Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
5232 | 19921170

Jecheon #1 - เอริมจี, บัคดัลแจ - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
最後修改 : 2017/04/04

旅行地区 : South Korea
 | 点击数 : 468553
https://blog.lookandwalk.com/zh/blog/mazinguide/1532/trackback

Natural Healing City Full of Healthy Atmosphere, Jecheon

ในครั้งนี้ , ผมมีสถานที่ ที่สวยงามที่หนึ่ง อยากแนะนำให้คุณได้รู้จัก เพื่อเป็นการ เรียกน้ำย่อย คือ ทะเลสาบชองพุงโฮในอำเภอ เจชอน .อำเภอเจชอน เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ ในจังหวัดชุงชองเหนือ ทีเต็มไปด้วย ภูเขาสูงมากมาย อาทิภูเขาวอลรักภูเขาโซแบกภูเขาชีอัก ที่อยู่ติด จังหวัด คังวอน และ จังหวัด คิยองซัน ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงกันจากตัวอย่าง เป็นเมืองที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองสำคญของการจราจร. ทุกคนควรจะหาโอกาศลองไปเที่ยวกันดูนะครับ เมืองเจชอน ผมว่า จัดทริปสัก 1คืน 2วัน ทำไมลองไปเที่ยวกันดูสิครับ?



อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสุดยอดของ ประเทศเกาหลี เขื่อนเก็บน้ำ เอริมจี 의림지


เขื่อนเก็บน้ำ เอริมจีเป็น เขื่อนที่มีประวัติยาวนานมากตั้งแต่สมัยก่อน ของประเทศเกาหลี ซึ่งตั่งอยู่ที่ บิยอคคลเจของจังหวัด คิมเจ และ ซูซัน ในอำเภอ มิลยาง .นี้ถือเป็นที่สุด.ซึ่งเขื่อนนี้ มีความยาว ของเส้นรอบวง 1.8 กิโลเมตร และสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 500.000 สูงสุดถึง 13000000 . ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำได้อย่างมหาศาล



กลับมาที่ เอริมจี ก็เป็นอีกหนึ่งซึ่งจะเป็นที่สะดุดตา คือ เด็กชายบัคดัลและเด็กหญิงกึมบง เป็น มาสคอต ยืนตอนรับเราอยู่.

โดยรูปปั้นทั้งสองก็ยังมีเรื่องเล่า และบทเพลง เกี่ยวกับความรักชื่อเพลง' น้ำตา บัคดัลเจ'ในเนื้อเพลงจะมีการเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของทั้งสอง และ ผมจะเล่าเรื่องนี้เพิ่มอีกให้ผุ้อ่านทั้งหลายในครั้งต่อไป แต่ตอนนี้ ผมต้องขอตัวไปเดินเล่นก่อนนะครับ

อีกเรื่องนึง,มีใครรู้บ้างมั้ยว่าทำไมภาษาเกาหลีถึงเรียก “ ชุงชองโด" ว่า“โฮซอ" ที่นี้เรียกว่า"โฮซอ"

มันเป็นชื่อที่เรียกทะเลสาบที่อยู่ทางทิศตะวันตก อย่างเขื่อนเอริมจี ก็เรียกว่า โฮซุ ก็มีความหมายเช่นเดียวกัน

เช่นเดียวกับชื่อเจชอน ที่ สมัยก่อน เรียกว่า แนเช(奈堤) เป็นชื่อ สมัยก่อนของเจชอน โดยมีความหมาย ว่าเป็น“เขื่อนขนาดใหญ่"ก็เลยใช้ชื่อ เจชอน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.



