ผมได้มาถึงอายุที่ผมเริ่มมีรอยยิ้ม นึกถึงวันเก่าๆและความทรงจำต่างๆเมื่อตอนผมเป็นเด็ก,ผมไม่ได้มีอะไรหลายๆอย่างเหมือนในปัจจุบัน,แต่มันมีเพียงแค่การเล่นสนุกกับเพื่อนๆตามตรอก.ในขณะที่ในโลกเต็มไปด้วยตึกต่างๆ,และทีทุกคนตะโกนว่า ' เร็วขึ้นและเร็วขึ้น',ผมกำลังจะไปยังสถานที่ที่เหมือนในยุค 70 และ 80.
ถนนแห่งความทรงจำDeungnyangนั้นตั้งอยู่ที่Boseong, Jeonlado.มันมีการจัดแสดงที่แตกต่างกันอยู่7รูปแบบ.พวดเขาได้ย้ายหลายๆสถานที่ออกไปที่มีมากว่า 10ปี เช่นร้านตัดผมYeokjeon,ร้านขายของเล่น,ร้านDeungnyang,สถานีDeungnyang,ร้านหนังสือการ์ตูน Yeokjeon,โรงเรียนประถมDeungnyang,ห้องชาโชคดี,และอื่นๆ.ร้านตัดผมYeokjeon และห้องชาโชคดียังเปิดให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน.
ถนนแห่งความทรงจำDeungnyang นี้มีความยาวน้อยกว่า100เมตรเท่านั้น.คุณสามารถลงรถที่สถานี Deungnyang และมาที่นี่.แต่จริงๆนะ,คุณอาจจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างถ้าคุณมาที่นี่แล้วแค่เดินดูถนนรอบๆ.มีไร่ชาเขียวBoseongและหมู่บ้านที่ซึ่งมีรูปภาพของบ้านสไตล์เกาหลีจริงๆในJoseon,ซึ่งมันก็ดีสำหรับการไปเที่ยวยังสถานที่พวกนี้,ด้วย.
ทริปไปยังถนนแห่งความทรงจำBoseongในJeonladoคนเดียวนั้น.ผมรู้สึกหลงอยู่ในความคิดในตอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้.
วิวและความทรงจำต่างๆนั้นดูคล้ายกับในวัยเด็กของผม.
ถนนแห่งความทรงจำนั้นเริ่มจากสถานีDeungnyangไปจนถึงสำนักงานเขตการปกครองท้องถิ่นDeungnyang.
ผมได้ยินมาว่าพวกเขาวางแผนที่จะให้ยืมตึกและขยับขยายเพิ่มขึ้น.
ผมนั้นตั้งหน้าตั้งตารอในการขยับขยาย.
โรงเรียนประถมDeungnyangและร้านหนังสือการ์ตูนYeokjeon.
ตอนนี้พวกเขาเรียกโรงเรียนประถมนี้ว่า'Chodeunghakgyo' ,แต่เมื่อก่อนมันถูกเรียกว่า 'Gukminhakgyo.'
ผมสงสัยว่าพวกเขาหาโต๊ะแล้วเก้าอี้เก่าๆพวกนี้ได้จากที่ไหน.มันเหมือนกับตอนที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่.ผมจำเรื่องราวเก่าได้มากมายตอนที่มองโต๊ะพวกนี้อยู่.ตอนผมทะเลาะกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ,ผมขีดเส้นตรงกลางของโต๊ะและพวกเราทั้งสองไม่สามารถที่จะข้ามเส้นไปยังอีกด้านหนึ่งของเส้น.พวกเราสามารถเอาโต๊2ตัวมาต่อกันเพื่อเล่นปิงปองโดยใช้รองเท้าแตะหรือกับยางลบ.พวกเรามีเกมส์หลายเกมส์ที่สามารถเล่นได้บนโต๊ะ.
พวกเราแปะภาพที่พวกเราได้วาดในวิชาศิลปะไว้ที่ด้านหลังของห้องเรียนเสมอ.เมื่อคุณครูพูดอะไรที่แท่น,พวกเราก็จะใช้ลูกคิด.ทำไมพวกเราถึงได้นับเลขเป็น 1วอนและ2วอนนะ.
