Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
8663 | 20077375

Pocheon, Namyangju #2 - Sansawon - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
Last Modified : 2017/02/17

Travel regions : South Korea
 | Hits : 494532
https://blog.lookandwalk.com/vi/blog/mazinguide/2223/trackback

Sansawon


แม้ว่า Gyeonggi-doจะค่อนข้างใกล้กับจุดหมายของเรา,เหตุผลที่เราเริ่มเร็วเพราะว่าจุดหมายที่ผมกำลังจะแนะนำนี้.อย่างหนึ่งที่ที่จะทำให้คุณนึกถึงเมื่อคุณคิดถึง Pocheonจะต้องเป็นเหล้า.



และมีBaesangmyun บริวเวอรี่ของ Sansawon ในPocheonที่จัดแสดงเหล้าที่เป็นตัวแทนของ Pocheon.Sansawon ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกด้านในของPocheon ค่อนข้างไกลจากถนนหลักในตัวเมืองดังนั้นมันจึงค่อนข้างไม่สะดวกที่จะไปด้วยการเดินทางสาธารณะ.น่าจะเป็นหนึ่งคันทุกๆชั่วโมง?



เดินตามถนนสองเลนในชนบทเล็กๆจนคุณไปถึงทางตรงของถนนที่ภูเขา,แล้วคุณก็จะเห็นอาคารอ้วนๆสีน้ำตาล.มันไม่ใช่จุดหมายของเราแต่มันเป็นหนึ่งในบริษัทเหล้าที่ใหญ่ที่สุดชื่อJosuldang.



และฝั่งตรงข้ามเป็นสนามที่มีหม้อมากมายและอาคารสองสามหลังภายใต้แสงแดดอุ่นในหน้าหนาว.



นี่คือ,ใช่แล้ว,สถานที่แรกที่เรามา, Sansawon และ Sansajeongwon (สวนSansa ).ส่วนห้องปฏิบัติการหรือส่วนการผลิตของโรงงานนั้นไม่เปิดให้สาธารณะชน.



ที่ตรงทางเข้าของSansawon,มีป้ายเล็กๆที่แสดงให้คุณเห็นแผนที่ของ Sansawonเพื่อนำทาง.สถานที่นั้นดูค่อนข้างใหญ่.ผมเดาว่าเวลาคงจะผ่านไปรวดเร็วเพียงแค่ชมรอบๆSansajeongwon.



มันยังหนาวอยู่ดังนั้นไปดูด้านในอาคารกันเถอะ.โอ้....แล้วก็นี่คือทางเข้าใช่หรือเปล่า?ไม่มีคนอื่นอีก.เราผิดหวังมาสองสามครั้งดังนั้นเราจึงค่อนข้างกลัว. “อย่าบอกนะว่าวันนี้มันปิด".



แล้วเราก็โล่งใจเมื่อเห็นป้ายที่หน้าประตู.ก็,ผมไม่ได้หวังว่ามันจะเป็นอาคารที่หรูหราแต่ผมนึกว่าอย่างน้อยมันจะมีห้องขายตั๋ว...



บวกกับ,พวกเขาเปิดประตูหลังจากที่เรากดกริ่ง.ผมรู้สึกผมมาที่บ้านเพื่อน....มีป้ายของงานพิเศษที่ล็อบบี้ต้อนรับพวกเรา.ผมไม่เห็นอย่างอื่นแต่ " ชิมฟรี" และ "ตัวอย่าง".ย้าฮู้~~



ตัวอักษรง่ายๆ‘Sul(เหล้า)’ เขียนอยู่ตรงกำแพงด้านหน้า.มันเป็นหนึ่งในภาษาเกาหลีที่หน้าตานั้นเหมาะกับความหมายมาก.Sul~ดื่มเหล้าsulsul(ง่ายๆ).



ที่ชั้นหนึ่งของSansawon, มีพิพิธภัณฑ์โชว์ประวัติศาสตร์ของเหล้า,เครื่องมือที่ใช้ในการทำเหล้าและเทคนิคการผลิต.มันแบ่งออกเป็นแต่ละรูปแบบ.



