พิพิธภัณฑ์Suwon Hwaseong
มันปิดทุกวันจันทร์อย่าลืมล่ะ.ปกติผมชอบไปไหนๆในวันจันทร์ดังนั้น...........
ตรงที่ทางเข้าชั้นหนึ่ง,มีศูนย์ที่เด็กน่าจะชอบที่จะเล่น.คุณสามารถที่ขะลองpalanquin หรือถ่ายรูปของตัวเองในชุดของกษัตริย์หรือราชินี.มันฟรีทั้งหมดซึ่งคุณสามารถสนุกได้นานเท่าที่นานได้.
ด้านในศูนย์,เด็กๆสามารถสร้างป้อมSuwon Hwaseong ได้ด้วยตัวเอง,และเรียนรู้ที่จะใช้สัญญาณด้วยไฟบนBongdon. พวกเขายังสามารถเรียนรู้การวัดในแบบเก่าอย่าง Mal, Doe and Hop.
แม้แต่เมื่อตอนผมเป็นเด็ก,เขาเคยขายเกรนที่ใช้เป็นหลักในการนับและSoju เคยขาย Hopsหรือ4 Hops.รู้ไว้นะว่า,โซจูขวดหนึ่งปัจจุบันประมาณ 2 Hops(360ml).
ในมุมหนึ่ง,คุณสามารถสร้างรูปแบบของภาพของChae Je-gong หรือจับของหลายๆสิ่ง.
คุณสามารถเช็คราคาและคำแนะนำที่พิพิธภัณฑ์ในภาพด้านบน.ถ้าคุณจะจ่ายสำหรับค่าทัวร์ของคุณ,มันจะถูกกว่าซื้อที่United Ticket. อย่าลืมซะล่ะ.
ยังไงก็ตาม,ผมจ่าย 2,000สำหรับผู้ใหญ่.มันมีนิทรรศการตลอดเวลาที่ชั้นหนึ่งกับรูปแบบใหม่ๆตลอดเวลาทุกๆสองสามเดือน.ในเมษายน,เขาเปิดนิทรรศการรูปภาพของป้อมSuwon Hwaseong ในยุคสมัยJoseon และยุคที่ญี่ปุ่นเข้าครอบครอง,แต่ตอนนี้,มรดกต่างๆที่ถูกบริจาคให้ Suwon-si ได้ถูกจัดแสดงเพื่อฉลองครบรอบ 5thปีของนิทรรศการ.
อย่งแรก,ผมจะโชว์ให้คุณเห็นภาพวาดChae Je-gong [蔡濟恭肖像一括-時服本; Chae Je-gong Chosang Ilgwal-Sibokbon]. ผมจะเก็บลมหายใจไว้สำหรับมรดกชิ้นอื่นๆแต่ไม่ใช่อันนี้.ผมพนันว่าคุณเคยเห็นรูปนี้หลายครั้ง.มันเป็นภาพวาดของ Chae Je-gong ผู้ที่ขึ้นกับ Tang-pyeongของกษัตริย์Jeongjo ในปลายยุคJoseon ซึ่งได้กล่าวถึงไว้มากในหนังสือของOh Ju-seok 'Special Lectures on Korean Beauty'ซึ่งตอนนี้ได้ตายแล้ว,และนี่ยังได้ถูเลือกเป็นสมบัติหมายเลข1477-1.บนรูปภาพ, Chae Je-gongอายุ73ปีนั้นกำลังนั่งคิดกับพัดและถุงหอมในชุดสีชมพูอ่อนและที่มัดผม.
“หน้าตาและวิญญาณของคุณเป็นสิ่งที่สวยงามจากพ่อแม่ของคุณ,ทุกๆอย่างที่ปกป้องคุณจากหัวจดเท้าจากกษัตริย์ของคุณ.พัดนั้นงดงามจากกษัตรย์ของคุณ,ถุงหอมก็งดงามจากกษัตริย์ของคุณ,และไม่มีอะไรที่จะครอบคลุมร่างกายของคุณที่ไม่ใช่สิ่งที่งดงามจากกษัตริย์ของคุณ.ยังที่ผมรู้สึกอายที่ไม่รู้จะตอบแทนความใจดีของท่านแม้แต่ผมได้ตายไป."ดังนั้นChae Je-gong ได้รับพัดจากกษัตริย์ Jeongjoได้ยังไง,จดหมายด้านบนได้ถูกให้ไว้พร้อมกับพัดจากกษัตริย์Jeongjo,และมันบอกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพัดในภาพและ Sinchu(ถุงหอม) ที่ผมจะโชว์ให้คุณเห็นเร็วๆนี้.มันบอกว่า....
