Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
6028 | 19921967

인천 #1 - เมืองจีนในเกาหลี , ย่านไช่น่าทาวน์ - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
Last Modified : 2017/04/12

Travel regions : South Korea
 | Hits : 414635
https://blog.lookandwalk.com/zt/blog/mazinguide/2665/trackback

1คืนสองวัน ที่อินชอน


มีข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว มากมายในเมืองใหญ่ อย่างประเทศเกาหลีใต้.ที่ยังไม่รวมถึงกรุงโซล.ก็ยังมี ปูซาน แดกู และ แดจอน เพียงแค่นี้ก็เกินบรรยายแล้วครับ.ในเคสของอินชอนนี้ , มันยังไม่เชิงเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ครับแต่เป็นเมืองใหญ่ที่มีแต่ความ ยุ่งวุ่นวายของผู้คน ที่อาศัยอยู่ และ อาหารทั่วไป , แต่ถ้าคุณได้ลองสัมผัสเมืองนี้อย่าง ใกล้ชิด, คุณจะได้พบว่ามันมีอาหารการกิน มากมายหลายอย่างเกินกว่าที่คุณ คาดหวังไว้เลยครับ.ผมเดินดูรอบๆเพียงไม่กี่สถานที่ในอินชอน ในเวลา 1คืนกับอีก2วันของผม .แน่นอนครับว่า ผมจะแนะนำให้คุณได้เห็นได้รู้จัก ประมาณ 10แห่งในเมืองนี้ ที่จะตอบความสนองความต้องการของทุกเพศทุกวัย.งั้นเราเริ่มกันเลยครับ.


ปลายทางคือกรุงโซล รถไฟใต้ดินสายที่ 1 เป็นสถานีอินชอน.ทันทีที่เราออกมาจากสถานี, คุณจะได้เห้นป้าย ที่เขียนว่า ไป่ หลู เป็นป้ายสัญลักษณ์ของ ไชน่าทาวน์ .ที่นี้ถูกตกแต่งไปด้วย ตีมสีแดง คล้ายๆกับฤดูใบไม้ผลิ ที่มีที่ถูกสร้างขึ้น ถือว่าเป็นจุดขายในเชิงพาณิชย์ ของจีนเลย ในสัมปทานของซิง.( ย่านนี้ เป็นที่อิสระของชาวต่างชาติที่จะทำเดินเล่น ออกกำลังกาย อะไรก็ได้ ครับ )ปีต่อไปหลังจากที่ทำการเปิด ท่าเรือ อินชอน ครับ.รวงร้านต่างๆที่เปิดที่นี้ล้วนแล้ว มีเจ้าของร้านเป็นชาวจีน เลยทำให้ย่านตรงนี้ เป็นเหมือนกับ เมืองจีนขนาดเล็กๆ ในเกาหลี คุณจึงจะได้พบคนที่พูดภาษาจีนมากกว่าภาษาเกาหลี.ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองมาเที่ยวที่ประเทศจีน หรือ ไต้หวัน เลยครับ.



เมื่อผมได้ดูจากทางด้านหน้า ของสถานีรถไฟอินชอน, ผมก็ได้เห็นป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ไป่ หลู ที่กำลังบอกเราว่า ที่ครงนั้นคือ ไชน่าทาวน์. มันก็เหมือนกับไอคอนสัญลักษณ์ไชน่าทาวน์ในเมืองใด ๆ ในโลกนี้. ไป่-หลู มันเหมือนกับรูปทรงตึกชั้นที่ออกแบบสไตล์จีนๆ ประตูทางเข้าไชน่าทาวน์ขนาดใหญ่. ที่นี้มีไป่-หลูอยู่สามที่ และ ประตูตรงกลางเรียกว่า จุงฮวา.