สิ่งแรกที่คุณจะเห็นคือเครื่องมือที่ใช้สำหรับทำเหล้าเพียงแค่มอง.สิ่งที่ดูเหมือนทรายที่ด้านขวาอาจจะเป็นวัตถุดิบของเหล้าที่เรียกว่ายีส.



มีหม้อใหญ่รูปร่างแปลกๆใช้สำหรับกลั่นน้ำ,เป็นเหล้าอย่างหนึ่งที่ไม่มีสี.



มีห้องเรียนเล็กๆในมุมหนึ่ง.มันใช้เป็นห้องเรียนและห้องครัวที่คุณสามารถดูหนังเกี่ยวกับการทำเหล้าโดยใช้อุปกรณ์เก่า.ผมเดาว่ามันคงจะดีเหมือนกันสำหรับต่างชาติเนื่องจากมีทั้งภาษาจีนหรือญี่ปุ่น.



บวกกับถ้าคุณมาทันเวลา,คุณอาจจะลองทำเหล้าด้วยตัวเองซึ่งมันดูเหมือนเป็นสถานที่ที่ดีที่จะลองกิจกรรมใหม่ๆ.



ด้านหนึ่งของผนังเต็มไปด้วยขั้นตอนต่างๆและลำดับของทุกๆอย่างๆ.แต่คำพูดนั้นยากกว่าที่ผมคาดไว้.Deotsul, Sulmil, Jaegang…ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย....



แต่ไม่ว่าใครว่ายังไง,เหล้านั้นดีกว่าเมื่อคุณให้คนอื่นทำแล้วคุณดื่มมันบนพื้นกับขนมอยู่เต็มและดีกว่าทำด้วยตัวคุณเอง~!!



บวกกับ,เหมือนกับเหล้าแต่ละอย่างมีรสและกลิ่นที่ต่างกัน,คุณต้องใช้ถ้วยคนละถ้วย.ดังนั้นเมื่อมันเป็นMakgeolli, คุณต้องดื่มจากถ้วยใหญ่ๆนี้.



มีประโยคสองสามประโยคเกี่ยวกับเรื่องเหล้าบนกำแพงสีขาวด้านนอกของห้องวิดิโอตามวรรณกรรม.มันดูเหมือนว่าแต่ละอันนั้นเหมาะกัน.และมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมน่าจะดื่มได้แล้ว.



ผมจะดื่มเหล้าถ้ามันเป็นตอนกลางคืนแต่เนื่องจากมันเป็นตอนเช้า...ผมจึงรวบรวมสติและดูนิทรรศการต่อไป.



สิ่งที่เราพบส่วนใหญ่มาจากปลายยุคJoseon หรือยุคเข้าครอบครองของญี่ปุ่น,ไม่มีซักอันที่มาจากยุคเก่ามากๆเหมือนกับที่พิพิธภัณฑ์อื่น.



พวกมันเคยใช้จนถึงเมื่อหลายสิบปีก่อน.นั่นทำไมรู้สึกคุ้นเคยจากของพวกนั้น?ผมแน่นอนรู้สึกว่าเหมือนเห็นขวดแบบนั้นที่ไหนมาก่อนที่สร้างขึ้นในสมัยยุคครอบครองของญี่ปุ่น.



ที่ด้านหนึ่งของผนัง,มีแผนที่สำหรับเหล้าทางใต้ดั้งเดิมของเกาหลี.ผ่านไปแค่สองสามชนิดแต่ผมลองน้อยกว่าที่ผมคาดไว้...ว้าว ผมเปลี่ยนแล้วใช่มั้ย(?)!



ไม่เพียงแต่แค่บรรพบุรุษของเรา,แต่วัฒนธรรมทั้งฝั่งตะวันออกคิดว่าเหล้านั้นเป็น "สไตล์".ซึ่งคุณไม่สามารถที่จะพูดถึง"รสชาติของศิลปะ"โดยไม่พูดถึงเหล้า.