「Jwauijeongคำนั้นเติมเต็มผม.อย่างไรก็ตาม,ปีที่แล้วไม่เหมือนกับปีที่การเก็บเกี่ยวไม่ดีซึ่งทำให้ผมกังวลว่าผู้คนอาจจะหลงระเริงกับสิ่งต่างๆและอาจจะไม่เตรียมพร้อม,ผมจะเตรียมพร้อมมันจากนี้ไป.ทันเวลา,พระราชวังทำพัดใหม่และแม่ของผม(Hyegyeonggung Hong)ได้ถูกบอกว่ามันถูกทำเมื่อนานมาแล้วดังนั้นผมจึงส่งไปสองอันดังนั้นถ้าให้มันกับJwauijeong เพื่อทำให้ทุกอย่างดูดี?ฮ่าฮ่า,หนึ่งในนั้นดูเหมือนกำลังนั่งอยู่บนที่จับ.」
นี่เรียกว่าSeonchu,ที่ประดับพัด.คุณสามารถใส่สมุนไพรในนั้นซึ่งมันเรียกว่า Hyangnang. และนี่คือ Hyangnangที่คุณเห็นในภาพวาดของChae Je-gong.นี่คือสมบัติหมายเลข 1477-1ด้วยกันกับภาพวาด.
นอกจากนั้น,มีมรดกมากมายที่ได้รับบริจาคซึ่งถ้าคุณจะมีโอกาส,เดินดูรอบๆ.
ตอนนี้,ผมจะโชว์ให้คุณเห็นห้องชั้นสองของ Hwaseong.ห้องนี้โชว์คุณเกี่ยวกับการเมือง,วัฒนธรรม,และการสร้างป้อม Suwon Hwaseongผมสามารถรู้สึกถึงจิตวิญญาณจากภาพวาดที่ผมเห็นตรงทางเข้า.
สองในนั้นถูกวาดโดยกษัตริย์ Jeongjo. อันทางด้านซ้ายคือchrysanthemum และอันทางขวาคืออันว่างๆ.ผมสามารถที่จะจินตนาการเขานั่งและวาดรูปเหล่านี้.
เอกสารนี้คือYeongseo (令書)ของเจ้าชายSado,กษัตริย์ที่น่าเศร้า. Yeongseoนั้นควบคุมเอกสารที่กษัตริย์ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาแต่มันเหมือนกับความเคยชินในการสั่งของกษัตริย์.มันเพราะว่ากษัตริย์เป็นผู้จัดการทุกอย่างที่ทำได้ในYeongseo.
และเอกสารนี้ถูกเปิดเผยสู่ประชาชนหลังจากเก็บมากว่า250ปี,ข้อความมีดังนี้."วันที่28th, ธันวาคม, Geonryung ปีที่ 22nd(1757),ผมกล่าวถึงการช่วยเหลือของJo Don(趙暾) เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้อย่างที่เจ้าเมืองGyeonggi , ByeongmaSugunJeoldosa(ยศที่เลือกจากผู้ที่มาจากชนชั้นสูง)และ Sunchalsa(ผู้นำกองทัพ).และเจ้าชาย Sadoก็ซาบซึ้งคาแร็คเตอร์ของ Jo Donโดยบอกว่า"เมื่อผู้คนนั้นยากไร้และต้องการความช่วยเหลือ,เขาลดภาษี,และผมต้องบอกว่าเขาซื่อสัตย์,จริงใจและฉลาด"แล้วเขาก็ขอให้ Jo Donพยายามให้หนักขึ้นเพื่อที่จะทำให้ประชาชนสบายอย่างGwanchalsa.」
ผมสามารถเห็นมรดกต่างๆที่ผมเคยอ่านในหนังสือ.อันทางซ้ายคือMokminsimseo(牧民心書;เครื่องบอกยศของคนในรัฐบาล)และอันทางขวาคือHeumheumsinseo(欽欽新書).ทั้งสองอย่างเขียนโดยJeong Yak-yong(丁若鏞),ผู้แทน Silhakในปลายสมัย Joseon.ประชาชนของMokminsimseo และอธิบายถึงกฎที่เจ้าเมืองควรมี,และ Heumheumsinseoคือหนังสือเกี่ยวกับกฎหมายอาชญากรรมเขียนเพื่อพัฒนาการดำเนินชีวิตอย่างมีระเบียบ.ผมเดาว่าเขาเสนอหนังสือนี้เกี่ยวกับการสอบสวนในยุคสมัยนั้น.
