พิพิธภัณฑ์Haeinsa Seongboที่ที่ความลับของ Haeinsaและพระไตรปิฎกที่หลับไหลอยู่
ตามSorigil, เราเห็นพิพิธภัณฑ์Seongbo เมื่อมันอีกประมาณ 1kmจะถึง Haeinsa. Haeinsaเป็นสมบัติของเกาหลีที่มีประวัติอันยาวนานของเกาหลีและมีมรดกตกทอดของพระพุทธศาสนามากมายประกอบด้วยมรดกโลก, JanggyeongPanjeon, และความทรงจำของโลก,พระไตรปิฎก.อย่างไรก็ตาม,มรดกทางวัฒนธรรมนั้นได้ถูกทำลายและขโมยตามสงครามที่เกิดขึ้นหลายครั้งทั้งในสมัยโบราณและสมัยใหม่ดังนั้นพระจึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์ Seongboในปี1997 เพื่อรักษาและปกป้องสิ่งที่เหลืออยู่,ทำนุบำรุง,ศึกษามรดกทางวัฒนธรรม.มันได้ถูกเปิดขึ้นเมื่อปี2002. เราน่าจะดูกันว่ามรดกแบบไหนที่ถูกจัดแสดง.แล้วก็รู้ไว้นะ,ห้ามถ่ายรูปที่นี่แต่ผมได้รับอนุญาติจากฝ่ายจัดการล่วงหน้าแล้ว.
นี่เป็นวิวที่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์. Haeinsaนั้นเข้าถึงได้โดยรถยนต์ดังนั้นคุณสามารถที่จะขับรถไปที่นั่นได้เลยในระหว่างทางไปที่วัด.ถ้าคุณเดินตาม Sorigilไม่ได้,คุณสามารถที่จะขับรถขึ้นไปหรือจอดรถที่นี่และเดิน1km เพื่อไปที่วัด.แต่ทางที่สวยนั้นอยู่ใกล้กับที่ขายตั๋วดังนั้นผมแนะนำให้คุณเดินไป600m จากที่ขายตั๋วไปยัง Gilsangamและขับขึ้นไปยังที่พิพิธภัณฑ์.
ค่าเข้าคือ 2,000วอนต่อหนึ่งคน.Heerangjosasang, สมบัติหมายเลข999, ได้ถูกปริ๊นส์ไว้บนตั๋ว.ของจริงจะต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ.ผมจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อผมเห็นมันดังนั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ.
ทันทีที่ผมเข้าไป,มีการจัดแสดงที่น่าสนใจได้ดึงความสนใจผม.นี่คือHaeinsa ที่ทำจากเลโก้.ตอนแรกผมนึกว่ามันคุ้นๆและรูปร่างที่นุ่มนวลแต่เมื่อผมเข้าไปใกล้มันเป็นเลโก้.น่าสนใจ. ^^*
และมีโมเดลของพระไตรปิฎกที่พวกเราจับได้.คุณจะเห็นว่าบล็อคไม้กว่าแปดหมื่นชิ้นนั้นน่าทึ่งและน่าประทับใจขนาดไหนเมื่อคุณจับมัน.นึกถึงบล็อคไม้ที่แกะสลักตัวอักษรจีนที่ซับซ้อนกับเหล็กแหลม.มีคนบอกว่ามันใช้เวลา30ปีสำหรับคนหนึ่งคนที่สามารถอ่านมันจนหมดถ้าเขาใช้เวลาอ่าน8ชั่วโมงต่อวันและลองนึกดูสิว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไหร่สำหรับพวกเขา.
ในมุมหนึ่งมีแบบปริ๊นติ้งซึ่งมีตัวอักษรเกาหลีสลักอยู่.ตัวอักษรเหล่านั้นคือ‘words of truth’ เขียนในตัวอักษรเกาหลีโดย Beopjeong สำหรับเพื่อให้คนเข้าใจ,และรูปแบบตัวอักษรเกาหลีได้ถูกสร้างขึ้นเป็นหอโดย No Ju-hwan.
พวกเขาเขียนกลับกันดังนั้นผมจึงต้องอ่านแบกลับๆเหมือนกัน.ซึ่งนี่ไง.มันเป็นคำแห่งความจริงแท้แน่นอน.ผมไม่มีศาสนาแต่ผมลองที่จะยอมรับทุกๆศาสนาและผมหวังจริงๆว่าผู้คนนั้นจะมความสุขและอยู่กับจิตใจที่สว่างตามพื้นฐานของคำที่พระพุทเจ้าสอนไว้.
