Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
18883 | 19899786

Chuncheon #3 - Janghan Sutbul Dakgalbi , เมืองแห่งสวนดอกไม้Gangwondo - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
Last Modified : 2017/04/03

Travel regions : South Korea
 | Hits : 472023
https://blog.lookandwalk.com/vi/blog/mazinguide/1521/trackback

Janghan Sutbul Dakgalbi (ไก่Janghan ย่างถ่านผัดซอสเผ็ด)


ถ้าใครต้องเลือกอาหารจานใดจานหนึ่งในChuncheon, ,มันน่าจะเป็น Dakgalbi (ไก่Janghan ย่างถ่านผัดซอสเผ็ด)และMakguksu(บะหมี่บัควีท).สำหรับอาหารเที่ยง,พวกเรามุ่งหน้าไปยังแถบDong-myeon ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของภูเขาSoyanggang (แม่น้ำSoyang ).



ถ้าคุณมองไปที่เมืองจากที่นี่,คุณจะเห็นภูเขาBongui, AnsanของChuncheon,ไกลออกไปและกลุ่มนกอพยพบนน้ำใกล้กับภูเขาของแม่น้ำSoyang ปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้เหมือนกับป่าทึบ.


ขณะที่เดินชมวิวของแม่น้ำSoyang ,ในที่สุดเราก็มาถึงที่ร้านอาหาร, Jan-ghan Sutbul Dakgalbi,ที่ซึ่งเราสามารถกินไก่ผัดซอสเผ็ดที่แสนพิเศษ.


จริงๆแล้ว Dakgalbiนั้นเป็นที่นิยมใน Chuncheonอย่างมากซึ่งจำนวนของร้าน Dakgalbiได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่าร้านสะดวกซื้อในChuncheon.ไม่เพียงเท่านั้น,มันมีถนน Dakgalbiอยู่หลายแห่งซึ่งทุกคนสามารถกินได้อย่างง่ายดายรวมถึง Myeong-dong, Onui-ding, Hupyeong-dong, Sinbuk-eupและอื่นๆ.


แต่เหตุผลที่เราต้องอุตส่าห์มาที่นี่เพราะว่ามันมีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับร้านนี้.มันคือคุณสามารถลองกิน hericium erinaceum,ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามันมีประโยชน์มากกว่าโสมป่า,กับDakgalbi.

ลมเย็นๆจากแอร์เชื้อเชิญให้ผมเข้าไปข้างใน.ร้านนั้นสะอาดมีโต๊ะอยู่15โต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้และมันก็ยังมีห้องสองสามห้องด้วย.



หลังจากที่เราเช็ดเหงื่อออกด้วยผ้าขนหนูเย็นๆตรงที่นั่งของเราและดื่มน้ำ,ผมก็เช็คเมนู.



Janghan Dakgalbiนั้นไม่เพียงแค่ hericium erinaceumและDakgalbiย่างถ่าน,ซึ่งมันต่างจากDakgalbi ย่างทั่วๆไป,แต่มันยังมี Bbongip Makguksu(บะหมี่บัควีทกับ ใบมัลเบอรี่ ) ที่พวกเขาเก็บเอง.อย่างไรก็ตาม,เมนูส่วนใหญ่ราคาประมาณ 1,000วอนแพงกว่าร้านอื่นๆ.


เท่าที่ผมได้ยินมา, Dakgalbi นั้นมีต้นกำเนิดในHongcheon, เมืองถัดจากChucheon,และเขาเคยย่าง Dakgalbiบนตระแกรงเห,้กเหมือนกับตอนนี้.ซึ่งมันก็เลยเวลาอาหารของเรามานานมากแล้วและผมก็กำลังที่จะได้ลิ้มลองDakgalbi ต้นตำรับดังนั้นผมจึงค่อนข้างตื่นเต้น.



มีหยกตกแต่งอยู่บนโต๊ะ. Chuncheonนั้นยังมีชื่อเสียงในการทำหยกในเกาหลี.ถ้าคุณเดินทางต่อไปยังDong-myeon, มันจะมีเหมืองหยกและ jjimjilbang หยก(ซาวด์น่าแบบแห้ง)แต่เราจะต้องกินก่อน.