1ใน3ของอาหารที่ดีที่สุดในโลกจาก เมืองจีนที่คุณรู้ว่า.เช่นเดียวกับชื่อของมัน

มีร้านอาหารจำนวนมากเพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยอาหารต่างๆรอบ ๆ ที่นี่ แต่มันมีประวัติยาวนาน เราจะข้ามทุกอย่างไปก่อนหลังจากที่เราได้กิน จาจังมยอน หรือ บะหมี่ดำ ชามหนึ่ง.




ผมจะไปพิพิธภัณฑ์ จาจังมยอน ที่กำลังจะเปิด.ต่างที่รู้กันว่า จาจังมยอน ขายได้ 700ชามต่อวัน ตั้งแต่มีการเปิดท่าเรืออินชอน.และได้มีชาวจีน ได้เข้ามาเปิดร้านขายจาจังมยอน ตั้งแต่ ท่าเรืออินชอนเปิด และเริ่มขาย จาจังมยอน ที่เป็นบะหมี่ต้มผสมกับ Doenjang (ถั่วเหลือง) และผัก และผัก




พิพิธภัณท์ จาจังมยอน ได้ถูกสร้างมาจาก ตึก กงฮวาชอนเก่า.มันแตกต่างจาก กงฮวาชุนในวันที่ดำเนินด้วยลูกหลานคนเกาลี และลูกหลานของเจ้าของร้านอาหารเดิมที่มีการดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อของ ซินซึงบันจอม .




และที่นี้มี ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 1000วอน ต่อคน . มีหลายพิพิธภัณท์ ที่จ่ายราคาประมาณนี้ครับ และถ้าหากคุณต้องการดูรอบๆจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่พิพิธภัณฑ์เปิดพิพิธภัณฑ์ท่าเรือ คุณสามารถซื้อชมทั้งหมดในตั๋วเดียวในราคา1700 วอน

มันช่วยให้คุณประหยัดได้มากครับ.ตรวจสอบตามรูปภาพดังกล่าวข้างต้นสำหรับเวลาเปิดและค่าธรรมเนียม.





ทันทีที่ผมมาถึงประตูทางเข้า.ได้เห็นป้ายร้าน ของกงฮวาชุน สมัยก่อน ตั้งอยู่. การจัดแสดงทั้งหมดที่นี่ได้รับบริจาคโดยส่วนใหญ่ Sinseungbanjeom. Gonghwachun (共和春) หมายถึง "ฤดูใบไม้ผลิมาในสาธารณรัฐ (จีน)" ที่สาธารณรัฐจีนอ้างว่าจะสนับสนุนสาธารณรัฐไปยังประเทศจีนและมันก็มาจากการจัดตั้ง Sandonghoegwan โดยคนจีนชื่อ ยูฮี Gwang (1886-1949)




ในส่วนของชั้นที่2 , จากภาพอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ได้กลับมา. บางที่นั่งยังว่างสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากถ่ายภาพร่วม.




ผมจำได้ว่า .เมื่อประชากรเพิ่มขึ้นในปี 1970, พวกเขาได้รับการสนับสนุนที่จะกินข้าวผสมกับแป้งข้าวบาร์เลย์และอาหารตามฤดูการครับ.ในความเป็นจริงครอบครัวของผมเองก็ไม่สามารถที่จะซื้อข้าวได้ เราต้องกิน Sujebi (ซุปใสกับเกี๊ยว) ทุกวัน.แตถึงอย่างไร.เมื่อแป้งเป็นรายการที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศมากที่สุดพร้อมกับแป้งทำอาหาร ตั้งแต่สงครามเกาหลี ,จาจังมยอน ถูกคิดค้นและกลายเป็นที่นิยมจนในที่สุด.




