วัดHapcheon Haeinsa และมรดกโลกพระไตรปิฎกฉบับเกาหลี
Hapcheon-gunเป็นเมืองที่ใหญ่และกว้างที่สุดในGyeongsangnam-do.มันใหญ่กว่าโซล 1.6เท่าและถ้าผมจะต้องเลือกทางเดินที่ดีในHapcheon, ผมต้องบอกว่ามันคือHaeinsa Sorigil. ที่ตรงสุดทางของSorigil, มีHaeinsaที่แต่งกายแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูและประวัติศาสตร์นั้นยังมีชีวิตอยู่. Haeinsaนั้นทำให้หลายๆคนนึกถึงพระไตรปิฎกฉบับเกาหลี.แต่แม้แต่คนพวกนั้น, Haeinsa โชว์มากกว่านั้น.จากประตู Iljumun ( ประตูหนึ่งเสา)ผ่านรูปแบบโฟนิคไปยังประตูแห่งการพิพากษา,คุณจะเห็นโถงDaejeok-gwangjeon ( วัดหลัก)ของประวัติศาสตร์กว่า 1,200ปี.
คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าพระไตรปิฎกฉบับเกาหลีเป็นมรดกโลกของยูเนสโก.สิ่งที่ขึ้นกับมรดกโลกของยูเนสโกนั้นไม่ใช่พระไตรปิฎกแต่เป็นอาคารที่เก็บมันมีชื่อว่าJanggyeongPanjeon(藏經板殿;
อาคารเก็บของ).พระไตรปิฎกนั้นได้ถูกเลือกให้เป็นความทรงจำแห่งโลกของยูเนสโก้.คุณจะพบ JanggyeongPanjeonที่ประกอบด้วย Sudarajeon, Beopbojeon และSaganjeonของตะวันออก/ตะวันตกหลังจากคุณผ่านประตูทั้งสามที่Haeinsa และ Daejeokgwangjeon.
มีสมบัติอยู่สามอย่าง(三寶)ในศาสนาพุทธ.มีพระพุทธเจ้า(佛)•คำสอน(法)•พระ(僧),ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า,คำสอนของเขาและพระผู้ที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นเสนอสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติ, Haeinsaใน Hapcheon, Songgwangsa ใน SuncheonและTongdosa ใน Yangsan.โดยเฉพาะ, Haeinsaนั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อ1,200 ปีก่อน,ปีที่สามของกษัตริย์ Aejang( ในปี802),กษัตริย์องค์ที่40ของSilla. ตอนนี้เราไปเดินผ่านประตูIljumun กันมั้ย?
ทันทีที่ผมเข้ามาที่ประตูIljumun,ผมเห็นรูปแบบการออกแบบแบบโฟนิคไกลออกไปกับคำว่า‘Haeinchongrim’ เขียนไว้และต้นไม้ก็เรียงตามทางที่ต้องมีอายุกว่าร้อยปี.ในหมู่นั้น,มีต้นไม้ที่ตายแล้วที่ได้ถูกปลูกขึ้นเมื่อสมัยกษัตริย์ AejangในSilla เมื่อวัดได้ถูกสร้างขึ้น.
เมื่อผมได้เข้าไปยังที่โฟนิค ดีไซน์,ผมเห็นประตูแห่งการไถ่บาป.ก็ผมต้องผ่านหลายขั้นจนในที่สุดผมก็ได้เห็นโถง Daejeokgwangjeonประตูแห่งการไถ่บาปเป็นขั้นที่กล่าวถึงว่าคุณสามารถที่จะหลุดพ้นจากความโกรธ(煩惱) และไปสู่นิพพาน(涅槃).บรรพบุรุษของเราเคยตั้งชื่อให้กับสิ่งก่อสร้างทุกอย่างและผมหวังว่าเราสามารถที่จะได้รับการถ่ายทอดทางจิตวิญญาณนี้เพื่อสนับสนุนผู้คนด้วยคำที่มีความหมายที่ดี.ผมรู้สึกค่อนข้างเศร้าที่อาคารในสมัยนี้ไม่มีชื่อเป็นของตัวเอง.
ผ่านประตูแห่งการถ่ายบาปไป,มีสวนใหญ่ๆกับศาลาระฆัง.และมีทางเดินในสวนที่มีตะเกียงเล็กๆแต่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร.ผมต้องไปดูตรงนั้นทีหลัง.
ก่อนนั้น,ผมจะต้องดื่มน้ำเย็นๆที่ไหลจากภูเขา.หลังจากที่เดินมา3กิโล,ต้องขอขอบคุณน้ำถ้วยนี้.มันสดชื่นที่มาจากธรรมชาติ.
ผมขึ้นบันไดไปนิดหน่อยและสังเกตุได้ว่าทางในสวนนั้นเป็นวงกลมรอบหอคอยที่อยู่ตรงกลางสวน.คำอธิษฐานของผมจะเป็นจริงมั้ยถ้าผมเดินรอบหอคอย?