มีงานศิลปะที่น่าสนใจที่มุมหนึ่งที่ผมอยากที่จะโชว์ให้คุณดู.นี่ทำจากดินโดยใครบางคนและมันประกอบด้วยตุ๊กตาดิน 1,000ตัวเพื่อแสดงถึงความหวังของผู้คนที่กำลังย้ายพระไตรปิฎกในระหว่างงานจัดแสดงศิลปะHaein ในปี2013.มันมีชื่อว่า ‘a thousand dreams’ กับความหวังของพวกเขา.ผมหวังว่าคุณจะทำให้ฝันของคุณเป็นจริง.
บล็อคไม้อันนี้คือPrajina-Paramita.นี่เป็นรูปแกะสลักของความคิดPrajina (般若思想) ในหมู่พระพุทธรูป,เป็นคำสอนทางศาสนาพุทธที่คงสภาพไว้ดีที่สุดในเกาหลี,และชื่อเต็มของมันคือPrajina-Paramita-Sutra(摩訶般若波羅蜜多心經). มันถูกเลือกให้เป็นสมบัติแห่งชาติหมายเลข32, และมันเป็นอันที่สั้นที่สุดที่รวมตัวอักษรไว้ 260 ตัว.มันมีชื่อเสียงว่ามันรวบรวมเอาคำสอนของศาสนาพุทธในเกาหลีไว้ทั้งหมด.
และประโยคที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ‘matter is void, all is vanity(色卽是空 空卽是色)’. วัตถุ(色)กล่างถึงวัตถุทุกอย่างในโลก.นั่นคือ,วัตถุ(色) นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากใจและเนื้อแท้ของมันคือความว่างเปล่า(空).ซึ่งมันหมายถึง"วัตถุทุกอย่างในโลกไม่มีแก่นแท้และแม้แต่ว่ามันจะไม่มี,มันไม่ได้หมายความว่ามันทิ้งสถานะของมัน".ดังนั้นวัตถุทุกอย่างในโลกมันเป็นแค่เพียงภาพลวงตา ( เงา)ที่เปลี่ยนไปตามจิตใจ.
เมื่อพระไตรปิฎกนั้นได้ถูกปริ๊นส์ไว้บนบล็อคไม้,มันก็กลายมาเป็นหนังสือแบบนี้.มันมีเหลือไม่มากในตอนนี้เพราะว่ามีสงครามที่มากเกินไปในเกาหลีแต่ผมหวังจริงๆว่าลูกหลานของเราสามารถที่จะเก็บรักษาวัฒนธรรมเหล่านี้ไว้นานแสนนานในที่ที่ไม่มีสงครามในผืนแผ่นดินนี้.
มีภาพวาดบนฝาผนังที่ใหญ่233 chui x 290 chui (กว้าง x สูง).นี่มีชื่อว่าYeongsanHoesangdo(靈山會上圖)ถูกเก็บไว้ในDaeungjeon ของวัดนี้,และมันมีภาพวาดของบัลลังค์ของพระพุทธเจ้าที่ถูกวาดไว้เมื่อปี1729,5ปีก่อนยุคของกษัตริย์ YeongjoในสมัยJoseon.ด้วยพระศากยมุนีตรงกลาง,มีสาวกเรียงกันอยู่ที่ด้านบน,ด้านล่าง,ซ้ายและขวาของเขา.รูปร่างของสาวกนั้นที่เล็กกว่าในที่ตรงด้านหลังนั้นน่าตื่นเต้น.
ว้าว....รูปภาพนี้ดูสง่างาม.นี่เป็นภาพเหมือนของกษัตริย์Sejo, กษัตริย์องค์ที่7ของสมัย Joseon,ผู้ซึ่งมีความเกี่ยวโยงที่พิเศษกับHaeinsa เนื่องจากเขาเก็บคืนบล็อคไม้50 บล็อคใหม่ของพระไตรปิฎกและสร้างJanggyeongPanjeonใหม่.
Moksimgeonchilนี้(木心乾漆-การเอาผ้าวางบนไม้แกะสลักและระบายสี) Heerangjosasang (希朗祖師像) เป็นอันที่วาดบนตั๋ว.นี่คือสมบัติหมายเลข999 ในตอนนี้.Heerangjosa(889~956) คือพระของ Haeinsaผู้ที่เคยมีบทบาทตั้งแต่สมัยSilla จนถึงปลายสมัย Koryoและเขาก็ยังเป็นอาจารย์ของHwaeom.เขายังเป็นคนที่ทำให้ Haeinsaหลังจากเขาได้รวบรวมความสามัคคีหลังจากที่สามรัฐนั้นรวมกันอีกครั้งโดยTaejo Wang Geon ในสมัย Koryo.รูปสลักนี้เป็นหนึ่งในMoksimgeonchil ที่สำคัญของรูปสลักที่ยังเหลืออยู่ในเกาหลี.มันให้ความรู้สึกที่เหมือนจริงจนเหมือนกับว่าเขานั้นมีชีวิตอยู่.