ผมไม่สามารถลืมข้าวกล่องที่เอาวางไว้บนเครื่องทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวได้.ตอนนั้นพวกเราไม่ได้มีกล่องข้าวที่เก็บความร้อนได้ดังนั้นอาหารกลางวันของเราก็จะเย็นเมื่อพวกเราไปถึงโรงเรียน;พวกเราจึงวางกล่องอาหารกลางวันไว้ที่เครื่องทำความร้อนเพื่อที่จะทำให้มันอุ่นขึ้น.พวกเรามีกิมจิเยอะดังนั้นพวกเราจะเอาน้ำและกิมจิใส่ในกล่องโลหะและต้มมันบนเครื่องทำความร้อน.ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมมันถึงได้อร่อยมาก,แต่ผมก็เสียดายมากที่ผมไม่สามารถรู้สึกถึงรสชาติแบบนั้นได้อีก.
การไม่รู้ตัวถึงเวลาที่ผ่านไปในร้านหนังสือการ์ตูน.เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่นี่ดังนั้นมันจึเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการฆ่าเวลา.พวกเราไม่มีร้านอินเตอร์เน็ตหรือห้องสำหรับเล่นซึ่งทำให้ที่นี่เป็นที่ที่สนุกที่ในตอนนั้น.
ระหว่างทานอาหารกลางวัน,พวกเรากินราเมนและอ่านหนังสือการ์ตูนไปด้วย,และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด.
หนึ่งในหนังสือการ์ตูนที่ผมเคยอ่านเมื่อก่อนนั้นเตะตาผม.ชื่อของมันคือ “Jangdolbaeng-I" และผมก็พบว่ามันสนุกทีเดียว.ผมเปิดหนังสือดูแล้วก็จำบางส่วนของมันได้.นี่คือหนังสือที่ผมอ่านตอนที่ผมฆ่าเวลา.
ปัจจุบันนี้พวกเราใช้คำว่า 'Supermarket' หรือ 'mart',แต่ว่าเมื่อก่อน,พวกเราเรียกร้านพวกนั้นว่า 'Sanghwi.'
มีของเยอะมากมายที่นี่.ตอนนี้มันก็มีความเทียบเท่ากับ 'marts' แล้ว.
ผมไม่รู้ว่าพวกเขาหาพวกนี้มาจากที่ไหน,แต่ผมเห็นขนมในสมัยก่อน.พวกเราไม่ได้กินขนมพวกนี้เพราะว่ามันนับว่าเป็นอาหารที่คุณภาพต่ำในปัจจุบันนี้,แมื่อตอนผมเป็นเด็ก,มันอร่อยมากๆ.ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นมันถึงได้อร่อยนัก.
บางครั้งเมื่อผมได้กินมันอีก,ผมไม่สามารถรับรู้ถึงรสชาตินั้นได้อีก.
มันอาจจะเป็นเพราะว่ามีแต่อาหารอร่อยแล้วเดี๋ยวนี้.
โทรศัพท์สาธารณะ(pay phones) ได้หายไปทีละเล็กทีละน้อยเพราะโทรศัพท์มือถือ.แต่เมื่อก่อน,ที่นี่คือที่ที่เราเข้าแถวเพื่อที่จะรอใช้โทรศัพท์เพื่อที่จะโทรหาครอบครัว,เพื่อน,และคนรัก.
บางครั้งพวกเราก็ได้ตะโกนใส่กันเพื่อให้วางโทรศัพท์.เจ้าโทรศัพท์สาธารณะนี้อาจจะได้ยินเรื่องสุขและเศร้าของหลายๆคน.
ความปราถนาของเด็กหลายๆคนที่แน่ๆนั้นก็คือร้านขายของเล่น.มันดีที่สุดที่จะได้เดินดูรอบๆร้านขายของเล่น.มันมีคนแน่นมากๆในช่วงวันหยุด.ผมจำได้ว่าในวันที่พวกเราจะได้รับเงินสำหรับปีใหม่,พวกเราจะวิ่งไปยังร้านขายของเล่นก่อนและมองหาของใหม่ๆและจับทุกอย่างที่เห็น,แต่เราก็ไม่ได้ซื้ออะไรซักอย่าง.