ผมสั่งDakgalbi สำหรับสองคน,Deodeokgui(deodeokย่าง) หนึ่งที่และ Makguksuสองที่,และไม่นานนักเครื่องเคียงก็ถูกเสริฟบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย.



หัวหอมแช่ในซีอิ๊ว.ค่อนข้างเผ็ดเพราะพริกไทยทำให้ปากของผมรู้สึกสดชื่นจนผม Dakgalbiกินจนเสร็จ.



สีแดงทำให้เรารู้สึกอยากกินมากขึ้นตลอด,ใช่มั้ย?หัวไชเท้าขูดนั้นหวานและเปรี้ยวพอที่จะเพิ่มความอยากกินของเราให้มากขึ้นในวันที่อากาศร้อนอย่างนี้.ควบคู่กันไป,สลัดมันฝรั่งและdongchimiเย็น(กิมจิหัวไชเท้าน้ำ)ก็เข้ากันกับ Dakgalbiได้อย่างดี.



หลังจากเครื่องเคียงมา,ถ่านก็ถูกเสริฟที่โต๊ะของเรา.โอ้~มันเป็นถ่านไม้เนื้อแข็งที่ทำจากไม้โอ๊ค,ไม่ใช่แบบอันถูกๆ.



ก่อนที่เขาจะเอาเนื้อมา,ผักสำหรับssam ก็ถูกเสริฟเต็มๆบนจาน.



เพิ่มเติม,ผักที่ปรุรสด้วยน้ำส้มสายชูและส่วนผสมอื่นๆผสมกับต้นหอมก็ถูกเสริฟมาในชามใหญ่ๆและตามด้วยDakgalbi.


เจ้าของย่างไก่บนถ่านด้วยตัวเขาเองและตัดมันเป็นชิ้นๆ.แม่เจ้า!ผมดูเขาย่างไก่และผมก็ลืมที่จะถ่ายรูปมันไว้.ผมคิดว่ามันมีไก่ห้าถึงหกชิ้นใหญ่ๆ.



ด้วยเห็ดรองพื้น,เห็ดsaesongi(pleurotus eryngii) และวันนี้เป็นไฮด์ไลท์,herici-um erinaceum. เส้นขาวๆนุ่มๆดูเหมือนกับหางของกวาง.



Dakgalbi ได้ถูกเสริฟแบบสุกครึ่งเดียวซึ่งบนโต๊ะคุณจะต้องอุ่นมันและกลับมันดีๆเพราะว่าซอสมันไหม้ง่าย.



มันได้ถูกย่างอย่างดีซึ่งผมก็เพิ่มผักและลองกิน.มันไม่มีมันซึ่งมันก็ดีและมันก็อร่อยซึ่งผมสังเกตุได้ว่ามันเป็นไก่จริงๆ.


Deodeokgui(200g)ได้ถูกเสริฟต่อไป.พวกเขาบริการDeodeok กับทุกคนเพื่อที่จะกินกับDakgalbi แต่มันเล็กๆและอันที่ผมสั่งนั้นใหญ่กว่าและสดกว่าอย่างเห็นได้ชัด.



หลังDakgalbi,เราเริ่มที่จะย่างDeodeok บนตระแกรงเหล็กและกลิ่นที่นุ่มนวลของมันก็แผ่กระจายไปทั่ว.เย้,อร่อย~!



ซอสหวานๆเผ็ดๆได้ถูกเคลือบทั้งด้านหน้าและหลัง, Deodeokหนาๆได้ถูกแยกออกอย่างดีสำหรับหนึ่งคำและเนื้อของมันก็อร่อย,แตกต่างจากDakgalbi.


นี่อาจจะเป็นmagolliมั้ยนะ? จริงๆแล้ว,นี่เป็นถังน้ำแข็งมีน้ำซุปสำหรับMakguksu เย็นสำหรับผมเพื่อที่จะทำให้ปากรู้สึกซาบซ่า.