รูปปั้นเก้ารูปที่ทางด้านซ้ายคือพระเด็กๆที่คาดว่าได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อสมัยJoseon.ในศาสนาพุทธ,มันเป็นเรื่องปกติที่จะทำรูปปั้นของดอกไม้ต่างๆ.และสิงโตสองตัวที่ทางด้านขวาชื่อEopgyeongdae และEopchingdae, ซึ่งเป็นตัวแทนถึงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของกษัตริย์ในโลกแห่งความตาย,เขาสามารถที่จะเห็นคุณผ่านกระจก( ชื่อว่าEopgyeongdae)เพื่อมองถึงความดีและความชั่วในโลก.เมื่อEopchingdae พิพากษาความผิดและตัดสินว่าจะส่งคุณไปนรกหรือไม่.
นี่คือ Sipyuknahansang( รูปปั้นของพระอรหันต์16องค์)ที่ทำจากกระเบื้อง.ทั้งหมดรวมเป็น18,ประกอบไปด้วยรูปปั้นของพระอรหันต์16องค์และPangwansangsอีกสอง. Nahanเป็นชื่อของพระอรหันต์(阿羅漢), นักบุญที่ควรค่าแก่การนับถือจากผู้คนหลังจากละทิ้งถึงความปราถนาและรู้ถึงสิ่งที่ดีที่สุด.ผมเสียใที่ต้องพูดอย่างนี้แต่พวกเขาดูน่ารักมาก. ^^*
นี่คือ Palsangdo ( เหตุการที่ยิ่งใหญ่ทั้ง8) ประกอบไปด้วยภาพวาด8ภาพ. Palsangdoเป็นภาพวาดทางศาสนาพุทธที่มีแปดฉากของชีวิตของพระศากยมุนี.โดยปกติมันจะถูกปกป้องเป็นพิเศษเนื่องจากรูปนั้นจะถูกแขวนอยู่บนผนังของPalsangjeon แต่อันนี้พิเศษทำจากแผ่นพัได้แปดแผ่น.แม้ว่าPalsangdo จะบอกรายละเอียดในแบบฉากเล็กๆ,มันก็ดูสมบูรณ์อย่างเช่นงานศิลปะ.
คุณไม่ควรที่จะพลาดระฆังเมื่อคุณกล่าวถึงศาสนาพุทธ.ระฆังที่วัดของชาวพุทธนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากในพิธีกรรมทางศาสนาและโดยเฉพาะ,ระฆังทองเหลืองอันใหญ่ที่ทางด้านขวาที่ถูกจัดให้เป็นสมบัติหมายเลข1253. บางครั้งผมไปวัดกับพ่อแม่และผมไม่สามารถบอกได้ว่าเสียงของระฆังทองเหลืองในตอนเช้าที่วัดนั้นไพเราะขนาดไหน.เพียงแค่เสียงของมันก็ทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในพวัง.
ถ้าคุณดูใกล้ๆที่ด้านบน,มันจะเขียนว่า Hongchiปีที่4ในตัวอักษรจีน.นี่หมายความว่าปีที่22ของกษัตริย์Seongjong ในสมัย Joseon.ซึ่งมันได้ถูกสร้างขึ้นในปีนั้น,อย่างที่คุณเห็น,มันมีมังกรที่ดูเหมือนจริงและแข็งแกร่งและดอกบัวตรงส่วนไหล่.คุณยังสามารถที่จะเห็นรูปของพระโพธิสัตย์ระหว่างรูปสี่เหลี่ยมและระฆังนี้ทั้งหมดก็ดูหรูหราเนื่องจากมันมีลวดลายที่มากมาย.