ถ้าคุณได้ลองเดินดูบนทางถนนเอริจีคุณจะเห็นว่ายังมีสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก.บนทางเดินที่ไม่ใหญ่มาก.มันเหมือนกับ สนามเด็กเล่น ที่ วอลมีโด ในจังหวัดอินชอน ที่เต็มไปด้วยเด็กๆที่กำลังมีความสุขกับการเล่น กับเพื่อนๆ ข้างในสวนสาธารณะเต้มไปด้วยเครื่องเล่นไวกิ้ง บอมพอเกอร์ หรือ รถบัมพ์ และม้าหมุน ที่มีระบบความปลอดภัย ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เป็นอย่างดี


ตรงกลางของทะเลสาบ ก็ยังมีเกาะขนาด กลางๆ . ซึ่งมันเป็น เกาะที่ถูกสร้างขึ้นบน ทะเลสาบ เยี่ยงงานศิลปะถ้า ไม่มีเกาะตรงกลาง ทะเลสาบ มันจะดูธรรมดาเกินไป .นี้แหละ เกาะที่อาทที่สุดล่ะครับ



ถึงมันจะไม่ใช่เกาะใหญ่ ขนาดเทียบเท่ากับของจริง. ทางวัดจากระยะทางการเดินที่อยู่ติดกับทะเลสาบก็ราว 1.8กิโลเมตร จะใช้เวลาโดยการเดิน 30นาทีโดยประมาณ.มันจะไม่เป็นปัญหา ถึงแม้ว่าคุณจะ นั่งรถเข็น หรือมีรถเข็นเด็ก เนื่องจากมีทาง และ บันได ขึ้นเนิน หรือลงเนินสะดวกครับ.


เราเดินไปตามระเบียงไม้และข้ามสะพานสายรุ้ง .



เมื่อเราอยู่ตรงนั้น .จะมี เป็นสายน้ำแรงดัน ทั้งต่ำทั้งสูง โพยพุ่ง ขึ้นมา และมีท่อทางน้ำ ที่เป็นเหมือนบ่อธาร จนสามารถเห็นทราย .แต่ยังไงก็ ที่นี่ก็คือ ทะเลสาบขนาดใหญ่ เลยทีเดียว



และอีกอย่างตรงทางเดิน รอบๆ ทะเลสาบ คุณจะพบถ้ำที่มีหินที่ไม่ซ้ำกัน . ซึ่งเป็นน้ำตกที่มนุษย์สร้างขึ้นสร้างขึ้นโดยใช้หินที่เติบโตตามธรรมชาติเป็นลักษณะน้ำไหลผ่าน ช่วยล่อเลี้ยง หิน แต่ตอนนี้มันไม่มีน้ำตกไหลมอีกแล้ว



เมือคุณเดินออกจากถ้ำ .คุณจะพบเจอร้าน กาแฟ ขนาดเล็ก ชื่อเรียกว่า Some day in 05.2007..ภาพที่ประทับใจที่เห็น.ที่ร้าน จะมีเก้าอี้ นักเรียนสมัยก่อนเก่าๆ ให้ความรุ้สึกเหมือน กับไปเป็นเด็ก . อยากรู้จังว่า มีอะไรในวันที่ 05.2007 ?เจ้าของร้าน ก็ถามไม่ได้ด้วยสิ สงสัยจัง !


ก่อนจะจบทริป ที่ เอริมจี, มีจุดที่ต้องเชื่อมต่อน้ำส่งลงไปในหุบเขาและพื้นที่อื่น ๆ คือเมื่อน้ำปล่อยพวกนี้จะกลายเป็นน้ำตกผมถือว่า มันเป็นสถานที่ ที่ดี เหมือนจะเป็นความลึก 4-50 เมตร แต่ไม่สามารถแสดงมุมมอง ของภาพได้.



ที่นี้ ดูเหมือนว่าจะทีเรือให้เช่าด้วยนะครับ.



รายการวาไรตี้ ของทางช่อง KBS 1คืน2วันหรือภาษาเกาหลี พูดว่า 1บัค 2อิล ก็ไปใช้สถานที่ถ่ายทำมาแล้ว ที่เจชอน .เอริมจี บัคดัลเจ แล้วก็ ประตุ วัฒนธรรม ชองพุงก็ไปมาแล้วทั้งหมด .ผมจะโชว์ให้คุณดูสถานที่แห่งนั้นอีกครั้ง ในทิปต่อไปของผม



ถ้าคุณอยากเช่าเรือ เป็ด ที่นั่งได้ 3คน ในเวลา 30นาที คุณต้องจ่าย 12000วอน .แต่ถ้าเป็นเรือพาย นั่งได้3คน เช่นกัน ใช้วลาประมาณ 1ชั่วโมง คุณต้องจ่าย 10000วอนไม่แพงนะครับ



ถ้าใครได้นั่ง เรือเป็ดเที่ยว ในทะเลสาป. มันเป็นความรู้สึกที่โรแมนติกเลยทีเดียว .หรือไม่ใช่หรอ.