พวกเราไม่สามารถที่จะซื้อของเล่นแพงๆได้,แต่เราก็ได้ซื้อแผ่นการ์ตูนของเล่นและเล่นมันกับเพื่อนบ้านและเพื่อนๆ.
มีแผ่นการ์ตูนและลูกแก้วเยอะๆนั้นจะถือว่าเป็นหัวหน้าของเพื่อนๆ.
นี่คือห้องชาโชคดีที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี1977.ถนนแห่งความทรงจำในDukryangนี้ก็ถูกจัดโดยเจ้าของร้านชานี้.
ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับถนนแห่งความทรงจำนี้,มันน่าสนใจทีเดียวที่จะไปยังห้องชาโชคดีนี้และถามเกี่ยวกับมัน.
นี่คือด้านในของห้องชา.เมื่อก่อนผมไม่ค่อยได้ไปที่ห้องชา,แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก.ผมไม่ได้มีความทรงจำที่ดีนักเกี่ยวกับห้องชา.ผมมีแต่ความทรงจำที่ไม่ดีที่นี่เพราะว่ามันมีกลิ่นเหม็นอับและมีคนหลายคนสูบบุหรี่ที่นี่.
มีสิ่งมีค่าที่น่าจดจำหลายอย่างได้จัดแสดงอยู่ที่ห้องชานี้,ด้วย.
ทีวีและโทรศัพท์เก่าๆ.ตอนนี้,เราโทรศัพท์โดยกดเพียงแค่ปุ่มหนึ่งปุ่ม;อย่างไรก็ตาม,ในอดีต,เราโทรไปหาโอเปอเรเตอร์เพื่อให้ต่อสายให้.แค่30ปีที่แล้ว,เรายังต้องโทรหาโอเปอเรเตอร์,แต่ตอนนี้,ผมคิดว่ามันพัฒนาไปได้เร็วมากๆ.
ร้านตัดผมYeokjeon.ร้านตัดผมนี้ยังเปิดจนถึงปัจจุบัน,แต่มันปิดในวันที่เราไป.ผมมองด้านในจากข้างนอกร้าน,แต่เครื่องมือและเก้าอี้ก็ยังเหมือนเมื่อก่อน.ผมไปที่ร้านตัดผมชายจนถึงมัธยมต้น,แต่ตอนนี้,ผมเคยชินที่จะไปยังร้านทำผม.
นี่คือสถานีDeungnyang ในปัจจุบัน.ถนนแห่งความทรงจำนั้นอยู่ข้างๆสถานีซึ่งคุณสามารถไปยังสถานี Deungnyangโดยทางรถไฟและเยี่ยมชมรอบๆ.
นี่คือสถานีDeungnyangเก่า.
ชานชลาของสถานีDeungnyang.
ถนนแห่งความทรงจำในDeungnyangทำให้ผมระลึกถึงความทรงจำอันมีค่าในอดีตที่ผมอาจจะหลงลืมมันไป.
ก่อนหน้านี้,ผมมีความสุขอยู่แล้วถึงแม้ผมจะไม่มีอะไรมากนัก.แต่ตอนนี้,เมื่อผมได้มองกลับไปและได้เห็นถึงความทะเยอทะยานของตัวเอง.ถ้าคุณต้องการระลึกถึงความทรงจำเก่าของผู้ใหญ่และความทรงจำใหม่ๆสำหรับเด็กๆ,ไปยังถนนแห่งความทรงจำในDeungnyangและเยี่ยมชมมันดูสิ.
Deungnyang Station 득량역
สถานที่: 909-1 Obong-ri, Deungnyang-myeonBoseong-gun, Jeollanam-do (전라남도 보성군 득량면 오봉리 6 구 909-1번지)
http://blog.naver.com/webhunting