ผมขึ้นมาเรียบร้อยและในที่สุดก็เห็น Daejeokgwangjeon(วัดหลัก). Haeinsaนั้นถูกสร้างโดยมีรากฐานเกี่ยวกับ Avatamska Sutra ดังนั้นจึงมี Vairocana, พระพุทธเจ้าหลักของAvatamska Sutra. อาคารในปัจจุบันนั้นถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี1818 โดยกษัตริย์Sunjo ในสมัยJoseon ที่ที่ตั้งเดิมเหมือนกับของเก่าที่ถูกสร้างเมื่อปี802.มันตั้งอยู่ที่ที่เงียบภายใต้ภูเขาBibong .
มีเจดีย์หินสามชั้นและตะเกียงหินที่ตรงสวนด้านหน้าของDaejeokgwangjeon. หอนั้นเป็นที่ที่คนนั้นสวดมนต์และบูชาสิ่งตกทอด,บันทึกของพระพุทธเจ้าที่ศักดิ์สิทธิหรือพระพุทธรูป,ตั้งอยู่ตรงกลางของวัดในเวลาส่วนใหญ่.มันดูเป็นเจดีย์หินธรรมดาที่สร้างเมื่อยุคสมัยการรวมตัวของSilla ในศตวรรษที่9.คนส่วนใหญ่บูชาหอนี้โดยการเดินรอบๆมันและมีเรื่องเล่าว่าคณจะสมปราถนาถ้าคุณทำ.ตะเกียงหินนั้นเป็นแสงที่แสดงถึงความคิดที่สว่าง(光明)ของพระพุทธเจ้า.
ผมเดินเข้าไปใกล้Daejeokgwangjeon,ผมรู้สึกเหมือนกับว่าพระศากยะมุนีที่ตรงกลางกำลังบอกกับผมว่า " โอ้คุณมา".
ทุกๆคนต้องมีเรื่องของตัวเองเมื่อพวกเขาสวดมนต์ต่อหน้าของพระพุทธเจ้า.ผมไม่มีศาสนาแต่ผมก็เคารพและบอกถึงเรื่องของตัวเองด้วย.คุณไม่จำเป็นต้องมีศาสนาเพื่อที่จะสวดมนต์ดังนั้นทำไมคุณไม่ลองทำความเคารพและสวดมนต์ดูที่โบสถ์หรือวัดถ้าคุณได้ไป?ใครจะไปรู้?หนึ่งในนั้นอาจจะสมหวัง. ^^*
ด้านหลังDaejeokgwangjeon,ในที่สุดเราก็ได้เห็นJanggyeongPanjeon ที่เก็บพระไตรปิฎกฉบับเกาหลีไว้,มรดกโลกของยูเนสโกและความทรงจำของโลก.น่าเสียดายเราไม่อนุญาติให้เข้าไปข้างในJanggyeongPanjeon. เป็นเวลาสองถึงสามปี,มรดกของเราได้ถูกเผาทำลายเป็นเถ้าเนื่องจากไฟไหม้ประกอบไปด้วยประตู Sungnyemun,วัด Naksansa,บ้านพักฤาษี Hyangiram,วัดBeomeosaและวัด Hwaeomsa.ดังนั้นมันจึงถูกปิดจนถึงธันวาคมวันที่31, 2016.มันน่าเศร้ามาก.
JanggyeongPanjeon(อาคารเก็บของ)ตั้งอยู่ที่ด้านในสุดของวัดล้อมรอบไปด้วยเทปสีแดงมีบรรยากาศที่คึกคัก.น่าเสียดายเราเข้าไปข้างในไม่ได้แต่ผมสามารถเห็นจากระเบียงระหว่างซี่กรงของหน้าต่าง.อาคารนี้ถูกสร้างหลังจากการคิดใหม่คำนึงถึงธรรมชาติโดยการใช้เทคนิคที่การก่อสร้างในปัจจุบันไม่สามารถทำตามได้.พื้นนั้นทำจากเกลือ,ถ่าน,แป้งมะนาวและทรายที่รักษาระดับความชื้นเพื่อเก็บรักษาบล็อคไม้และเพิ่มดราฟธรรมชาติด้วยหน้าต่างขนาดต่างๆ.เทคนิคของการก่อสร้างของพวกเขามันยอดเยี่ยมมากใช่มั้ย?