เมื่อคุณนั่งไปได้ครึ่งทาง .คุณจะได้เจอกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และ สถานที่พักเบรค นั่งใต้ต้นไม้ ก่อนที่เรา จะเริ่ม นั่งเรือเล่นไปกันอีก




ในวันนี้ คุณก็สามารถทำกสรเกษตร โดยปาศจากน้ำ .แต่สมัยก่อน น้ำนี้ มีความหมาย ต่อครอบครัว ทั้งกิน ทั้งใช้ ไม่มีน้ำไม่ได้ .เอริมจีก็เป็น 1ใน10ของสถานที่สวยงาม ของเจชอน ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง แล้วท้องฟ้าสดใสและสายน้ำที่มีแสงพระอาทิตย์ ตกสะท้อนกับทะลสาบ



พูดถึงตอน ขณะนั่งอยู่บนม้านั่งข้างถนน ที่จะดื่มกาแฟ และ ชมภาพสะท้อนของต้นสนที่อยู่ในน้ำ .ผมรุ้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่มีรูปภาพที่จะสามารถให้คุณรู้ได้ ว่าคุณรู้สึกอย่างไร. ภาพสะท้อนในน้ำ, ลมพัด เสียงนก ร้องเพลง สลับกับ คลื่นเล็กของสายน้ำ ที่อ่อนโยน. ช่างเป็นความรู้สึกที่เดินอยู่


ทางเดิน ตรงทะเลสาบ 200-300 ต้นสนและต้นวิลโลว์กำลังยืนอยู่หนาแน่น ผมรู้สึกชื่นชมบรรพบุรุษของประเทศนี้จิงๆสำหรับการรักษาต้นไม้ที่ดีเหล่านี้ บนเส้นทางสำหรับหลายร้อยปีที่ผ่านมา ไม่ได้ทำลายพวกเขาเลย


ที่เจชอนผมว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุด,? ถ้าไม่รีบที่จะไปแนะนำสถานที่อื่นอีก .ผมคงยังจะขอชิว กับวิวทิวทัศน์ที่นี้ก่อน.



โดยเส้นทางการเดิน ,เราจะพบเห็นศาลากลางแจ้ง ที่นี้เรียกกันว่า ศาลายองโฮจอง(暎湖亭)ศาลาแห่งนี้ก่อสร้างโดยนาย ลี จิบ-กยอง ในปี คริสธศักราช 1807( ครบรอบ 7 ปี ของ พระเจ้า ซุนโจ ) ซึ่งถูกทำลาย ในระหว่าง สงครามเกาหลีและได้มีการบูรณะ โดย ลุกหลาน ของ ลี บูม-วู . เมื่อคุณได้มองขึ้นไปสังเกตุ ที่เสาหิน ที่ตั้งตะง่าน คุณจะรู้สึกจิตวิญญาณของกองทัพทหาร ที่ปกป้องบ้านเมือง Jecheon ที่มันเป็นปัญหา เรื่องระดับชาติ ที่ต่อต้านการล่าอาณานิคมของญี่ปุ่นเกาหลี.



ถึงฝนจะไม่ตก เพียงแค่นี้ก็ไม่ทำให้น้ำมีระดับลดลง แต่ ที่ทะเลสาบเอริมจี ก็ยังคงความใสสะอาด. เมื่อใดก็ตาม ที่คุณลองเปิดใจกับสถานที่แห่งนี้ คุณจะรู้ว่า มันเป็นสถานที่ มหัศจรรย์ และ สวยงามเพียงใด.