อันนี้ดูเหมือนเครื่องมือวิเศษที่เห็นในหนังแฟนตาซีมันมีชื่อว่าGeumgangryeong( ระฆังทองเหลืองVajra ) และ Geumgangjeo(Vajra).พวกมันเป็นอุปกรณ์สำหรับประกอบพิธีในศาสนาพุทธ.อันทางด้านซ้ายคืออันที่ใช้รวมผู้คนโดยการทำเสียงในพิธีทางศาสนาและมันมี Vajraอยู่ที่ด้านบนของระฆัง.อันทางด้านขวา,Vajra, ก็ถูกใช้ในพืธีทางศาสนาพุทธและตำนานว่าไว้ว่ามีพลังที่ลี้ลับมากมายที่ทำลายกษัตริย์Asuras เมื่อ Sakra-Devanam Indraต่อสู้กับเขา.เชื่อหรือไม่,ก็ขึ้นอยู่กับคุณ. ^^*
มีสมบัติแห่งชาติอีกอันหนึ่งที่นี่ด้วย.นี่คือ Daebanggwang Bulhwaeom Gyeong (Avatamsaka Sutra;大方廣弗華嚴經), สมบัติแห่งชาติหมายเลข206-16. บล็อคไม้นี้เป็นหนึ่งใน Avatamsaka Sutraที่ถูกเก็บรักษาไว้ในJanggyeong Panjeon ของ Haeinsa. Daebanggwang Bulhwaeom Gyeong นั้นมีเรียกว่า Hwaeom Gyeongในแบบสั้นๆ,หนึ่งในคำบันทึก728 ของศาสนาพุทธ.Avatamsaka Sutra นั้นเป็นหนึ่งในสามบันทึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาหลีเช่นเดียวกับDiamond Sutra และ Lotus Sutra ที่พระพุทธเจ้าและสรรพสัตว์ทั้งหลายกลายเป็นหนึ่งเดียว,ไม่ใช่สอง.ที่ตรงสุดด้านขวา,นั่นคือสุดบล็อคไม้,มันเขียนไว้ว่าSuchangsanyeon(壽昌四年)หมายถึงว่ามันได้ถูกสลักไว้ในปีที่สี่ของกษัตริย์ Sukjong(ในปี 1098) สมัยKoryo,เป็นหนึ่งในพระไตรปิฎกที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดHaeinsa.
นี่เขียนว่าพระไตรปิฎกฉบับแรก(初雕高麗大藏經).มันแปลตรงๆตัวว่ามันเป็นพระไตรปิฎกเกาหลีฉบับแรก.มันถูกสร้างขึ้นเพื่อทำลายล้าง Kitanด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้าในปี 1011ระหว่างยุคของกษัตริย์ Hyeonjong สมัย Koryo.แต่ขณะที่มันถูกเก็บไว้ที่วัดBuinsa ใน Daegu, มันถูกเผาโดยชาวมองโกลในศตวรรษที่สิบสามแต่ 1,715ของมันยังเหลืออยู่ที่วัด Namseonsaในเกียวโต,ญี่ปุ่น.
ว้าว,นี่คือOkhwa(玉花)ทำจากหยก. Okhwaเป็นสิ่งที่สูงค่าที่เสริฟให้กับพระพุทธเจ้าและดอกไม้ของมันก็ทำจากหยกบนเซรามิคในสามสี.กลีบดอกไม้และเกสรนั้นดูอ่อนหวาน.ผมบอกไม่ได้แต่บางคนว่ามันเป็นข้อความที่เหลือไว้โดยหลวงพ่อSamyeong,พระในยุคกลางของสมัย Joseon.
เมื่อเราไปถึงที่ทางออก,มีมุมที่คุณสามารถทำสุตราปริ๊นติ้งได้ด้วยตัวเอง.คุณจะต้องจ่าย5,000 วอน,ค่อนข้างแพง.แต่มันสนุกที่จะได้ทำกับลูกของคุณ.สุตรา ปริ๊นติ้ง(印經)เป็นขั้นตอนการคัดลอกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เขียนไว้บนบล็อคไม้ลงบนกระดาษและทำเป็นหนังสือ.
+ ที่อยู่ : 10, Chiin-ri, Gaya-myeon, Hapcheon-gun, Gyeongsangnam-do
+ โทรศัพท์ : 055-934-3150~3151
+ ค่าเข้า : ผู้ใหญ่: 2,000 วอน, นักเรียน: 1,000 วอน (อายุน้อยกว่า 6: ฟรี)
+ เวลาทำการ : มีนาคม. – ตุลาคม. 10:00-18:00, พฤศจิกายน. – กุมภาพันธ์. 10:00 – 17:00 ( 18:00 oวันเสาร์,วันอาทิตย์, วันหยุดราชการ)
+ วันหยุด : ทุกวันอังคาร, วันที่1มกราคมของทุกปี