Silla มิลเลเนียม พาร์ค 신라밀레니엄파크
มากว่าครึ่งของพระอาทิตย์ลับหายไปด้านหลังภูเขา,และเวลากลางวันใน Gyeongjuกำลังผ่านไป.แต่ตารางที่แน่นของเรายังมีอยู่.
หอสูงกว่า 80m ของ Hwangnyongsaหอไม้เก้าชั้นที่สร้างขึ้นแถว Bomun ทัวริสท์ คอมเพล็กซ์.อาคารนี้ไม่ใช่ที่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป,มันเป็นสถานที่ฝึกสอนของอุตสาหกรรม Dongukใน Pohang,มันจะดูงดงามเมื่อการซ่อมแซมได้เสร็จลง.แต่ตอนนี้,เราต้องผ่านไปก่อน,เนื่องจากมันยังซ่อมแซมอยู่~.
มิลเลเนียม พาร์ค เป็นคอมเพล็กซ์ที่เป็นสวนสนุกแนวประวัติศาสตร์,ด้วยรูปแบบหลักของสมัยSilla. .มันประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว,ศูนย์การเรียนรู้และโรงแรมแบบเกาหลีLagung.
มันสามารถที่จะเข้าไปในเวลากลางคืนได้ด้วย.เวลาเข้าในตอนกลางคืนคือสี่โมงเย็น.เราเข้ามาตอนหกโมงห้าสิบ.จริงๆแล้ว,เราคิดว่าจะเข้าดีหรือไม่ดี.
ผมนึกว่าเราสามารถที่จะชมรอบๆได้จนถึงอย่างน้อยสองทุ่มในวันหยุด,แต่เขาบอกว่าหลังจากหนึ่งทุ่มเท่านั้นที่สถานที่เล่นคอนเสิร์ทหลักจะเปิด,และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆจะถูกดูแลเพื่อความปลอดภัย.
พนักงานที่ห้องขายตั๋วบอกเราว่าทางที่ดีที่สุดคือเข้าช้าสุดหกโมงเย็นและชมรอบๆ.แต่คอนเสิร์ทนั้นเวลาหนึ่งทุ่ม,ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเข้าไปเพื่อดูคอนเสิร์ท.
น้ำพุสูง 5.6mที่สะท้อนถึงคลื่นแผ่นดินในรูปแบบของสัตว์มงคล ( สมบัติหมายเลข636), ที่พบในสุสานหลวง Michu.เคื่องปั้นดินเผาในรูปของสัตว์มงคลเป็นกาน้ำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตัวเป็นเต่าและมีหัวและหางเป็นมังกร.
“แต่มันไม่มีน้ำออกมาจากน้ำพุหรอ??? อาจจะเป็นเพราะว่ามันดึกไปหรอ?”
ถัดจากเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นรูปสัตว์มงคลเป็นน้ำพุที่มีรูปปั้นหิน12รูปที่สร้างจากแรงบันดาลใจของZa(หนู),Chuk(วัว), In(เสือ), Myo(กระต่าย)…
ทางตรงด้านซ้ายของน้ำพุเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทั้งสี่.แต่พวกมันออกจะแปลกๆ,ทำให้ผมสงสัยว่าทำไมมันอยู่ที่นี่?ชื่อของรูปปั้นคือข้าคอนสแตนตินและคำสั่งแห่งจักรพรรดิมิลาโน.
รูปปั้นที่ทำเป็นรูปของหัวเมดูซ่าในโบสถ์ Basilica Sistine,ปราสาทใต้ดินในอิสตันบูล,ตุรกี.เมื่อผมเห็นสิ่งนี้,ผมหวังจริงๆว่าให้มีรูปปั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับGyeongju,แทนที่จะเป็นรูปปั้นเหล่านี้.
ด้านในมีแบบจำลองเล็กๆของแบกแดด,มันไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจมากนัก,แต่เราไม่มีอย่างอื่นที่จะดูดังนั้นเราจึงดูรอบๆและผ่านไป.