ภายในทะเลสาปขนาดเล็ก แห่งนี้,ผมได้เห็น ผู้คนตกปลา ปลาเล็กปลาน้อย จากทะเลสาบ มันขนาดตัวเท่าแขนผมเลย.ถ้าคุณอยากตกปลา คุณต้องได้รับอนุญาติจาก เจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้นำอุปกรณืเข้าไปได้.ส่วนใหญ่ของปลาที่จับได้นี่คือเสียงเบส ดังนั้นถ้าคุณชอบความรู้สึกนี้ ฉันขอแนะนำให้คุณลองที่นี่อ้อ ! และในช่วงฤดูหนาวทะเลสาปจะกลายเป็นน้ำแข็ง ทุกที่จะมีการขุดหลุมเพื่อให้คุณสามารถสนุกกับการตกปลาน้ำแข็ง และกล่นอาย



ถ้าคุณปรับเปลี่ยน ภูมิทัศน์มุม ขวา ขึ้นลง ,คุณจะได้พบกับวิวที่สวยงาม บนทางแห่งนี้ . ถ้าไม่มี ทะเลสาบเจชอน แห่งนี่คงรกร้างรึปล่าวนะ



เมื่อผมเดินลงออกมาจากถนน , และจะมีโขดหินที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ ไม่ซ้ำ และวางเรียงบนพื้นและเขียนสลักข้อความ “.เป็นจุดควบคุม “ ถัดจากจุดควบคุม .นี้คือจุดสัญลักษณ์ ที่ ได้รับการสำรวจโดย สำนักงานแห่งชาติ.ที่ดินและ จุดนี้ที่คุณสามารถบอกถึง ที่ดิน เขตพื้นที่เกาหลี และ เส้นละติจูดเพื่อแสดงเส้นแวง, ความสูง, ฯลฯ ที่นี้คือพิกัดและสัญญาณหาแผนที่ ที่คุณกำลังใช้โทรศัพท์สมาร์ทและระบบนำทาง


ภายในรอบรอบทะเลสาบ ผมได้เห็นทั้งคู่รัก ครอบครัวที่ปู่เสื่อนั่งพักผ่อน มีเวลาที่ดี .มีทั้งบรรดาเหล่าปลา ที่มีชิวิต ในน้ำ ละบรรดาเด็กๆที่พูดคุยกัน อย่างสนุกสนาน และมีความสุข มันเป็นวันที่อบอุ่นเหลือเกิน.



ข้างๆถนน เรียงรายไปด้วยต้น แอฟพริคอต .ที่เจชอน มีต้น เชอรี่ ปลูกเต็มตามท้องถนน แต่ ดูแล้ว ที่ผมเห็นจะเป็นต้น แอฟพริคอตซะมากกว่า และ ต้นแอฟพริคอต ญี่ปุ่นที่นำมาปลุก. ในสุดท้ายของเดือน มิถุนายน จนเดือน กรกฎาคม ต้นแอฟพริคอต จะผลิใบออกผล ออกสี เหลืองสีแดง สลับกันแล้วผลของมันก็สุขทัยเวลาพอดี



ต่อให้นั่งเงียบๆอยู่ใต้ต้น ถ้าลมพัดมา ก็จะมีผล แอฟพริคอต ตกลงมา ให้ทาน. มันหอมหวาน และอร่อย .คุณจะหาทานแอฟพิคอตจากต้นเล็กๆม่ได้หรอกนะครับ เพราะว่าจะมีการฉีดยาและสารป้องกันโรคของตนไม้ แต่ถ้า ต้นสูงๆ โอเคครับ สามารถ ทานได้ แต่ก็จะมีในบ้าง ที่ ลืม ผมเอง ก็ต้อง เอาน้ำมาล้างผล แอฟพริคอต ก่อนทาน . มันเป็นความรู้สึกที่อร่อยที่ไม่สามารถบรรยายเป็น คำพูดได้เลยครับ.



แต่อย่างใงก็ตามที่ข้างถนนก็สดชื่นไปด้วยกลิ่น ของดอกแดนดิเลี่ยน .ทันทีที่ได้มาถึง คุณก็จะได้สัมผัสว่า ทำไม เอริมจี ถึงได้มีทัศนียภาพ ในเจชอน .หากคุณกำลังจะมีทริป ไปที่เจชอน , ที่นี้ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด.