ผมได้พบรายการที่น่าสนใจที่นี่ค่อนข้างมาก เหล่านี้มีการจัดนิทรรศการของ กระเป๋าไม้ ที่ใช้ในการส่งอาหารในร้านอาหารจีน.รวมทั้งอาหารจีนและจาจังมยอน และจัมปง ที่ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วภายใต้สโลแกน 'จัดส่งรวดเร็ว ‘ หลังจากที่เป็นอิสระ และประวัติของ กระเป๋าไม้ หรือ “ชอลคาบัง” คุณลองดูทางด้านซ้าย นี้คือสิ่งทีพวกเขาใช้ ในครั้งแรกมันเป็นไม้ แต่ใช้ได้นานครับเพราะมันหนักและสกปรก ดังนั้นจึงหันมาใช้วัสดุราคาถูก เช่นแผ่นพลาสติก และกระป๋องที่มีการใช้มาจนถึงทุกวันนี้ครับ.

กระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ได้เลือกใช้ ชอลคาบัง นี้ เป็นหนึ่งในการออกแบบ ให้เหมาะกับชีวิตประจำวันแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของความเป็นเกาหลีรวม บริษัท โมนามี 153 , ซินราเมง ,ชิลซองไซด้าม Pony car, Sibal taxi เป็นต้น.




ว้าววว! นี้ เป็นเมนูราคาอาหาร ในปี 1964.ในเมนูก็ยังเหมือนกับเมนูในทุกวันนี้ แต่ราคาค่อนข้างแตกต่างครับ.จาจังมยอน ราคา 150วอน และที่แพงที่สุด หมูทอดทังซูยุก ราคา 900วอน. ถึงแม้ว่า ทุกคนจะกินกันจนท้องจะระเบิด ก็ยังไม่ถึง 10,000 วอนเลยครับ..




ที่นี้ คุณสามารถทีจะได้รู้เรื่องราว ความเป็นมาของ จาจังมยอน. จาจังราเม็ง ในถุงที่มีการเปิดตัวครั้งแรกในปี 1970 และและพวกเขาก็จัดเรียงตามเวลาของ ผมจำได้ว่ามีหนึ่งอย่างที่มาจากยุค 80 . จะมีใครซื้อกินของที่แพงแบบนี้ ในยุค 70 ผมสงสัยจังเลยครับ. ^^*


+ เวลาเปิด : 09:00-18:00( ไม่มีวันหยุด )




พอเราได้เพลิดเพลิน กับพิพิธภัณท์กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้ออกมาทางด้านนอก .ทางด้านนี้เ จะเป็นร้านค้าจีนทั้งสองด้าน.อาคารทั้งสองด้านเป็นอาคารอเนกประสงค์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 แต่ในปัจจุบัน ได้มีการออกแบบในสไตล์ทันสมัย ชั้นแรกจะถูกใช้เป็นร้านอาหารหรือเบเกอรี่และชั้นที่สองจะถูกใช้เป็นบ้านที่อยู่อาศัย.




อาคารหลังนี้ใช้เป็นร้านค้าตามปกติ แต่ ที่นี้มันเคยเป็นโรงแรม ที่ทีเตาอิฐหนึ่งอัน สำหรับห้องหนึ่งในยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น.




ในขณที่ผมได้เดินไปตามซอย, ผมได้ชนเข้ากับถนนประวัติศาสตร์ของภาพวาดสามรัฐ.ถนนมีความยาว ประมาณ 135 เมตร, ประมาณ 77ฉาก ที่วาด บนฝากำแพง และถ้าคุณได้อ่านมัน ในขณะที่คุณใช้เวลาเดิน ก็เกือบจะเหมือนการอ่านหนังสือทั้งหมดของรื่องครับ.




ภาพวาดที่ถูกเรียงลำดับ ตามระยะเวลา มันเพลินและสนุกดีครับ.ผมเคยไปเที่ยว เมืองต่างๆจำนวนมาก แต่นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันจริงๆสำหรับผม.




เมื่อผมกลับไปที่ร้านอาหาร Jajangmyeon เช่น Mandabok หรือ Gonghwachun, มีบันไดที่ดูแปลกๆ มันดูแปลกใหม่ให้ความรู้สึกราวกับว่า ผมไม่ได้อยู่ที่เกาหลี และถ้าคุณไปขึ้นบันไดเหล่านี้คุณจะเห็น ไป่ -หลู- ที่เรียกว่า ซอลลินมุน ของไชน่าทาวน์ คุณมองเห้ฯมัยครับที่ด้านบน?




เหมือนเกาหลี อยู่ภายใต้จาจังมยอนเลยครับ คุณจะไม่ถ่ายรูปที่ด้านหน้า หน่อยหรอครับ ก่อนที่คุณจะเดินออกไป .^^




ผมจะเดินไปตามซอยที่มีลักษณะเหมือนซอยที่ไหนสักแห่งในประเทศจีน. เมื่อท่าเรือ เปิดทำการเมื่อปี 1884 ก็ได้มี สัมปทานจีนที่ถูกสร้างขึ้นในอินชอน และพ่อค้าชาวจีนและ (คนงาน) มาถึงถิ่นแห่งนี้. และ Jajangmyeon ถูกคิดค้นสำหรับให้คนเหล่านี้ ได้กินอาหารในราคาที่ถูก และ สะดวกสบาย แต่ในครั้งเก่าพวกเขาเพิ่มคาราเมลใน Jajangmyeon ซึ่งแตกต่างจากคนในสมัยนี้ และ ก็ได้กลายเป็นอาหารจานโปรดของคนเกาหลี ทุกเพศทุกวัยครับ.




ทางด้านขวาผ่านมา คือ มันดาบก ที่มีชื่อเสียง ของจาจังมยอน มากว่า 100ปีผ่านมาแล้ว, ผมเห็นสถานที่ ที่มีป้าย Uiseondang บนประตูขนาดเล็ก ถ้าแปลตามความหมาย คือ การมีชีวิตอยู่อย่างชอบธรรมและสุขสบาย แต่ที่นี้ มีไว้เพื่อทำอะไร? ผมจะลองเข้าไปข้างในดูกันว่า มันมีอะไร.




เมื่อเราผ่านเข้ามาตรงประตูเล็กๆ และ ที่นี้มีวัดจีนที่มีขนาดใหญ่ และ เงียบสงบ. ที่นี้คงจะเป็น ศาลเจ้า ของชาวจีน ที่มีไว้ให้ชาวจีนได้กราบไว้บูชา ขอพราต่อสิ่งศักด์สิทธ์. ผมจะบอกว่า ที่นี้ใช้เป็น ศูนย์กลางของหอศิลปะแบบจีน ที่เพิ่งเปิด ในวันที่1-15 ของทุกเดือน แต่ตอนนี้ได้เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันครับ.




มันดูเล็ก แต่ ในวัดมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ในวัดควรจะมี.มีเจดีย์ขนาด เล็กๆ และแท่นบูชาไว้ให้จุดธูปขอพร .




มีธูปที่กำลังจุดอยู่. ผมได้ตุดูป 1อัน และขอพร1อย่าง .แน่นอนผมได้ บริจาคไป 1000 วอน ถ้าพรของผมเป็นจริง .ผมต้องการ ที่จะให้1000วอน กับสถานที่แห่งนี้ .สถานที่ที่น่าทึ่งเช่นนี้จะไม่มีถ้าไม่มีใครบริจาคเงินจำนวนเล็กน้อย มันเป็นเหมือนเงินค่าบำรุงรักษาครับ ผมเห็นว่าคนเกาหลี คิดว่ามันเป็นเงินเพียงเล็กน้อย .แต่สิ่งที่จะได้กลับมา มากเกินกว่าเงินจำนวนนี้ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ มันมอบความสุขกลับมาถ้าทุกคนพยายามหามัน.