มันหนึ่งทุ่มแล้ว.เราได้ยินเสียงเพลงจากรอบๆสถานที่จัดคอนเสิร์ท,ซึ่งทำให้เรารู้ว่าคอนเสิร์ทเริ่มแล้ว.
อาคารใหญ่เป็นรูปร่างเหมือนกับระฆัง Emaile( ระฆังแห่งกษัตริย์ Seongdeok)ซึ่งอยู่ครอบคอนเสิร์ท.
ด้านหลังระฆังEmaile มีทางเดิน,ทางไปสู่ที่แสดงละคร,แต่เรารู้สึกเศร้าที่เราไม่สามารถเข้าไปได้อีก.
เราจึงจดจ่อกับคอนเสิร์ท,และวิ่งกลับที่นั่ง.
ที่ Sillaมิลเลเนียม พาร์คพวกเขาแสดงโชว์บนหลังม้าและละครเงา,และ‘The Queen’s Tears’ ซึ่งเป็นการแสดงที่ใช้แสงไฟ.
การแสดง ‘The Queen’s Tears’ เริ่มตอนหนึ่งทุ่ม,และเรื่องราวมีพื้นฐานจากราชินี Seonduk.การแสดงนั้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ทที่มีทะเลสาบอยู่ตรงกลาง,และฉากม้าสีแดงทางด้านซ้าย,ฉากปราสาททางด้านขวา.
โดยเฉพาะเด็กๆชอบมากๆเมื่อนักแสดงเต้นและทำท่ากับแสงต่างๆ,ในขณะที่ข้ามทะเลสาบด้วยเรือ.
การแสดงนี้ประกอบด้วยมาตรฐานต่างๆ.มันเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดที่มิลเลเนียม พาร์ค,เช่นเดียวกับโชว์บนหลังม้า.
เมื่อเริ่มมืดขึ้น,วิวนั้นดูลึกลับภายใต้แสงไฟ.ถ้ามีพลุออกมา,มันจะต้องสวยงามมากแน่ๆ,แต่ว่ามันก็ไม่มีเลย.
การแสดงที่ยาว30นาทีจบไมอย่างรวดเร็ว,และนักแสดงที่เล่นเป็นราชินีSeonduk ก็กลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เด็กๆ.เธอนั่นวุ่นอยู่กับการถ่ายรูปกับพวกเขา.
มันเริ่มที่จะมืดมากภายใน30นาที,และแสงที่สดใสก็ล้อมรอบอาคารระฆังEmaile .
ผมเข้าไปใกล้อาคารมากขึ้น,สงสัยว่าอาคารนี้ไว้สำหรับทำอะไร.และ........ช็อก~!! มันเป็นบาร์ขนมที่ขายขนมและแฮมเบอร์เกอร์.
เราชมรอบเสร็จภายในมิลเลเนียม พาร์คเสร็จใน 40 นาทีและเพื่อดูเพิ่มเติม,เราเดินลงบันไดที่ไม่มีใครใช้.
Canon DIGITAL IXUS 65 | f/2.8 | 2014:04:26 19:55:12 | Flash fired, auto mode | 5.8mm
มีน้ำตก Cheoyongที่น้ำไหลออกมาทุกๆชั่วโมงและอธิบายเกี่ยวกับCheoyong,ซึ่งเป็นตัวหลักของมรดกของสามประเทศ.แต่มันไม่เปิดตอนกลางคืน.
ตอนที่เราเดินลงไปที่ทางเข้า,มีน้ำพุรูปปั้นด้วยแสงสีสันสดใสก็เปิดขึ้นมา.
เรามาช้าไป,ซึ่งเราก็ไม่ได้เห็นอะไรมาก,แต่เราก็โชคดีที่ได้เห็นไฟสวยๆ.
