดเจนและมีหน้าตลกๆหลายตัวและเป็นหน้าที่ไม่คำนึงถึงเพศซึ่งช่วยให้เราสามารถที่จะเดาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสมัย Silla.
เมื่อคุณเข้ามายังด้านในพิพิธภัณฑ์Hwangnam DaeChong,ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขุดพบซากโบราณวัตถุกว่าห้าล้านชิ้น,และที่นี่ก็แน่นไปด้วยของที่ถูกจัดแสดง.
และเข็มขัดทอง Hwangnam DaeChong(สมบัติแห่งชาติหมายเลข192) ก็ได้ถูกค้นพบที่นี่,และถูกจัดแสดงด้วย.เข็มขัดที่พบนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์จากสุสานหลวงสมัย Silla.ที่ใต้เข็มขัดมีกล่องยาและปลา,หิน,หยกแกะสลักห้อยอยู่ในรูปแบบต่างๆ,มันบอกว่าหลังจาก Hwangna.
ทางตอนเหนือของ Hwangnam สมัย DaeChong ( ศตวรรษที่6) สิ่งตกแต่งสุสานที่หรูหราแบบนี้ได้หายไปตามสังคมที่เปลี่ยนแปลง.ดังนั้นซากนี้สามารถพูดได้ว่ามันถูกทำขึ้นในยุคสมัยที่หรูหรา.
สุสานสีทอง( สมบัติแห่งชาติหมายเลข191) นั้นถูกพบที่ Hwangnam DaeChong.มันถูกตกแต่งด้วยไม้สามแผ่นที่ด้านหัวและเป็นรูปเขากวางอีกสองอันตกแต่งอยู่อย่างแน่นหนาด้วยตะปูทอง.
ชุดที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นทางการได้ถูกค้นพบในสุสานหลวงของกษัตริย์ Daereungwon และแกเน็ทแดงที่ใช้นั้นไม่เคยพบในประเทศของเรา.แกเน็ทเล็กๆใช้ตกแต่งบนดาบนั้นขนาดใหญ่กว่า3 กะรัต.และมันบอกว่าแกเน็ทที่ใหญ่กว่า2กะรัตนั้นหายากในโลก,แม้แต่ในปัจจุบัน.
และสุสานหลวงของกษัตริย์ Micuนั้นได้ถูกตกแต่งด้วยดาบยศนั้นมีแค่หนึ่งเดียวในโลกที่มีรูปร่างที่คล้ายกับดาบสั้นจากBorobo, ที่คาซัคถานในยุโรปตะวันออก.นักวิจัยบางคนกล่าวว่าดาบยศนั้นได้รับอิทธิพลมาจากทางยุโรปตะวันออก.
สถานที่บรรจุสารีริกธาตุ(Chaljubongi),หอไม้Hwangnyongsa ที่ถูกสร้างอย่างปราณีต.ที่ด้านหน้าและด้านหลังของประตู,มี Inwangsang และ Shinjangsangตกแต่งอยู่และอีกสามด้านมีจารึกถึงรายละเอียดของหอไม้เก้าชั้น Hwangnyongsaได้ถูกสร้างไว้ได้อย่างไร,และรายชื่อของผู้ที่มีส่วนร่วม.
ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติGyeoungju ,มีโบราณวัตถุที่ค้นพบและสมบัติแห่งชาติมากมายและยังมีความเกี่ยวเนื่องกับยุคสมัย Silla และ Gyeongju .ดังนั้นำหรับผม,ชื่อเสียงนั้นดีที่มันไม่น่าเบื่อ,เทียบกับพิพิธภัณฑ์อื่นๆที่มีแต่ยุคหินใหม่และยุคสัมริด.
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Gyeoungju-แกลลอรี่พิเศษ 특별전시관
ถัดไปคือแกลลอรี่พิเศษ,ที่ซึ่งโบราณสถานของจริงได้รับการดูแล.
เนื้อหาของแกลลอรี่พิเศษนั้นแตกต่างไปตามฤดูกาล,ซึ่งมันขึ้นอยู่กับโชคของคุณ.ดีที่ว่า,เมื่อเรามาเนื้อหาที่ถูกจัดแสดงนั้นเกี่ยวกับCheonmachong, ที่ซึ่งมีโบราณวัตถุสำคัญๆที่มีค่าอย่างสมบัติแห่งชาติที่ได้ค้นพบ.
มงกุฎทองที่ทำการตกแต่งเป็นรูปปีกนก ( สมบัติหมายเลข618),ทำขึ้นเพื่อเสียบด้านหน้าหมวกข้าราชการ,ไม่เหมือนกับหมวกข้าราชการหรือมงกุฎอื่นๆ,มันถูกพบว่าถูกฝังพร้อมกันไปในสุสาน.
โบราณวัตถุนี้ถูกทำมาจากแผ่นทองขนาด 45เซ็นและแผ่นทองก็เป็นรูปมังกรและเถาวัลย์.และมีห่วงกว่าสี่ร้อยห่วงบนแผ่นทองแต่ละด้าน,ซึ่งมันมีลักษณะที่หรูหรามาก.