ผมสามารถเห็นลักษณะที่ยอดเยี่ยมของพวกมันผ่านรูประตู.พระไตรปิฎกฉบับเกาหลีมีบันทึกที่หลากหลายและยอดเยี่ยมแน่นอนเพื่อการปกป้องประเทศในการต่อต้านการยึดครองของ Kitan และ Mongolia,ประเทศที่มีอำนาจมากในสมัยนั้น,ด้วยพลังของพระพุทธเจ้าและคำสอนทางศาสนาพุทธ,บล็อคไม้แต่ละอันนั้นมีขนาด 69cm x 24cm x 2.6-3.9cm(กว้าง x สูง xลึก) หนัก3-4kg ซึ่งมีตัวอักษร 322ในหนึ่งด้าน(22-23บรรทัดและ 14ในหนึ่งด้าน),ซึ่งจะมีตัวอักษร 644ตัวทั้งสองด้าน.ดังนั้นจำนวนของตัวอักษรที่แกะสลักบนบล็อคไม้กว่า81,258 ชิ้นคือ 52,330พันตัว.มันใช้เวลา16ปีในการทำและจำนวนของตัวอักษรนั้นเกือบที่จะเท่ากับปีในสมัย Joseonที่เขียนไว้กว่า470 ปี.ดังนั้นถ้าคนหนึ่งอ่านพระไตรปิฎกเป็นเวลา8ชั่วโมงต่อวัน,มันจะใช้เวา30ปี.
และผู้ทำการแกะสลักได้ทำการย้ำสามครั้งทุกๆครั้งที่สลักอักษรหนึ่งตัว.พวกเขาใส่ใจมากๆทำให้ตัวอักษรนั้นสวยมากและมันไม่มีผิดพลาดเลย.จีนมีBinggajanggyeong และญี่ปุ่นมีDaejeong SinsuDaejanggyeong,ทั้งสองได้ถูกสร้างขึ้นตามพระไตรปิฎกฉบับเกาหลี,ดังนั้นนี่จึงเป็นคอลลเล็กชั่นที่ดีที่สุดของบันทึกทางสาสนาพุทธที่รวมเอาอักษรจีนไว้ในประวัติศาสตร์.
ถ้าคุณเข้าไปที่ด้านใน,คุณจะเห็นสิ่งนี้.นี่เป็นแค่รูปภาพที่แขวนที่ด้านนอกของวัดในโซนรูปภาพ.พระไตรปิฎกฉบับเกาหลีได้ถูกสร้างขึ้นจากคนในระหว่งยุคสมัยKoryo แต่ JanggyeongPanjeon( อาคารเก็บของ)นั้นถูกสร้างขึ้นในสมัย Joseonตามที่เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเพื่อที่จะรักษามัน.และมันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเอามันผ่านสู่รุ่นต่อไป.
เนื่องจากเราเข้าไปด้านในไม่ได้,มันมีก๊อปปี้ที่ด้านนอก.อันที่ด้านบนคือPrajnaparamita hridaya Sutra,สมบัติแห่งชาติหมายเลข32, และอันล่างคือ Avatamsaka Sutra, สมบัติแห่งชาติหมายเลข 206. Prajnaparamita hridaya Sutraเป็นบันทึกที่ประกอบไปด้วยตัวอักษรที่รวบรวมจากความคิดของหนังสือกว่า600เล่ม,และ Avatamsaka Sutraเป็นภาพวาดของพระศากยะมุนีที่กำลังเทศนาและล้อมรอบไปด้วยนักบุญ.
หลังจากที่เราออกจากวัดหลังจากที่ได้ชมพระไตรปิฎกที่น่าประทับใจ,มีต้นไม้แปลกๆยืนอยู่,นี่เรียกว่า Haksadae Jeonnamu(ต้นสน)และนี่เคยเป็นไม้เท้าที่ทำจากไม้สนที่ปักกลับหัวโดยChoi Ji-won,ตัวแทนในยุค Sillaตอนปลาย,เมื่อเขากลายมาเป็นฤาษีที่ภูเขาGaya และนี่ก็ยังอยู่หลังจากผ่านไปหลายพันปี.น่าประทับใจมาก.
หลังจากที่เรารู้สึกชื่นชมและประทับใจที่ได้ไปที่Haeinsa, เราก็มุ่งหน้าลงไป.ทันทีที่เรามาใกล้ประตู Iljumun อีกครั้ง,เราสังเกตุได้ว่าต้นไม้รอบๆเรานั่นใหญ่มาก.นี่ตั้งอยู่ที่ที่ดีที่สุดของภูเขา Gaya ที่ที่คุณไม่สามารถที่จะพลาดได้ถ้าคุณมาเที่ยวที่Hapcheon. ถ้าคุณไม่ได้มาเห็นที่นี่,คุณจะไม่สามารถพูโได้ว่าคุณเห็นคุณจะไม่รู้สึกเข้าถึงและตื่นเต้นในวัดอื่นๆ.
+ ที่อยู่ : 10, Chiin-ri, Gaya-myeon, Hapcheon-gun, Gyeongsangnam-do
+ โทรศัพท์ : 055-934-3000 (โทร055-934-3105 สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัด )
+ค่าเข้า : ผู้ใหญ่: 3,000 วอน
+ ค่าที่จอดรถ: รถยนต์: 4,000 วอน
+ ค่ารถรับส่ง : 1,300 วอน (ลานจอดรถเทศกาลพระไตรปิฎก ↔ ลานจอดรถวัด Haeinsa )