ไฟตรงทางเข้าที่เป็นสีเหลืองก็เปิดเหมือนกัน.เราออกมาพร้อมกับผู้จัดการของสวนสนุกและเราก็กลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายของสวนสนุกในวันที่26 เมษายน, 2014.
ผมคิดว่าเวลาที่ดีและเหมาะสมที่จะเข้านั้นประมาณสี่โมงครึ่ง.ดังนั้นถ้าคุณมาที่นี่ในครั้งต่อไป,ดูเวลาด้วย,และอย่าพลาดเหมือนเรา.
และต้๋วออนไลน์สำหรับวันธรรมดานั้น 3~4,000 วอนต่อคนถูกกว่าซื้อข้างนอก.
ผมรู้สึกเศร้านิดหน่อยที่เรามาสามารถที่จะชมได้อีก,แต่ผมแน่ใจกับตัวเองว่าเราได้รับรู้ถึงวิวยามค่ำคืนของ Gyeongju,ซึ่งเราจะดูรอบๆจากนี้ไป.แล้วเราก็จะกลับที่พัก.
ที่อยู่: Gyeongju, Gyeongsangbuk-do sinpyeongdong 719-70 (경상북도 경주시 신평동 719-70)
โทรศัพท์: 054-778-2000
เวลาทำการ: 10:00 ถึง19:30
เว็บไซต์: http: //www.smpark.co.kr/
Gyeongjuโลกแห่งการแสดงวัฒนธรรม– หอGyeongju 경주타워
มีโลหแห่งการแสดงวัฒนธรรมเปิดทุกๆ 2~3ปีที่ศูนย์การจัดแสดงใกล้กับ Bomunทัวริสท์ คอมเพล็กซ์,Gyeongju. มันเปิดเพื่อเป้าหมายที่จะผสมผสานวัฒนธรรมที่แตกต่างมีรากฐานมาจากวัฒนธรรมที่เต็มเปี่ยมที่Gyeongju ได้เก็บรักษาไว้,และเพื่อฟูมฟักมันให้เบ่งบาน.
ศูนย์การจัดแสดงไม่ใช่มรดกทางวัฒนธรรม,ที่ถ่ายทอดมากว่าพันปีและมันก็ไม่มีงานอะไรพิเศษที่ศูนย์การจัดแสดง.แต่มีเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงมาที่นี่ในเวลาดึกอย่างนี้,ไม่สนใจข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้.มันเป็นเพราะว่ามีหอ Gyeongju,สัญลักษณ์ของGyeongju Bomun ทัวริสท์ คอมเพล็กซ์ตั้งอยู่ที่ศูนย์จัดแสดงปัจจุบัน.
ศูนย์จัดแสดงตรงข้ามSilla มิลเลเนียม พาร์ค ไม่มีคนเนื่องจากเวลาท่องเที่ยวนั้นหมดแล้ว,ดูเหมือนสวนเงียบๆที่มีไฟตามต้นไม้รอบๆ.
และหอ Gyeongjuนั้นก็ตั้งอยู่ตรงกลาง.หอแก้วนี้สร้างเลียนแบบหอไม้เก้าชั้น Hwangnyongsa,และสูง82m,สูงพอที่จะเห็นแม้แต่จากBomun ทัวริสท์ คอมเพล็กซ์.
มากกว่านั้น,วิวยามค่ำคืนของหอ,กับแสงเรืองๆเหมือนกับหอ Hwangnyongsaนั้นสวยมากๆ,กลายเป็นอีกที่ท่องเที่ยวยาวค่ำคืนอีกที่ของ Gyeongjuและจุดดึงดูดสมัยใหม่.
สวนการจัดแสดงนั้นจริงๆแล้วไม่ฟรี,แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสวนที่ฟรี.ในหอ Gyeongju มีแกลลอรี่ที่เรียบง่ายและห้องสังเกตุการณ์,ดังนั้นเมื่อคุณมาในช่วงกลางวัน,คุณจะสามารถเห็นวิวทั้งหมดรอบๆBomun ทัวริสท์ คอมเพล็กซ์.