ตู้โชว์สองสามตู้เต็มไปด้วยแก้วในรูปร่างและสีต่างๆ.เขาว่ากันว่าชื่อและธรรมชาตินั้นส่วนมากเข้ากันได้ดี,ซึ่งหมายถึงรสของเหล้าแต่ละชนิดก็ขึ้นอยู่กับชนิดของแก้วด้วย,และมันทำให้ผมสงสัยว่าแต่ละอันนำเสนอรสชาติของศิลปะได้ยังไงด้วย.



อันนี้ไม่เหมือนมาจากเกาหลีหรือประเทศอื่นแถวๆเกาหลี.ผมเดาว่าขวดรูปร่างแปลกๆนี้มาจากประเทศแถบอาราบิคแต่ผมไม่รู้ว่าประเทศไหน.



มีขวดเหล้าอื่นที่ดูแปลกแต่ไม่มีคำอธิบาย,ซึ่งมันน่าเสียดายนิดหน่อย.



แล้วผมก็นึกได้บางอย่าง.ทุกอย่างที่มีคำอธิบายก็ต้องเป็นอย่างที่สำคัญกว่าใช่มั้ย?แล้วผมก็สังเกตุเห็นโต๊ะเครื่องดื่ม,ขนมและแก้วด้านใน.



มันบอกว่าโต๊ะและแก้วนั้นถูกสร้างจากไม้ที่มีอายุกว่าสองร้อยปีโดยฟ้าผ่า.ต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่าจะถือว่าศักดิ์สิทธ์นานมาแล้ว.นั่นอาจจะทำไมมันถึงกลายเป็นโต๊ะและแก้วที่พิเศษ.



มีสิ่งที่สำคัญหลายอย่างในการทำเหล้าแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือน้ำ.อย่างสุดท้าย,พวกเขาอธิบายชาที่ปกติและชาชนิดต่างๆ,ซึ่งเป็นรสชาติของศิลปะที่ทำจากส่วนผสมเดียวกัน,ทำให้เรานึกถึงว่าเราต้องมีความสุขกับเหล้าแต่ถ้วยจะต้องไม่เต็มเกินไป.



ตรงกลางของห้องจัดแสดง,มีรูปปั้นขนาดใหญ่ที่หมุนช้าๆไปรอบๆ.ตุ๊กตาตัวเล็กๆแสดงถึงวิธีการทำเหล้า.แต่มันไม่ง่ายที่จะเข้าใจเพียงแค่ดูมัน.



ถ้าคุณต้องการที่จะฟังเรื่องราวทั้งหมด,คุณต้องดูรอบๆนิทรรศการอื่นๆและย้ายเข้าไปด้านในตามเสียงที่ออกมาตามคำอธิบายในแต่ละส่วน.



ที่ตรงสุดห้อง,มีเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าๆรูปร่างต่างๆเรียงเป็นแถว.มันเป็นถาดเก่าเรียกว่าถาดไม้สำหรับข้าว.เราสามารถที่จะมองเห็นเช็นส์ถึงความงามของบรรพบุรุษจากชิ้นงานศิลปะที่สร้างขึ้นมา.มากกว่านั้น,มีตู้เย็นเก่าๆทำจากไม้,ซึ่งมันแปลก,ดังนั้นคุณไม่ควรที่จะพลาดอะไรไป.



นี่นำไปสู่ชั้นล่าง.เหล้าที่มีชื่อเสียงสองสามขวดถูกแขวนไว้บนผนังกับมือโลหะของผู้มีชื่อเสียงผู้ซึ่งอยู่ในโฆษณาเหล้าที่ยังขายอยู่.เท่าที่ผมคิดได้คือมือนั้นเล็กกว่าที่ผมคาดไว้แต่ผมว่าพวกเขาใช้พื้นที่ได้ดี.



สิ่งแรกที่คุณเห็นด้านล่างคือบาร์.ที่บาร์สี่เหลี่ยมที่เปิดได้ทุกทาง,มีเหล้าชนิดต่างๆ.และคุณก็ลองได้ทุกอย่าง.ฮ่า ฮ่า~



ก็,เราต้องดูให้เสร็จก่อนชิม.ไม่ไกลจากบันได,มีเหล้าดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงในเกาหลีกับคำอธิบาย.ได้เห็นมันจัดแสดงแบบนี้,มีอีกหลายอย่างมากกว่าที่ผมคาดไว้.