ผมไม่แน่ใจว่าใบมัลเบอรี่นั้นดีสำหรับอะไรแต่ว่าบนบะหมี่บัควีทสีดำ,มันมีผัก,สาหร่ายหั่นและซอสแดง.


คุณสามารถเอาน้ำซุปใส่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการ.ถ้าคุณใส่นิดหน่อย,มันอาจจะเป็นBibim(เผ็ด) Makguksu และถ้าคุณเทน้ำซุปจนท่วมบะหมี่,มันคือMul(ซุป) Makguksu.



ผมเทน้ำซุปให้เป็นระหว่างBibim และ Mul Makguksu,คนให้เข้ากันและเกือบที่จะดื่มบะหมี่.”อ้า.....ผมมีความสุขแล้ว".




สุดท้าย,ผมดื่มสไปรท์เย็นๆในแก้วที่แช่จนเกือบแข็งแล้วผมก็คิดว่าผมไม่ต้องการหรืออยากได้อะไรแล้วนอกจากงีบซักพัก.


อย่างไรก็ตาม,ผมรู้สึกดีหลังจากกินอาหารดีดีและอากาศเย็นๆจากแอร์ซึ่งมันก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปยังที่ต่อไป,มันบอกบนผนังไว้ว่าผมสามารถที่จะ๙ื้ออาหารในราคาที่เหมาะสมสำหรับกลับบ้าน.ผมควรจะอยู่ใกล้กับร้านอาหารนะ,ผมน่าจะสั่งอีกซึ่งผมก็สามารถอร่อยกับบาร์บีคิวที่บ้านพักได้.

อย่างเดียวที่ผมรู้สึกเศร้าก็คือมันไม่มีป้ายรถเมล์ภายในรัศมี 1.5kmเลย.แม้ว่าเราเดินไปกลับกว่า 3-kmด้วยขาที่แข็งแรงของพวกเราแต่ผมก็ไม่แนะนำให้เดินซึ่งผมแนะนำอย่างจริงจังเลยว่าเดินทางด้วยวิธีอื่นดีกว่า.


Map

ที่อยู่ : 751, Janghak-ri, Dong-myeon, Chuncheon-si (강원도 춘천시 동면 장학리 751)

เวลาทำการ : 11:00 - 22:00 (ไม่มีวันหยุด)



เมืองแห่งสวนดอกไม้Gangwondo 강원도립화목원


ในส่วนของตัวเมืองChuncheon,มีตึกหลายตึกที่น่าแวะชมเช่นโรงละครหุ่นหรือพิพิธภัณฑ์เอนิเมชั่น.พวกเรากำลังจะลองพิพิธภัณฑ์เอนิเมชั่นแต่มันดูเหมือนว่ามันเป็นสถานที่สำหรับเด็กดังนั้นผมจึงต้องเปลี่ยนใจในทันที.



นั่นเป็นตอนที่เราตัดสินใจที่จะไปยังเมืองแห่งสวนดอกไม้ Gangwondoตั้งอยู่ที่Sanong-dong,เหนือขึ้นไปจากสนามแข่งรถ Chuncheon.


เมืองแห่งสวนดอกไม้ Gangwondoเป็นสวนพฤกษชาติสาธารณะดูแลโดยเมือง Gangwon-do ที่มีสวนรวมอยู่ถึง9สวนขึ้นอยู่กับรูปแบบประกอบไปด้วยสวนพฤกษศาสตร์ Banbi,สวนหิน,สวนเขตร้อนและอื่นๆ.


คุณสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ป่าได้ในราคา 1,000วอนที่จุพันธุ์ไม้กว่า1,653 สายพันธุ์และกว่า20สายพันธุ์ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายที่จัดโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อม.



ขณะที่ผมเดินเข้าไปในสวน,หมีไม้ที่เป็นตัวแทนของ Gangwon-do ก็อ้าแขนของมันเพื่อต้อนรับเรา.แต่มันก็ยังมีรูอยู่มากมายซึ่งมันน่าจะดูดีมากขึ้นในหน้าร้อน.


ทางด้านขวาผมสามารถแอบมองHwamokjeon(ศาลาดอกไม้และต้นไม้)ระหว่างช่องของต้นไม้.ดังนั้นพวกเราจึงมุ่งหน้าไปที่ Hwamokjeongก่อน.