ที่อยู่: 130 cheongundong Gyeongju, Gyeongsangbuk-do
โทรศัพท์: 054-748-3011
เวลาทำการ: 09:00ถึง 18:00
โฮมเพจhttp://www.cultureexpo.or.kr/
Wolji (Anapji) 월지
‘Silla’s Moon Night’ได้กลายเป็นคำนามที่เหมาะสม.มีเพลงที่มีชื่อว่า‘Silla’s Moon Night’ในปี 1940และยังมีหนัง 1940ในปี 1990สิ่งเหล่านี้บอกเราว่าวิวตอนกลางคืนนั้นสวยงามมากๆ.
ดังนั้นเราจึงมุ่งหน้าไปยังตัวเมือง,เพื่อดูวิวยามค่ำคืนของ Silla. Wolji คือทะเลสาบคนสร้างของ Sillaเมื่อพันปีก่อน.
Woljiนั้นเปิดจนถึง 22:00สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมวิวยามค่ำคืนของ Woljiและมันก็มีคนแน่นตลอดเวลา.และเพราะว่าเวลาเข้านั้นจนถึง 21:30,คุณควรจะกะเวลาให้พอ.
อย่างที่คาดไว้......ถนนรอบๆWolji และด้านในWolji นั้นแน่นไปด้วยคน.เราเกรงว่าเราจะได้เห็นWolji มั้ย,แทนที่จะเป็นคน.แต่เราสามารถที่จะเข้าได้อย่างรวดเร็ว,ต้องของคุณไกด์ขายตั๋วที่ใส่ชุดแดงและตั๋วก็มีที่ตู้ขายที่สำนักงานขายตั๋ว.
Wolji เป็นทะเลสาบที่ถูกสร้างขึ้น,เคยอยู่ภายในพระราชวังในสมัยSilla.มันมีชื่อว่าAnapji,เนื่องจากมีห่านป่าและเป็ดที่บินมายังทะเลสาบบ่อยๆในสมัย Joseon.
มันโค้ง(鉤形), ทางตะวันตก 200mและทางใต้180m,มีเกาะสามเกาะอยู่ในทะเลสาบ.ทะเลสาบนั้นไม่ใหญ่,แต่มันถูกทำให้ดูกว้างในทุกๆทางที่คุณมองมัน.
มันถูกคาดว่าได้ถูกสร้างเมื่องสมัย Sillaของกษัตริย์Munmu. และImhaejeon, ที่ซึ่งกษัตริย์องค์สุดท้ายของสมัย Sillaกษัตริย์Gyeongsun ได้เปิดเลี้ยงเมื่อเขายก Silla ให้Goryeoของ Wang Gunที่ว่ามันอยู่ใกล้กับWolji.
เมื่อตอนแรกที่เรามาถึงWolji,เราคิดว่า"ที่นี่เป็นเพียงแค่วิวกลางคืนธรรมดา....อาจจะเป็นเพราะชื่อของมันที่ทำให้ดูพิเศษ.”ขณะที่เราเดินรอบๆทะเลสาบWolji,ชมวิวที่เป็นมากกว่าวิวธรรมดา.
ซักพัก,เราก็ได้เห็นความงามอันแท้จริงของวิวกลางคืนที่ Wolji.มันเป็นภาพที่งดงามของอาคารที่สะท้อนมาจากน้ำของทะเลสาบ.
ถึงแม้ว่าวิวของสถานที่จะถูกสร้างขึ้นจากไฟ,มันก็ยากที่จะหาขอบของน้ำและอาคาร,เพราะว่าเงาสะท้อนบนน้ำนั้นชัดเจนและสวยมากๆ.