และคุณก็พลาดขนมไม่ได้เมื่อคุณดื่ม.มีโต๊ะขนมกับเหล้าที่เสริฟควบคู่ไปกับโต๊ะที่เหมือนสำหรับผู้นำ.และพวกมันก็ดูสวยมากและทำให้ผมน้ำลายไหล.



ผมดื่มเหล้ามาเป็นเวลานานแต่ผมไม่เคยได้ยินว่าขนมจะแตกต่างไปขึ้นอยู่กับเหล้าที่นี่.มันต้องขนมชนิดที่ต่างกันเพื่อให้เข้ากันกับชนิดของเหล้า,ไม่ใช่แค่ความต้องการส่วนตัว,เมื่อนานมาแล้ว.



เมื่อเราหยุดน้ำลายไหลและเดินออกมา,เราเห็นหม้อเล็กมากมายอยู่ในแก้ว.มันเป็นตู้เย็นที่จะกลั่นเหล้าที่ใสและแรงที่สุดที่นี่.



ที่นี่ไม่เพียงแค่อธิบายความหมายทั่วๆไปและขั้นตอนของเหล้าแต่ยังจัดแสดงแล้วก็ขายเหล้าด้วย.



ผมสามารถเห็นความคล้ายคลึงของเหล้าที่ได้รับความนิยมเช่นDaepo และSansachun.พวกนี้เหมือนกับเหล้ายาที่มีกลิ่นของบาสมุนไพร.ถ้าคุณดูรอบๆ,มีขวดเหล้าสวยๆรวมถึงMakgeolli.



เมื่อคุณเกือบที่จะชมเสร็จ,คุณก็จะเห็นสถานที่สำหรับใส่ตั๋ว.ผมไม่รู้ว่าค่าเข้านั้นสำหรับชิมหรือดูแต่เมื่อคุณจ่าย,คุณจะได้ถ้วยสวยๆและขวดเหล้าเล็กๆ.เย้~!!



ตอนนี้เมื่อไฮไลท์ของที่นี่เริ่มขึ้น.เรายืนอยู่ใกล้ๆบาร์และเริ่มชิมเหล้า.มีเหล้าอยู่หลายชนิดแม้ว่าคุณจะลองแค่ชนิดละแก้ว,คุณก็ควรระวังไว้.



อย่างแรกที่ผมเห็นคือเหล้าที่เก็บไว้ในตู้ทำความร้อน.ส่วนใหญ่เป็นเหล้ายา.และเหล้าดิบ,ส่วนของนิทรรศการ,ก็ได้ถูกเก็บไว้ที่นี่.



และเหล้าแดงที่มีชื่อว่าCheondaehongju ก็อยู่ในถังน้ำแข็ง.เหล้าดั้งเดิมเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ300ปีก่อนตามจากหนังสือชื่อImwonsipyukji(林園十六志) และมันก็เข้าได้ดีกับปลาย่างและเนื้อ.



มีเหล้าหลายชนิดที่ทำจากผลไม้ต่างๆ.อันที่ผมชอบมากที่สุดคือ"เหล้าแพร์"ที่คุณสามารถนึกถึงรสชาติได้เพียงแค่ได้ยินชื่อมัน.



มันเป็นเหล้า 19.5 ดีกรี,ซึ่งค่อนข้างสูง,แต่ผมดื่มแค่หนึ่งแก้วเพราะอากาศที่เย็นและความหนาว.ผมสามารถที่จะรู้สึกถึงกลิ่นนุ่มๆของแพร์และรสหวานๆแต่มันก็ยังเป็นเหล้าอยู่ดี~



นอกจากเหล้ายา,ยังมีMakgeolli ที่มุมหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันว่าไวน์ข้าว.แปลกที่ว่ามันเป็นสีชมพูอ่อนๆเนื่องจากมันมีบลูเบอรี่ผสมอยู่.



Makgeolliควรที่จะเสริฟในขวดและถ้วยใหญ่ๆแบบนี้.....ผมอยากที่จะดื่มมันจะแย่แล้ว.