หลังจากที่เราผ่านป่าไป,มีสวนใหญ่ๆและสระน้ำยาวๆล้อมรอบ Hwamokjeongมีน้ำพุสวยๆที่พ่นน้ำ.มันค่อนข้างบ่ายมากแล้วซึ่งก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก.



Hwamokjeongเป็นศาลาสองชั้นที่คุณสามารถพักชมดอกไม้ที่งดงามรอบๆมัน.


ถ้าคุณข้ามสะพานเล็กๆที่ด้านหน้าของHwamokjeong, ดอกไม้หลากพันธุ์ที่ผมไม่รู้จักชื่อก็บานอยู่ด้วยกัน.



ผมไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่,แต่ผมได้ยินเสียง"ตึก ตึก ตึก!”อยู่เรื่อยๆ.มันเสียงเหมือนล้อที่กำลังหมุนที่มีรูปร่างเหมือนกับบ้านชิงเกิ้ล,บ้านแบบโบราณในGangwon-do, กำลังหมุนและต่อเนื่อง.



รอบๆHwamokjeong, มีดอกไม้มากมายและพืชชนิดต่างๆ,และระหว่างพุ่มไม้ก็เต็มไปด้วยดอกไม้มีทางน้ำซ่อนอยู่ด้วย.


ดอกไม้แต่ละแบบก็มีชื่อของมันและคำอธิบายเขียนอยู่ข้างใต้แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ท่จะจำมันทั้งหมด.ดูและรู้สึกทราบซึ้งกับพวกมันนั้นก็พอแล้วสำหรับพวกเราดังนั้นพวกเราจึงไปต่อ.


ที่สิ้นสุด,เด็กๆกำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่.สิ่งที่ไม่เหมือนใครก็คือทุกสิ่งนั้นทำจากไม้.สวนดอกไม้รูปหัวใจที่ทำจากไม้ที่อยู่ตรงด้านหน้าของสนามเด็กเล่นก็เรียกความสนใจของผมด้วย.



ถัดจากสนามเด็กเล่น,คือพิพิธภัณฑ์ป่าไม้.”พิพิธภัณฑ์ป่าไม้......เขาจะบอกอะไรเกี่ยวกับต้นไม้นะ?” ผมไม่ได้หวังอะไรมากนักแต่ผมเข้าไปข้าในก็เพราะว่าผมต้องไปเข้าห้องน้ำอยู่ดี.


ใต้เพดานสูงๆที่ไม่มีชั้นกั้นระหว่าง2ชั้น,มีหุ่นหมีดำ,สัญลักษณ์ของ Gangwon-doและมันทำจากหยก,อ้าแขนของมันเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ตรงล็อบบี้.



บนหัวของพวกเรา,หุ่นของกะเรียนแดงได้แขวนอยู่บนเพดานทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนว่ากำลังดูพวกมันบินอยู่.



ทางด้านขวาของล็อบบี้,มีที่ที่คุณสามารถเห็นสัตว์สตัฟ,โรงหนัง4Dและศูนย์การเรียนรู้.มันมีบทบาทเพื่อเป็นที่สำหรับเด็กๆเพื่อศึกษาและคุ้นเคยเกี่ยวกับสัตว์.



หมีดำกับฟันของมันและเสือด้านหลังของต้นไม้ภายใต้ความมืดของห้องจัดแสดง.........


บนหัวของพวกเรา,นกฮูกที่ใหญ่เท่ากับเด็กกำลังมองลงมาด้วยสายตาที่น่ากลัว,และคุณสามารถเห็นสัตว์อีกมากมายผ่านกระจกตอนที่คุณเดินผ่านอุโมงค์มืดๆ.


นกชนิดต่างๆที่อาศัยอยู่ในเกาหลีถูกสตัฟไว้ให้ดูเหมือนยังมีชีวิตอยู่ในกระจก.ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีนกมากมายอาศัยอยู่ในเกาหลี.