ผมไปต่อที่ ถนน ศูนย์วัฒนธรรม เกาหลี-จีน .มันไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ยากที่จะหาพบครับ.สถานที่แห่งนี้ สร้างโดยความร่วมมือของ ศุนย์แลกเปลี่ยน วัฒนธรรม เกาหลี-จีน และ ที่จะแนะนำตัวครั้งแรกที่ไชน่าทาวน์ในเกาหลี. ค่าธรรมเนียมเข้าชม และค่าที่จอดรถ ฟรีครับ.




ชั้นแรก และ ชั้นที่สอง จะถูกใช้เป็น ห้องแสดงนิทรรศการ สถานที่แห่งนี้ จะใช้ในการ อธิบายความแตกต่าง ในวัฒนธรรม ที่มี สินค้า ที่เกี่ยวข้องกับ อาหารเสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย ในประเทศจีน




เสื้อผ้าเหล่านั้น ดูแล้ว ก็ไม่ได้ผิดปกติอะไรครับ. เสื้อผ้าด้านซ้ายมือ สำหรับ จักรพรรดิ และ จักรพรรดินีแห่ง ราชวงศ์ หมิงและทางขวามือ สำหรับ จักรพรรดิ และ จักรพรรดินีแห่ง ราชวงศ์ชิง.

ราชวงศ์หมิง ที่ดูเหมือนว่าจะคล้ายๆหลายอย่างของทางเกาหลี แต่ของราชวงศ์ชิง ได้ถูกสร้างขึ้น บนพื้นฐานของเสื้อผ้าของ ชาวแมนจู ใกล้เคียงกับชาว ฮัน . จักรพรรดิ์จีนที่จะฉลองพระองค์ในชุดแบบนี้ จะเป็นอย่างไร ผมสงสัยจริงๆ.



+ เวลาเปิด 09:00-16:00 ( ไม่มีวันหยุด)




ผมได้ทำสํญลักษณ์ ที่เป็นสีแดง ไว้ตามสถานที่ .คุณสามารถใช้เป็นที่อ้างอิง ในการเดินทางไปตามเรื่องราวและ วัฒนธรรม .ผมไม่ค่อยรู้เรื่องในส่วนของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่ อินชอน แต่ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ก็จะได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย และถ้าหากคุณมาจาก ประเทศจีน คุณก็ไม่ต้องกังวลปัญหาเกี่ยวกับภาษาเลยครับ และคุณเองยังสามารถสื่อสารพูดภาษาจีนได้อย่างอิสระได้ที่นี้ ดังนั้น ผมจึงอยากจะบอกคุรว่า อินชอน เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไปเที่ยวเยี่ยมชมครับ


+ ที่อยู่ :12, ถนน ไชน่าทาวน์ หมายเลขถนน 59 จังกู อินชอน

+เบอร์โทรศัพท์ : 032-760-7535

+ Website : click


Map


차이나타운, 인천역, 패루, 짜장면박물관, 박물관, 밀가루, 철가방, 짜장면, 중국, 거리, 마을, 벽화거리, 의선당, 중국식사찰, 사찰, 한중문화관, ChinaTown, Incheon, Station, Pai-loo, JajangmyeonMuseum, Museum, Flour, IronCases, Jajangmyeon, China, Street, Town, Village, MuralStreet, Uiseondang, Chinesetemple, Temple, Korean-Chinese, CulturalCenter, チャイナタウン, 仁川駅, 牌楼, ジャージャーメン博物館, 博物館, 小麦粉, 岡持, ジャージャーメン, 中国, 街, 通り, 村, 壁画通り, 意善堂, 中国式寺刹, 寺刹, 韓中文化館, 唐人街, 仁川站, 炸酱面博物馆, 博物馆, 面粉, 铁箱子, 炸酱面, 街道, 村庄, 壁画街道, 义善堂, 中国式寺庙, 寺庙, 韩中文化馆
One line comment(0) 
PDF
Bookmark
E-mail
0bytes / 200bytes
View list