หนังสือเรื่องนี้ชื่อHwaseong Seongyeokuigwe(華城城役儀軌) เป็นหนังสือเกี่ยวกับความทรงจำในโลก.มันบันทึกทุกรายละเอียดตั้งแต่การเริ่มสร้างป้อม Suwon Hwaseongในปี1794 จนถึงมันสร้างเสร็จในปี1796.
ไม่ใช่แค่แปลนของปราสาทและประตู,รายละเอียดของเครื่องมือ,อิฐ,ผงจากต้นไม้ที่ใช้สร้าง,ราคา,และซื้อวัสดุจากที่ไหน,ค่าจ้าง,ราคาในสมัยนั้น,ผู้ที่ควบคุมงาน,คนที่เข้าถึงคนงานและช่างไม้ผู้ชำนาญ,และเอกสารการติดต่อระหว่างกษัตริย์และผู้ควบคุมก็อยู่ที่นั่นด้วย.สรุปแล้ว,พวกเขามีรายละเอียดทุกอย่างของอาคารในเมืองใหม่,Suwon.บรรพบุรุษของเราลงข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคฟังดูเจ๋ง,คุณคิดเหมือนกันมั้ย?
ถ้าคุณรู้จักของที่จัดแสดง,มันตลกแต่ถ้าคุณไม่รู้,มันคงจะเป็นทัวร์ที่น่าเบื่อ.คุณสามารถได้มากเท่าที่คุณรู้!เอกสารยาวๆนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน.นี่คือ Yuneumที่คนจะได้ลดภาษี 50%ที่พวกเขาต้องจ่ายสำหรับแต่ละเมืองในการฉลองการแต่งตั้งเจ้าชาย Munhyo ในปี1784.น่าเสียดาย,เจ้าชาย Munhyoตายจากโรคร้ายในพระราชวังChangdeokgung หลังจากนั้นสองปี.
หลังจากนั้นน้องของเขากลายมาเป็นกษัตริย์Sunjo. (※Yuneum(綸音)คือคำพูดของกษัตริย์ในสมัย Joseon )
และการออกแบบของป้อม Suwon Hwaseongได้ถูกจัดแสดงไว้ด้วย.ภาพด้านบนคือแบบแปลนของการซ่อมแซมของ Hwahongmunที่ผมโชว์ให้ดูก่อนหน้านี้.นี่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ในสมัยก่อน,พวกเขาก็วางแผนก่อน,ไม่ใช่แค่สร้างเพื่อให้เสร็จ.
ต่อไป,ผมเข้าสู่ห้องวัฒนธรรม Hwaseongตรงข้ามห้องโถงบนชั้นสอง.
ห้องวัฒนธรรมHwaseongมีมรดกที่ Chae Je-gong,จุดสำคัญในการสร้างกองทัพในสมัยของกษัตริย์ Jeongjo,ได้รับบริจาคและมรดกที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์และขบวนหลวงในปี1795.คุณสามารถรู้สึกถึงกษัตริย์ Jeongjoกับความรู้สึกถึงพ่อแม่ของเขา, Hyegyeonggung Hongและเจ้าชายSado, และเห็นอาวุธและศิลปะการป้องกันตัวของกองทัพที่ Jangyongyeongก่อตั้งเพื่อความแข็งแกร่ง.
ธงนี้ที่ผมเห็นในทีวีบ่อยๆ.มันเป็นธงสำหรับเตือนผู้คนเวลากษัตริย์ผ่านด้านหน้าของขบวน.มังกรดูสวยมาก.
คันธนู,ลูกศรและกระบอกใส่ลูกศรถูกใช้ในสมัย Joseon.ลูกศรนั้นดูเหมือนก่อนที่จะถูกยิงจากคันศร.และเอกสารด้านล่างนั้นตลก.