ผมไม่มีทางเลือกแต่ลองชิมในถ้วยแบบที่มีให้และมันก็ไม่แย่ที่จะเห็นสีชมพูอ่อนในแก้วใส.



ในหมู่เหล้าต่างๆที่ไว้สำหรับชิม.ผมชอบBingtanbok นี้มากที่สุด.ที่ขวดบอกว่ามันคือไวน์สตอรเบอรี่คาร์โบเนทหมักที่อุณหภูมิต่,ไวน์ผลไม้ชนิดหนึ่ง.ผมควรที่จะบอกว่ามันเป็นไวน์ที่ค่อนข้างหวานใช่มั้ย?ผมพนันว่าผู้หญิงจะรักมัน.



มันเป็นตัวอย่างแต่เมื่อตอนที่ผมเกือบจะเบื่อ,ผมก็เจอโต๊ะขนมที่ทางด้านขวา.



มันไม่ใช่การจัดเลี้ยงหรูแต่มันมีขนมสองสามอย่างประกอบด้วยขนมเผ็ดและกรอบ.โดยเฉพาะขนมอันนี้อร่อยมาก.



ซอสนั้นหวานและเปรี้ยวที่คุณสามารถเอาขนมปังจุ่ม.แต่คุณต้องระวังที่ว่าขนมเหล่านี้ทำจากSuljjigaemi,ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหล้า.ดังนั้นคุณอาจจะกินขนมเหล้าหลังจากที่ดื่มเหล้า.



ผมปิดกล้องไป,ผมเดินไปรอบๆดื่มอึกสองอึก,ผมรู้สึกเหมือนเริ่มเมาแต่ผมคิดว่ามันทำให้ผมหายหนาว.



เราออกจากห้องด้วยแก้มแดงๆและเดินตามทางที่เชื่อมไปยังด้านนอก.มีเครื่องมือและคำอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการทำเหล้าทั้งสองข้างทางเดิน.



ผมไม่รู้ว่ามันยังทำงานได้มั้ยเนื่องจากป้ายบอกว่า "ระวังไหม้",อุปกรณ์รูปร่างแปลกๆนี้จะต้องยังใช้ได้อยู่.



คุณไม่ควรที่จะพลาดสิ่งเหล่านี้หลังชิมเพราะคุณจะพลาดส่วนสำคัญของนิทรรศการเนื่องจากมีเครื่องมือและคำอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนและวิธีที่คุณไม่สามารถเห็นในห้องจัดแสดง.บวกกับคุณสามารถที่จะดูเครื่องมือได้ใกล้ๆที่มันได้ถูกใช้ที่นี่จริงๆ.



ตรงสุดทางเดิน,มีโปสเตอร์ที่น่าสนใจแขวนอยู่บนฝาผนังสำหรับคนรุ่นใหม่และสังคมใหม่ๆแทนที่จะเป็นมรดกจากโบราณ.



มันยังบอกว่ารายการทีวีชื่อดัง Infinite Challengeได้มาถ่ายที่นี่.ผมดีใจที่ได้เห็นรูปถ่ายของ Yu Jae-seok, Jeong Hyeong-donและคนอื่นๆ.



หลังจากทัวร์มานานที่ Sansawon,เรามุ่งหน้าไปยังจุดหมายอื่น, Sansajeongwon (สวนSansa).พื้นที่ Sansajeongwonยังถูกปกคลุมด้วยหิมะเป็นเวลาสองสามวัน.



ที่มุมหนึ่งของสวน,มีเครื่องมือเก่าๆและใหญ่ที่ดูเหมือนtobe ที่ใช้ในหนังแต่เราไม่รู้จักน่าจะเป็นเพราะมันอยู่ด้านนอกและไม่ได้จัดเตรียมไว้.



มันเหมือนถูกทิ้งไว้ภายใต้ฝุ่นสีขาวแต่มันจะต้องเคยมีเด็กที่ทำงานดีดีทุกวันภายใต้สิ่งก่อสร้างของหนึ่งในช่างไม้ใหญ่.