ควบคู่ไปกับนก,ตัวอย่างของปลาก็ได้ถูกจัดแสดงในมุมหนึ่งรวมถึงปลาจีนจากทะเลสาบ Soyang.



ผมมีโอกาสที่ได้พบกับลูกหมูป่าน้อยน่ารักลูกของหมูปาที่น่ากลัวที่ผมเห็นในข่าว.



มีตัวอย่างของแมวป่าด้วย,ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในเขตป่าแต่หาดูได้ยาก.



ห้องนั้นเต็มไปด้วยตัวอย่างขนาดของนกที่ย้ายถิ่นควบคู่ไปกับนกกะเรียนแดงและนกกระสาขาว.



แม้แต่ทางเดินไปยังห้องจัดแสดงอีกห้องหนึ่งที่ชั้นสอง,ตัวอย่างของไม้เลื้อยก็ถูกจัดแสดงตรงราวจับซึ่งคุณสามารถเห็นลักษณะเฉพาะของไม้แต่ละต้น.



ไม่เหมือนกับชั้นหนึ่งที่เป็นตัวอย่างของสิ่งมีชีวิต,ชั้นสองมีวัตถุทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่ได้พัฒนาในยุคโบราณ.


ฟอสซิลแบบต่างๆที่ค้นพบไม่เพียงแต่ในเกาหลีแต่ยังในบราซิลและประเทศแถบยุโรปได้ถูกจัดแสดงไว้.



คุณยังสามาถเห็นฟอสซิลจากพืชที่ติดอยู่กับหินในยุคการสร้างของสมัยเมโซนิคจนถึงGastropodเป็นโหลหรือร้อยเช่นแอมโมไนท์.


พวกเราลืมเวลาที่นี่เพราะว่ามันสนุกที่ได้ชมสิ่งที่จัดแสดงที่เหมือนกับของจริงมากๆ.



เราพบการเรียนรู้เกี่ยวฟอสซิลนี้โดยบังเอิญตรงมุมๆหนึ่ง.ผมกดมือผมและทิ้งรอบนิ้วมือที่อาจจะกลายเป็นฟอสซิลได้.


โดยปกติมันสำหรับเด็กแต่เราไม่สามารถที่จะเดินผ่านมันไปเฉยๆได้.เราต้องเอาตัวเราเข้าไปเกี่ยวข้องแลละทิ้งฟอสซิลอันใหญ่ไว้.



ผ่านจากมุมการเรียนรู้เกี่ยวกับฟอสซิล,เราสามารถที่จะเห็นแมลงชนิดต่างๆ.ผีเสื้อกำลังกางปีกอย่างสวยงามสีจากพวกมันดูเหมือนกับแสงสว่าง.



ที่สุดทางของชั้นสอง,ในที่สุดมันก็มีคำอธิบายเกี่ยวกับต้นไม้ที่ขึ้นในGangwon-do,ซึ่งมันน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของการจัดตั้งสวนพฤกษชาติต่างๆ,แต่ผมไม่สามารถโฟกัสที่คำอธิบายได้สะดวกเพราะว่าผมเห็นต้นไม้จริงๆมาเยอะแล้ว.


แต่ข้อมูลนี้เป็นเป็นขั้นเป็นตอนผมแน่ใจ,ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะดีถ้าคุณจะเอาลูกๆของคุณมาด้วยในอนาคต.


ท้ายนี้,งานศิลปะและสิ่งของใช้ประจำวันที่ทำจากไม้หรือรากของต้นไม้ก็ได้ถูกจัดแสดงตามทางเดินที่นำไปสู่ทางออก.



มันเกือบที่จะเป็นตอนเย็นเมื่อเราออกมาข้างนอกพิพิธภัณฑ์.เวลาทำการนั้นถึงหกโมงเย็น.ดังนั้นเราต้องรีบหน่อย.



มันเกือบที่จะเป็นหน้าร้อนซึ่งพระอาทิตย์จะอยู่นานแต่เพราะว่ามันเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู,ข้างนอกจึงมืดแล้ว.