มันบอกว่ากษัตริย์ Jeongjoยิงธนู50ดอก,และ48ดอกโดนเป้า,และเขาก็มีความสุขมากซึ่งเขาก็ให้ Jang Yong-won,เจ้าหน้าที่รัฐ,ก้อนสีเหลืองๆและสายของ coilia-nanusเพื่อแบ่งปันความสุข.เอกสารนี้ที่บันทึกสิ่งของที่ได้รับจากกษัตริย์จากผู้รับใช้เพื่อฉลองบางอย่าง.
อาวุธที่ผมโชว์คุณจากศิลปะการป้องกันตัวทั้ง24ที่พระราชวัง Hwaseongได้ถูกจัดแสดงที่นี่.การแสดงศิลปะการป้องกันตัวทั้ง24นั้นใช้อาวุธทั้งหมดจากที่เห็นด้านบน.น่าประทับใจมาก.ถ้าคุณมาที่ป้อม Suwon Hwaseong,คุณต้องมาที่พิพิธภัณฑ์.คุณจะได้เห็นขั้นตอนของอาคาร, ประวัติศาสตร์, วัฒนธรรมและความคิดของกษัตริย์.ผมแนะนำให้คุณต้องมาที่นี่.
ที่อยู่:Suwon Hwaseong Museum, 21, Changnyong-daero, Paldal-gu, Suwon, Gyeonggi-do (경기도 수원시 팔달구 창룡대로 21 수원화성박물관)
โทรศัพท์: 031-228-4205
ตรอกไก่Suwon กับร้านไก่นับโหล 수원통닭골목
Suwonเป็นเมืองที่น่าสนใจ.มันดูวุ่นวายตลอดเวลาและยุ่งยากแต่ถ้าคุณมองใกล็ๆ,คุณจะสังเกตุได้อย่างง่ายๆว่าคุณไม่สามารถพบเมืองที่สดใสมากกว่านี้ได้อีกที่มีสถานที่มากมายให้ดูและกิน.ดังนั้นสิ่งที่ผมกำลังจะแนะนำกับคุณตอนนี้คือถนนที่ต้องมา,ตรอกไก่Suwon(ถนนไก่).เมืองดูผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากที่Suwoncheon ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่.น้ำนั้นใสจนมีปลาซึ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่ต่างจังหวัดแบบตอนเด็กๆ.Suwon-si,เป็นเมืองเก่า,ยังมีโรงตีเหล็กซึ่งน่าจะหายไปกับเมือง.มันขายจอบ,ส้อมและช้อนตักดิน.
ถ้าคุณเดินขึ้นไป 100mตามแม่น้ำจากตลาด Yeongdong หรือตลาด Jidongที่Suwon Paldalmun, คุณจะเห็นร้านขายไก่ทางด้านซ้าย.คุณไม่จำเป็นต้องหามัน,คุณจะได้กลิ่นมันเอง.ถ้าคุณมีรถ,คุณสามารถจะจอดมันไว้ที่ลานจอดรถใกล้ๆตลาด JidongหรือตลาดYeongdong ,และตอนกลางคืนคุณสามารถจอดรถที่ไหนก็ได้ซึ่งคุณสามารถจอดบนถนน.ผมเคยไปที่นั่นกว่าร้อบครั้งแต่มันหาที่จอดรถได้ไม่ยาก.
ในรูป,คุณสามารถเห็นร้านขายไก่ที่ดังที่สุด, JinmiTongdak(ไก่) และYongseong Tongdak. คุณอาจจะคิดว่า Tongdakนั้นเป็นคำที่คนแก่เคยใช้โดยเฉพาะในเกาหลีผู้ซึ่งชอบภาษาอังกฤษมาก.แต่คุณจะไม่สามารถหาร้านที่ดีกว่าหรือขายดีกว่าด้วยเครื่องหมาย Tongdakในตรอกนี้.
นี่คือJinmi Tongdak.ผมเห็นหม้อเหล็กใหญ่ๆสองสามหม้อด้านนอกที่ดูว่าเก่ามากๆและมันก็ดูยุ่งอยู่กับการทอดไก่.ราคานั้นเกือบที่จะเท่ากันและพวกเขาก็ยังบริการจัดส่งไก่ในระยะใกล้ๆ.ผมจะบอกราคให้คุณฟังตอนที่ผมแนะนำเกี่ยวกับร้าน Maehyang Tongdak...........