ทุกๆอย่างมีความหมายของมันแต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือวงกตของหม้อที่เรียงเป็นแถว,Sewollang.



ที่นี่ที่มีหม้อใหญ่ๆเท่าคนกว่า500หม้อเรียงอยู่เหมือนเขาวงกตนไม่เพียงดึงดูดเพียงพอที่จะดึงความสนใจจากนักท่องเที่ยวแต่ยังเป็นตัวแทนของSansawon.



Sewollangถูกสร้างโดยไม่มีกำแพงโดยใช้ต้นสน88ต้นตามHaeinsa Beopgye-do และหม้อก็เรียงอยู่ในทุกๆมุมซึ่งดูน่าสนใจ.



หม้อใหญ่มีความหมายของความงามของสิ่งก่อสร้างและสิ่งที่น่าประหลาดใจหรือเหล้าที่อยู่ด้านในหม้อ.



บวกกับหลายๆอย่างที่ซ่อนอยู่ตามมุมของเขาวงกตนี้ในรูปแบบต่างๆ.และเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาใกล้,มันก็จะแสดงธีมและคำอธิบายโดยอัตโนมัต.



เขาวงกตนี้จริงๆแล้วเป็นทางที่เชื่อมกับทางเข้าและทางออกของนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะได้เดินตามทาง.ดังนั้นถ้าคุณเดินตามหม้อจากทางเข้า,คุณก็จะได้ดูรอบๆสถานที่.



หม้อเป็นร้อยทั้งหมดเป็นสีน้ำตาลแต่มีอันเดียวที่เป็นสีขาวตรงกลาง.ด้านนอกหม้อใหญ่อันนั้น,มีข้อความมากมายเขียนไว้โโยผู้คนที่เคยมาที่นี่.



ระฆังบนหัวของพวกเรากำลังแกว่งโดยลมหนาวตามด้วยรูปปั้นปลาทำให้ภาพนั้นดูงดงาม.



ถ้าคุณเดินตามทางเขาวงกต,คุณก็จะมาถึงตรงกลาง.มีโต๊ะกลมๆตรงกลางที่ผมไม่รู้ว่ามีไว้ทำไม.แต่ส่วนล่างดูแปลกๆ.



ถ้าคุณดูใกล้ๆอาจจะคิดว่ามันเป็นอิฐรูปร่างแปลกๆ,ผิวหน้านั้นแปลกจากกำแพงทั่วไปซึ่งทำจากขวดสีดำคว่ำอยู่บนขวดพลาสติก.พวกนี้จะต้องเป็นขวดเหล้าใช่มั้ย?



เสาไม้สามต้นที่ด้านหลังเพราะว่าต้องการเลียนแบบลำน้ำ(川) ตามข้อสันนิษฐานของภูมิประเทศ.



ถ้าคุณผ่านเสาทั้งสามที่ดูเหมือนตัวอักษร,คุณก็จะเห็นสวนใหญ่ๆและอาคารแบบเกาหลี.อาคารสองชั้นเป็นอาคารรูปแบบเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้.



ผมไม่รู้ว่ามีไว้ทำไมแต่โต๊ะด้านในดูเหมือนว่าที่นี่เปิดสำหรับกิจกรรมแก่สาธารณะชน.แต่มันมีล็อคเกอร์ใหญ่ๆเมื่อตอนที่ผมไป.



แล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังศาลาสองชั้นเรียกว่าUgokru ที่เปิดให้สาธารณะชนตลอดเวลา.ผมไม่รู้ว่าถ้ามันแข็งหรือน้ำหนักผมเยอะเกินไปแต่ไม้นั้นทำเสียงเลาที่ผมเดิน.



แต่ทันทีที่ผมมองข้างล่างที่สวนด้านหน้า,ผมก็สามารถเห็นวิวชัดๆของภูเขา Unakตรงหน้า.วิวที่นี่เมื่อตอนมีหมอกปกคลุมภูเขา Unak,หนึ่งในห้ายอดเขาของ Gyeonggi-do, นั้นเป็นที่รู้กันว่าสวยที่สุด.