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Gyeoungju–Wolji แกลลอรี 월지관
Gyeoungjuนั้นทำให้เรานึกถึงสุสานหลวง.และซากโบราณวัตถุที่ถูกขุดพบจากสุสานหลวง,แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ถูกพบที่สุสานหลวง.Wolji, ซึ่งอยู่ตรงด้านข้างของWolseong, ยังมีชื่อว่า Anapjiคือทะเลสาบที่มีการค้นพบซากโบราณวัตถุมากมาย.
อะไรที่มากกว่านั้นคือ Woljiนั้นมีน้ำเต็มปริ่ม,ซึ่งซากที่ทำจากไม้ที่เคยใช้ในสมัย Sillaยังคงรูปร่างอยู่,ต้องขอบคุณดินนิ่มๆที่อยู่ใต้น้ำ.มันเป็นอะไรที่น่าลึกลับจริงๆ.
Woljiนั้นมีโครงสร้างที่ดีเยี่ยม,เพราะที่โล่งสีเขียวๆของgwimunwa (กระเบื้องหน้ามังกร)ได้ถูกใช้,ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ใช้สำหรับการก่อสร้างที่ดีที่สุด.Wolji นั้นต้องเคยเป็นอาคารเชื่อมต่อกับพระราชวัง.
หัวมังกรที่ทำจากทองและบรอนซ์นี้ได้ถูกค้นพบเป็นคู่,ด้านในนั้นว่างกับรูตะปูที่ด้านบน.ตามหน้าตาของมัน,พวกมันถูกคาดว่าจะเป็นตัวตกแต่งที่จับของเก้าอี้.
ที่จับประตูทำจากทองและบรอนซ์มากมายที่ทำจากแม่พิมพ์เดียวกันได้ถูกค้นพบอีกมากมาย,และเหมือนกับ Gwimunwa,การหล่อพิมพ์นั้นน่าทึ่งมาก.
판불ที่ถูกค้นพบในAnapji นั้นมีทั้งหมด10ชิ้น,และมีแค่2 ชิ้นที่เป็นรูปพระ,และที่เหลือนั้นเป็นแบบรูปปั้น bosarwaอย่างในรูป.ที่ด้านล่างตรงที่มีลูกศร,ดังนั้นมันน่าจะเคยถูกใช้ติดกับที่ไหนซักแห่งมาก่อน.
เกมส์ลูกเต๋าสำหรับดื่มที่ทำจากไม้โอ๊คก็ยังถูกพบด้วย,ลูกเต๋านี้เป็นของเล่นที่ใช้เวลามีงานเลี้ยง,เพื่อสร้างบรรยากาศ.รูป8เหลี่ยมมีแปดด้าน,สี่เหลี่ยมมีหกด้าน,และคำสั่งต่างๆจะถูกเขียนไว้ในแต่ละด้าน,มันเหมือนกับลูกเต๋าในปัจจุบัน.
ลูกเต๋านี้ทำให้เราสามารถที่จะเดารสนิยมของศิลปะของราชวงศ์ Sillaและชนชั้นสูงได้,และไม่นานมานี้,มีขนมปังที่เรียกว่าลูกเต๋าดื่ม,มันเป็นซากที่พบได้มากมายในGyeongju.
เนื่องจากก่อนหน้านี้,พิพิธภัณฑ์แห่งชาติGyeoungju จัดแสดงโบราณวัตถุที่หลากหลายของ Gyeongjuดังนั้นมันจึงไม่น่าเบื่อเมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์อื่นๆ.และโบราณวัตถุที่อยู่ในหนังสือเรียนนั้นก็อยู่ในพิพิธภัณฑ์นี้,เพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก.แต่มีข้อได้เปรียบก็มีข้อเสียเปรียบ,มีโบราณวัตถุมากมายที่เราไม่ได้ชม.ถ้าผมมาที่พิพิธภัณฑ์Gyeoungju ในครั้งต่อไป,ผมจะมาให้ทันตอนที่เขาอธิบายเพื่อฟังรายละเอียดและดูรอบๆ.
ทัวร์เราสิ้นสุดที่ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุและออกจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติGyeoungju.เพราะเรามีเวลาไม่พอและเราต้องออกจากสถานที่ท่องเที่ยว,เราไม่ได้ชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะในยุคSilla และมุ่งหน้าไปยังที่ต่อไป.เราจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะในยุคSilla ในครั้งต่อไป…!
ที่อยู่: Gyeongju, Gyeongsangbuk-do inwangdong 76 (경상북도 경주시 인왕동 76)
โทรศัพท์: 054-740-7500
เวลาทำการ: 09:00 ถึง 18:00 (19:00 วันปกติ) / เดือนมีนาคมถึงเดือนธันวาคมวันเสาร์ 21:00