ผมเดาว่าบรรพบุรุษของเราก็คงได้เห็นวิวคล้ายๆกันนี้,ถึงแม้ว่าจะไม่ชัดเหมือนปัจจุบัน,ของ Woljiเมื่อเวลาที่มีพระจันทร์,เหมือนกับในเพลง‘Silla’s Moon Night’เคล็ดลับของการท่องเที่ยวที่Wolji. เมื่อคุณเข้าไปที่ทางเข้าและเจอจุดเริ่มต้นของWoljiจะมีคนเยอะตรงนั้น,แต่จริงๆแล้ววิวนั้นไม่สวยเท่าไหร่.แทนที่จะอยู่ตรงนั้น,เดินตรงไปยังอาคารที่สามของWolji. เพื่อไปยังส่วนของด้านขวา,ที่ซึ่งเป็นที่ที่ดีที่สุดที่จะดูวิวยามค่ำคืนของWolji.
เราดูวิวยามค่ำคืนของ Woljiอยู่นาน,แล้วเราก็ไปดูวิวยามค่ำคืนที่ Cheomseongdaeก่อนที่จะดึกเกินไป.
ถัดจากที่ขายตั๋วของ Woljiคือ"ประสบการณ์การดื่มจากลูกเต๋า"มีป้ายลูกเต๋าใหญ่ๆ,แต่มันไม่ใช่ศูนย์การเรียนรู้อย่างเป็นทางการ.มันเป็นหลักทางะุรกิจเพื่อขาย"ขนมปังลูกเต๋า"ดังนั้นถ้าคุณอยากที่จะลองกินมัน,ผมต้องขอบอกให้คุณลองไปดู.
บนถนนของCheomseongdae จาก Wolji มีสิ่งอำนวยความสะดวกนิดหน่อยในหมู่ทุ่งดอกไม้ที่กำลังบาน,มีคนอยู่มากมายที่เดินอยู่รอบๆแม้ว่ามันจะเป็นเวลากลางคืน.
มีแสงสว่างๆมาจากป่า Wolseongและ Guilin ไกลออกไปและรอบๆสุสานหลวงของกษัตริย์ Naemul,โชว์ภาพเราอย่างที่เห็น.
คุณควรจะระวังเพราะว่ามันจะไม่มีแสงอื่นๆบนถนน,แต่สำหรับผมมันกลายเป็นความทรงจำของGyeongju, ที่ที่ผมรู้สึกถึงวิวยามค่ำคืนของSilla.
เรามาถึงที่Cheomseongdae ใน10นาที.ตามCheomseongdae เป็นแค่พื้นที่กว้างๆ,ดังนั้นCheomseongdae จึงหาได้ไม่ยากจากที่ไกลๆ.
อย่างที่ผมคิด,โค้งไฟเหลืองๆของ Cheomseongdaeส่องสว่างอย่างงดงาม,ตัดกับท้องฟ้าที่มืดมิดยามค่ำคืน.
วิวยามค่ำคืนของ Cheomseongdae นั้นทำให้ใจจดใจจ่อ,ให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างจากตอนกลางวัน.แต่เนื่องจากมันเป็นตอนกลางคืน,มันยากที่จะถ่ายรูป,นั่นน่าเสียดาย.
แม้แต่สำหรับคนที่ชมวิวของWolji และ Cheomseongdae, ที่นี่จะเป็นสถานที่ที่อยู่ในความทรงจำของสถานที่ท่องเที่ยวในGyeongju.
เราหลงในความงามของพวกมันจนถึงดึก,และพลาดรถเที่ยวสุดท้าย.
Anapji 안압지
ที่อยู่: 506-1 inwangdong Gyeongju, Gyeongsangbuk-do (경상북도 경주시 인왕동 506-1)
โทรศัพท์: 054-772-4041
เวลาทำการ: 09:00 to 21:30
เว็บไซต์: http://guide.gyeongju.go.kr/deploy/cultural 03/03_07/03_07_02/03_07_02_04/1191875_5257.html