มีอาคารชื่อว่าJaseongjae ที่สร้างตาม Nakseonjaeของพระราชวัง Changdeokgung.รู้กันว่าอาหารและเหล้าที่หมักกับ with suljigemi(เค้กไวน์ข้าว)ที่ใต้ดินแต่มันปิดดังนั้นผมจึงไม่สามารถที่จะดูข้างในได้.



ที่ทางขวาของศาลา,มี Yusanggoksuที่มีรูปร่างคล้ายกับศาลาPoseokjeong ใน Gyeongju ปกคลุมไปด้วยหิมะแทนที่จะเป็นน้ำ.คุณต้องแต่งกลอนเมื่อตอนที่คุณออกไปล่องลำน้ำกับเหล้าที่ตรงทางเข้าจนจบ,ซึ่งมันใช้เวลาประมาณ1นาที.มันเป็นไปได้มั้ย?



ที่ด้านขวาตรงหน้าศาลา,มีอาคารชื่อChuiseongak ตามบ่อน้ำ.ที่นี่,คุณสามารถดื่มชา,เหล้าภายใต้ลมที่สดชื่นขณะที่คุณดูวิวเมื่อคุณเปิดหน้าต่างที่สร้างเลียนแบบศาลา Soswaewon Gwangpunggak,สวนโบราณในDamyang ที่เราเคยไปครั้งหนึ่ง.



อาคารที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวที่ฝั่งตรงข้ามเรียกว่าBuandang, เป็นที่เก็บของของคนรวยใน Buan แห่ง Jeollabukdoที่ย้ายมา.รูปเก่า,ยกเว้นชิ้นส่วนที่ซ่อมแซม,คงอยู่ตั้งแต่สมัยปี1877, ซึ่งหมายถึงอายุ130ปี,ที่ที่การกลั่นแบบใหม่และบทความที่Makgeolli บริวเวอรี่เป็นเจ้าของได้ถูกจัดแสดงไว้.



และมีต้น 12 Mayได้ถูกปลูกไว้200ปีซึ่งมันได้ถูกตั้งชื่อตาม.ถ้าอากาศอุ่นขึ้น,มันก็จะเป็นสถานที่ที่ดีในการพักผ่อนไม่เพียงแค่ชมวิว..


มีหลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจในเหล้าของเกาหลีตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว.โดยเฉพาะ Makgeolliก็เป็นที่นิยมโดยคนหนุ่มสาว.ถ้าคุณมีเพื่อนต่างชาติหรือถ้าคุณมีโอกาสไปที่Pocheon,อย่าเกรงที่จะไปที่Sansawon มีสิ่งต่างๆให้ดูและทำ,และชิมเหล้าเกาหลีโบราณและสนุกกับรสชาติของศิลปะ.





Map


แผนที่ : link

ที่อยู่ : 512, Hwahyeon-ri, Hwahyeon-myeon, Pocheon-si, Gyeonggi-do

โทรศัพท์ : 031-531-9300

เวลาทำการ: 08:30~17:30

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 2,000วอน/ เด็กฟรี

เว็บไซต์ : website



抱川, 南楊州, 山査園, サンサウォン, 포천, 산사원, 술, 산사정원, 정원, 공원, 산책, 전시장, 안주, 술빚기, 도구, 항아리, Pocheon, Sansawon, Alcohol, Sansajeongwon, SansaGarden, Garden, Park, Walk, Exhibitionroom, Snacks, makealcohol, Tool, Jar, pot, 酒, サンサ庭園, 庭園, 公園, 散歩, 展示場, おつまみ, 酒醸し, 道具, 壺, 山楂园, 山楂园庭园, 庭园, 公园, 散步, 展览场, 就, 酒菜, 酿酒, 工具, 坛子, ฟอร์จูน, Sansaหยวน, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, Sansaสวน, สนามหญ้า, เดิน, เครื่องดื่มศูนย์แสดงสินค้า, อาหารว่าง, เครื่องดื่มชง, เครื่องมือ, ขวด
One line comment(0) 
PDF
Bookmark
E-mail
0bytes / 200bytes
View list