Map

ที่อยู่ : 214 , โมซัน –ดง , เมืองเจชอน , ชุงชองบุคโด (충청북도 제천시 모산동 241)

เบอร์โทรศัพท์ : 043-651-7101



เสียงครวญ 'บัคดัลแจ ' 박달재


เขาบัคดัลแจ มีคสามสูง 453 เมตร,เป็น เขาที่มีชื่อเสียงใน ชุงชองบุคโด , เขาแห่งนี้ได้มีตำนาน ของผู้ชายคนหนึ่งชื่อ บัคดัล และ ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ กึมบงและก็มีเพลงประจำที่ถูกแต่งขึ้นมา เพื่อ เขานี้ชื่อเพลง เสียงครวญ บัคดัลแจเนินเขานี้เคยเป็นเส้นทางเดียวที่เชื่อมต่อชองจู และ เจชอน อัดแน่นไปด้วยรถยนต์และผู้คน . แต่มันก็กลาย แต่มันก็กลายเป็นที่เงียบสงบนับตั้งแต่การเปิดตัวของ อุโมงค์ บัคดัลแจ ในปี 1997 มันทำให้ สะดวกขึ้น ในการขับขี่


ถ้าจะเดินขึ้นทาง ข้างๆ ของเขา บัคดัลแจ ก็จะเห็น รวงผึ้งรังผึ้ง ที่เกาะรามกัน เป็นรวง .ก็ระวังกันหน่อย นะครับ . แต่เสียงของผึ้ง มันดัง หึ่งๆ แถบจะเข้าไปอยู่ในหูของผม เลยครับ



ใกล้ๆ ผมจะสังเกตุได้ว่า มี รังของผึ้ง อาศัยอยู่ข้างๆพอดี. ผม ดุแล้ว จะเป็น เพราะว่า รอบๆนั้น เต็มไปด้วยดอกไม้ เหล่า ผึ้งทั้งหลาย จึ สามารถที่จะหาน้ำผึ้งในป่า ได้เป็นอย่างดี



ถ้าเราเดินขึ้นไปอีกนิดหน่อย ทางด้านขวา เราก็จะพบกับ ศาลเจ้าใประจำ หมู่บ้าน ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ขอพร ต่อ กึมบง และบัคดัลแจ .ใครที่ผ่านมาตรงนี้ เผื่อเป็นการ ขอพรต่อทั้งสอง.มันเป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน ถ้าวางหิน และตรงที่นี้ ก็จะพบ แต่ความโชคดี . ถ้าคุณโยน 2-3 ก้อนหินบูชาเทพหมู่บ้าน




ป่าไม้ ที่หนาแน่น แถบมองไม่เห็น อะไร นอกจากป้าย สัญลักษณ์. และที่ทางเข้า ได้จารึก ชื่อ กึงบง กับ บัคดัลแจ ไว้ที่แผ่นไม้จันทร์



เมื่อเราได้ขึ้นไปถึงยอดเขาและมองไปที่ ศาลเจ้า เล็กๆ ในหมู่บ้าน และ หินที่เรียงเป็นชั้นๆทางด้านขวา. วางหินทั้ง3ก้อนเรียงเป้น ชั้น แล้ว อธิษฐาน.



ขอพรอีกครั้ง ภายในศาลเจ้า.ถ้าหากคุณ ได้มาเยี่ยมเยี่ยน ที่ เขา บัคดัลแจ แล้ว อย่าลืม ที่จะ ขอพร ที่นี้ .ใครจะไปรู้ พรที่คุณขอไป อาจจะบันดาลพร ให้คุณ สมหวัง ดัง ปรารถนา


ทั้งสองข้างทางของถนน , มีดอกไม้ที่ชื่อดอกแกมัง หรือ ดอกเดซี่ แต่เด็กๆที่เกาหลี เรียกว่าดอกไข่เกาหลีนี้ชั่งเป็นประเทส ที่มีแต่ดอกไม้สวยงาม จริงๆนะครับ.ซึ่งดอกแกมัง หรือเดซี่ ยังมีความหมายว่า ความสมานฉันท์



ในที่สุดเมื่อขึ้นไปข้างบน ของภูเขาบัคดัลแจ, ก็จะเป็นทางเชื่อม เจชอน และชองจุ ที่นั้นคุณไม่ต้องห่วงกังวล เรื่องที่จอดรถเลย มีที่จอดรถฟรีจำนวนมากเลยล่ะครับ



หลังจากที่ได้เปิอดอุโมงค์มา. จำนวนผู้ที่ใช้ถนนสายนี้ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เกี่ยวกับความรัก มีสวนประติมากรรม และ เป็นสวนประติมากรรมไม้ทั้งทางซ้ายและทั้งขวาตามลำดับ



ควรจะขอพรอะไร ต่อ ท่านหยิงกึมบงดีล่ะ?