เมื่อคุณเดินตามถนนหลักของสวนดอกไม้กับเชอรี่ญี่ปุ่นตามทางทั้งสองข้าง,คุณจะเห็นหุ่นไดโนเสาร์หรือนกตัวใหญ่ๆจัดแสดงอยู่ตามสนามหญ้า.



ผมเหนื่อยมากเพราะว่ามันเป็นการเดินทางที่ยาวนานในวันนั้นแต่ดอกไม้เล็กๆที่ผมได้เห็นตรงม้านั่งทำให้ผมมีแรงที่จะขยับอีกครั้ง.



ไม่เพียงแค่ม้านั่งตรงนี้และตรงนั้น,สวนนี้ยังมีห้องใหญ่ที่เรียกว่า Banbi Rest Areaสำหรับผู้มาเยือนและคนที่อยากจะพักผ่อนในธรรมชาติ.


ในส่วนที่พัก,ต้น metasequoisสูงๆได้ให้ร่มเงาอย่างดีทำให้พวกเราอยากที่จะนอนพักบนเสื่อ.



มันยังมี" ทางเดินเท้าเปล่า" อยู่รอบสวนทั้งสวนเป็นที่ที่คุณสามารถเดินในป่าด้วยเท้าเปล่าและสัมผัสธรรมชาติ.



มีก็อกน้ำอยู่สามก็อกที่คุณสามารถล้างเท้าของคุณหลังจากเดินด้วยเท้าเปล่าแต่มีแค่อันเดียวที่มีหูจับ.




เราเข้ามาใกล้ทางเข้าสวนดอกไม้เราเข้าไปด้านในและเห็นจัตุรัสน้ำพุในที่สุดและมุ่งหน้าไปยัง"สวนพฤกษศาสตร์Banbi” ตกแต่งอยู่ในเรือนกระจกพื่อควบคุณอุณหภูมิสำหรับต้นไม้.



สวนพฤกษศาสตร์Banbi เป็นสวนพฤกษศาสตร์แบบในร่มที่คุณสามารถเห็นพืชต่างๆในเขตอบอุ่น,พืชใบ,และสวนต้นอ่อนและสวนสังเกตุการณ์สิ่งแวดล้อมซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการชมพืชใบในฤดูหนาวแต่ในหน้าร้อนอย่างนี้.....มันร้อนเกินไป.



ผมต้องทนกับความร้อนตอนที่ผมอยู่ข้างในและผมเห็นเรือนกระจกนั้นเต็มไปด้วยต้นกระบองเพชรที่มีหนามที่แตกต่างกันเหมือนกับในหนัง.



หนามของต้นกระบองเพชรนั้นแหลมและโดยทั่วไปมันหน้าเกลียดแต่ดอกของมันนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะขาวและสวย.มีคนบอกผมว่ามันยากที่จะเห็นดอกกระบองเพชรแต่มันมีหลายดอกในเรือนกระจก.นี่ผมเข้าใจผิดหรือเปล่า?



ในเรือนกระจกอีกหลังหนึ่ง,พืชเขตร้อนกับใบกว้างๆขึ้นอยู่และต้นไม้ที่ไม่รู้ชื่อกับรูแปลกๆบนพวกมัน,ไม่ใช่จากแมลง,กำลังยืนต้นอยู่อย่างภาคภูมิของต้นไม้ใบใหญ่.



มันไม่นานหลังจากที่ผมได้ไปสวนพฤกษศาสตร์ Jeju Yeomiji,แต่สวนดอกไม้ที่เมือง Gangwandoมีพืชที่หลากหลายจัดแสดงซึ่งผมไม่รู้สึกเบื่อเลย.



ที่ด้านหนึ่งของเรือนกระจก,ผมพบห้องเล็กๆที่ที่มีผีเสื้อหลายๆสิบกำลังบินอยู่รอบๆในตาข่ายกันยุง.นี่คือที่ที่พวกเขาเลี้ยงผีเสื้อ.ด้วยคำอธิบายตรงชาร์ทการเปลี่ยนแปลงจากหนอนผีเสื้อจนเป็นผีเสื้อ,ป้ายได้ติดอยู่กับหน้าต่างบอกให้เราอย่าลืมปิดประตู.