นี่คืออันที่ผมซื้อที่ Jinmi Tongdak เมื่อตอนที่ผมไปที่นั่นครั้งก่อน.ผมอยากที่จะโชว์คุณเยอะๆซึ่งผมก็ต้องขุดค้นรูปเก่าๆJinmiTongdakและYongseong Tondakจุ่มไก่ลงในแป้งตามเทรนด์.ซึ่งมันก็รถชาติเหมือนทั่วๆไป.แต่ไก่นั้นชิ้นใหญ่กว่าและอร่อยกว่าจากร้านเฟรนไชส์.
ตอนนี้,ไปดูที่Yongseong Tongdak
ไม่เหมือนกับที่Jinmi Tongdak, Yongseong Tongdakนั้นทอดไก่ในบรรยากาศที่สะอาดกว่า.น้ำมันดูใหม่,ใช่มั้ย?ไก่ที่Jinmi นั้นแฉะและเหนียวแต่ไก่ Yongseongมีแป้งที่กรอบ.เขาต้องใช้ไก่คุณภาพเดียวกันแต่แป้งนั้นไม่เหมือนกัน.
บวกกับ, Jinmiให้Ddongjib(เครื่องใน)ฟรีแต่ Yongseongให้ Ddongjibและเท้าไก่จานนึงฟรี.ผมน่าจะไปที่นั่นตอนเย็น,ไม่ใช่ตอนบ่าย.ด้วยของว่างแบบนี้,ผมสามารถดื่มโซจูได้เป็นร้อยขวดเลย.
ซึ่งในการที่จะสั่งโซจูผมกลับไปที่นั่นในตอนกลางคืน!ผมสามารถไปที่ถนนไก่ได้ภายในห้านาทีผ่านPaldalmun(Nammum) โดยเท้า,เนื่องจากมันมืดลง,ถนนดูรื่นเริงมากขึ้น.
ครั้งนี้,ผมไปที่ Maehyang TongdakตรงสุดถนนตามSuwoncheon. MaehyangTongdakนั้นอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์.
ถ้าคุณตามผม,คุณไม่ต้องมองหาร้านนี้,คุณแค่ข้ามถนนจากพิพิธภัณฑ์ Suwon Hwaseong .ร้านนี้ใช้น้ำมันสะอาดในการทอดไก่.
แต่ผมรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง Jinmi Tongdak หรือ Yongseong Tongdakว่าเขาไม่ได้ใช้แป้งเลย.ผมสงสัยว่ามันจะรสชาติยังไง.
เราสั่งไก่ตัวนึงแล้วรอ.
ท้าด้า~หม้อไก่ก็มา.มันไม่มีแป้งซึ่งมันดูเหมือนอะไร
มันแค่ไก่ที่แยกเป็นสองส่วน.ไก่ดูตัวเล็กน่าจะเป็นเพราะไม่มีแป้งแต่กลิ่นของมันทำให้ผมใจละลาย.ไก่ตัวนึงกับ Ddongjibได้ถูกทอดและเสริฟทั้งตัว.เจ้าของตัดเป็นชิ้นๆให้เรา.
คุณอยากรู้มั้ยว่ามันรสชาติยังไง?สุดยอด!ผมไม่รู้ว่าเขาทำยังไงและมันก็ไม่ได้ดูเหมือนปรุงรสแต่มันเป็นไก่ที่เค็มกำลังดี เหนียวและจืด,มันเยี่ยมมาก.
ซึ่งเราสั่งอันนี้เพราะผมกำลังไดเอท,ผมนึกได้ว่ามันดีกว่าถ้าจะตัดไก่ออก.บวกกับ,รสชาติก็อร่อยมาก.เพอร์เฟ็ค,ใช่มั้ย? ^^*
เราออกจากร้านไม่ได้จนเรากินทุกอย่างจนหมดรวมถึง Ddongjibเหนียวๆ.ก็,คุณอาจจะถามว่าอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับไก่นี้แต่ถ้าคุณอยากลองไก่ที่สะอาดๆ,ผมแนะนำให้คุณลองที่นี่.บวกกับ,รสเผ็ดหรือซอสเข้มๆนั้นก็ถูกเสริฟกับไก่ด้วยซึ่งคุณสามารถที่จะลองรสชาติที่หลากหลาย.
Yongseong Chicken : 15, 800beon-gil, Jeongjo-ro, Paldal-gu, Suwon, Gyeonggi-do (경기도 수원시 팔달구 정조로800번길 15) / โทรศัพท์ : 031-242-8226