☞ความรักที่ไม่สมปรารถนา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว,ยังมีชายหนุ่มที่ชื่อ บัคดัล ได้มาปีนเขา ที่ภูเขาแห่งนี้ เพื่อไป เมืองฮันยาง (ซึ่งเป็นเมืองหลวง) เพื่อเป็นทางที่จะใช้เดินทาง ไปสอบราชการที่เมือง หลวง ใน พยองดง ,เบคึนดง. ในหมู่บ้าน บัคดัล เป็นคู่รักของกึมบง.และเขาทั้งสองยังจะแต่งงานกัน เมื่อตอนที่บัคดัล กลับมาจาก การสอบราชการเสร็จ.กึมบง ได้ทำ วุ้นโอ้ก เพื่อให้ บัคดัล ห้อยไว้ที่เอว ไว้เอาไปกิน ระหว่างทาง.

หลังจากที่บัคดัลเดินทางไปแล้ว , กึมบง ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอ บัคดัล .เมื่อเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ก็ไม่มีวี่แววของการกลับมาของบัคดัล. เขากลัวว่า การที่เขาล้มเหลว ในการสอบ .กว่าจะกลับมาก็สายไปเสียแล้ว กึมบงได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าที่เข้า จะกลับมา ก่อน3 วัน หลังจากนั้น บัคดัล เขาก็ไม่กินข้าว และร้องไห้ ด้วยความเสียใจ .

ในเวลานี้ เขาก็ทำได้แค่มองไปที่เขาลูกนั้น และ มองเห็นแต่หน้ากึมบง เต้นรำ และเดิน อยู่ในเขา .บัคดัล ได้พยายามจับเธอ แต่ก็ไม่สามารถจับเธอไว้ได้ .เขาพยายามที่อยากจะเอื้อมือกอด หญิงอันเป็นที่รัก ก็สัมผัสได้แค่อากาศ .แล้วเขา ก็ได้ตกหน้าผาเสียชีวิต นี้ก็เลยเป็น ชื่อเรียกภูเขานี้ว่า บัคดัลแจBakdaljae


แล้วในสวนแห่งนี้ ,ยังมีสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ที่เด็กชอบและรัก. กระต่ายน้อย ที่สุดแสนจะน่ารัก. จะมีผักอยู่ตามพื้น อาจจะป้อนมันก็ได้นะ , กระต่ายทุกตัว จะเข้ามาใกล้ๆตัวคุณ เพื่อมากินผักเหล่านั้น มันเป็นวิธีที่ ที่น่ารัก เลยทีเดียว



ลองมองมันกำลัง เขย่งเท้า รอหาอาหาร อยู่ในรั่ว สิ มันน่ารักมากเลย.^^*



ที่นี่ มีทั้ง แม่ไก่ และลูกไก่. พวกมันดูแข็งแรง สุขภาพดี และถ้าได้ ให้อาหารละก็ เด็กๆ คงจะสนุก และ รักมันมากเลยทีเดียว , ผมเชื่ออย่างนั้น



บนเนินเขา , ผมได้มองเห็น เมือง ชองจู . ถ้าผมได้เดินลงไปตามถนน, ผมคงไปถึง แบคอุนมยอน .. เด็กสาวกึมบง อาศัย อยู่ที่ไหน



ผึ้งจากรังที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ตอนที่ผม นั่งอยู่บนกองดอก ไฮเดรนเยีย บนถนนใบด้านนอกกว้างใบปลอมและใบเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงกลาง ผึ้งไม่พลาดที่จะเข้าไปที่จุดเล็ก ๆ ของดอกไม้ และเกาะดูดเกษรดอกไม้ อยู่ในนั้น. แคครั้งเดียวก็สามารถ ดูดเกษร ออกจากช่อดอกไม้ แล้วช่อ ก็ไม่ดีแล้ว?