โอเค,พืชที่โตอยู่ในอากาศมันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจทุกครั้งที่ผมได้เห็นมัน.พืชต่างๆห้อยอยู่ตรงที่เล็กๆด้วยรูปร่างต่างๆและสูงที่ดูเหมือนกับว่าพวกมันกำลังนั่งชิงช้าอยู่.



ต้นไม้ที่ดูเหมือนกับกล้วยไม้(蘭) กำลังห้อยอยู่จากแท้งค์น้ำในเรือนกระจกและรากของมันก็งอกอยู่ในอากาศ.



การเที่ยวชมในเรือนกระจกจบลงด้วยต้นไม้ที่โตอยู่ในอากาศและหลังจากนั้น,ผมต้องดื่มน้ำถึงสองแก้วตรงด้านหน้าของอาคารก่อนที่พวกเราจะออกไป.วิ้ว......เที่ยวที่เรือนกระจกมันมากเกินไปในหน้าร้อน.....



กับสวนพฤกษศาสตร์ที่เป็นที่สุดท้ายในการท่องเที่ยว,พวกเราก็มาถึงที่ทางออก(ทางเข้า)และเครื่องดื่มเย็นๆและขนมในร้านที่ด้านหน้าก็ได้เชื้อเชิญเรา.


ในร้าน,คุณสามารถซื้อกระถางต้นไม้เล็กๆซึ่งคุณสามารถลองที่จะเลี้ยงต้นไม้ด้วยตัวคุณเอง.แต่ผมอยากให้มันมีร้านเล็กๆใกล้กับพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับป่าที่ซึ่งเราสามารถหาน้ำเย็นๆในอากาศร้อนแบบนี้.

พวกเราไม่ได้แพลนที่จะมายังเมืองสวนดอกไม้ Gangwondoในตอนแรกแต่มันค่อนข้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีกับร่มเงาเย็นใต้ต้นไม้ยกเว้นเรือนกระจก,ที่พักผ่อน,ต้นไม้ที่หลากหลายและพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพืช.มันอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา Chuncheonที่เด็กๆชอบดังนั้นผมจึงอยากจะแนะนำให้คุณมาแวะที่นี่และพักผ่อนกับต้นไม้ต่างๆ.

Map

ที่อยู่ : 218-5, Sanong-dong, Chuncheon-si (강원도 춘천시 사농동 218-5)

โทรศัพท์ : 033-248-6690~1

เวลาทำการ : 10:00 ~ 18:00 (ฤดูหนาว: 17:00) เว็บไซต์ : http://www.gwpa.kr/




장한숯불닭갈비, 강원도립화목원, 화목원, 화목정, 정자, 산림박물관, 박물관, 반비식물원, 식물원, 닭갈비, 더덕구이, 막국수, JanghanSutbulDakgalbi, Gangwondo, ProvincialFlowerGarden, FlowerGarden, Hwamokjeong, Flowerandtreepavilion, pavilion, ForestMuseum, Museum, BanbiBotanicalGarden, Garden, Dakgalbi, charcoal-grilled, spicystir-friedchicken, Deodeokgui, Grilled, deodeok, Makguksu, Buckwheat, noodles, ジャンハン炭火タッカルビ, 江原道立花木園, 花木園, 花木庭, あずまや, 亭, 森林博物館, 博物館, バンビ植物園, 植物園, タッカルビ, トドックイ, 蔓人蔘焼き, マッククス, 张汉炭火铁板鸡, 江原道立花木园, 花木园, 花木亭, 亭子, 山林博物馆, 博物馆, BANBI植物园, 植物园, 铁板鸡, 烤沙参, 荞麦粗面, สับไก่ถ่านอาวุธ, Gangwon-do, ริมฝีปากhwamokwon, hwamokwon, คบหาหน้า, สเปิร์ม, ป่าไม้พิพิธภัณฑ์, พิพิธภัณฑ์, Banbi, สวนพฤกษศาสตร์, ซี่โครงไก่, ย่างdeodeok, makguksu
One line comment(0) 
PDF
Bookmark
E-mail
0bytes / 200bytes
View list