ความรักมันเป็นเรื่องที่แสนเศร้า ดังนั้น ดังที่กล่าวว่ามีประติมากรรม ในสวนสาธารณะมากมาย ที่มีรูปแบบและเกี่ยวข้องเรื่องราวของความรักของพวกเขา มันเป็นสถานที่ที่ดีในการถ่ายภาพ.



มันคงจะเป็นรูปที่ทำให้ บัคดัล เห็นวิญญาณ ของกึงบง และหลังจากนั้น ก็พยายามวิ่งตามกอดเธอ. หากเป็นเรื่องจริงมันเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้า ความเจ็บปวดจากการสูญเสียความรักครั้งแรกเจ็บแม้ในขณะที่เขาหรือเธอยังไม่ตายและฉันไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการความเจ็บปวดได้



ถ้าข้ามถนนไป ก็จะมี สวนสาธารณะ อื่นอีก โอเค! เราลองไปดูกัน



บัคดัลแจ เป็นไม้สวนประติมากรรม. ต้องทำจากไม้เท่านั้น


ถ้าหาก คุณเดินเข้าไปตามเส้นทางเล็กๆ ในป่า,คุณจะได้มองเห็น ปะติมากรรมไม้สวน ตลอดข้างทาง




เพื่อไว้ให้เป็นที่รำลึก แก่ บัคดัลแจ และ กึมบง , ตลอดข้างทาง และภายใน ได้ถูกตกแต่ง ด้วยปะติมากรรม ที่ล้วนทำจากไม้ทั้งหมด และ ปะติมากรรมเหล่านี้ ล้วนแต่ แสดงถึงความรัก ของทั้งสอง ทั้งการรอคอย และการจากไป โดยมีอารมขันเข้ามาเกี่ยวข้องมันไม่ดีแน่ ถ้า จะแค่มาเที่ยวและดูเฉยๆ ,ควรจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ประวัติความเป็นมา และ มีความเพลิดเพลิน กับงานศิลปะ.




เมื่อกี้บนเนินเขา ,เมื่อเวลาที่เราได้มองจากภาพจากบนเนินเขาลงไปมันช่างเป็นภาพที่สวยงาม ที่วิเศษสุด ดั่งเช่น ชีวิต



ที่นี้ถ้าได้ขึ้นมาดูแล้ว ว่ามีอะไร คุณอาจจะผิดหวังบ้างเล็กน้อย. เราควรได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเกี่ยวบทเนื้อเพลงที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก รวมถึงปะติมากรรม ที่แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ ของความรัก ของพวกเค้าไม่ใช่หรอครับ?ถ้าไม่อย่างนั้น ให้ย้อนนึกถึงไปคำว่า ฮัน (恨)ที่บางบ่องถึงความเป็นคนเกาหลี

Map

ที่อยู่: ถนน สาย 8,1-, เออัมโร , บงยางอึบ , เมืองเจชอน , ชุงชองบุคโด (충청북도 제천시 봉양읍 의암로 1길 8)

เบอร์โทร ติดต่อ : 043-6429398



의림지, 저수지, 의림지파크랜드, 산책, 호수, 인공호수, 제천제1경, 통합기준점, 박달재, 공원, 목각공원, Uirimji, Reservoir, UirimjiParklands, Walk, Lake, Artificial, lake, ThebestsceneryinJecheon, UnifiedControlPoint, Bakdaljae, Park, WoodenSculpture, 義林池, 貯水池, 義林池パークランド, 散歩, 湖, 人工湖, 堤川第1景, 統合基準点, 朴達峠, パクタルチェ, 公園, 木彫り公園, 水库, 義林池乐园, 散步, 堤川第一景, 综合基准点, 朴达岭, 公园, 木雕公园, อ่างเก็บน้ำ, uirimjiแลนด์, เดิน, ทะเลสาบ, ทะเลสาบเทียม, Jecheonแรกเซอร์, จุดอ้างอิงแบบบูรณาการ, bakdaljae, สวนสาธารณะ, แกะสลักไม้₩0
单线意见(2) 
PDF
书签
邮件
0bytes / 200bytes
查看目录