วัด Cheongpyeongsa
หลังจากที่นั่งเรือ15นาทีไปตามแม่น้ำ Soyangและออกจากท่า Obongsan,คนก็รีบแห่ไปยังทางทางหนึ่ง.พวกเขาต้องไปยังวัดCheongpyeongsaแน่ๆ,วัดที่มีชื่อเสียงของทะเลสาบSoyang.
วัดCheongpyeongsaนั้นอยู่ห่างจากท่าเรือ 1.7kmและมันก็เป็นทางขึ้นเขาที่ต้องใช้เวลาประมาณ30นาที.มันเป็นทางลาดนิดหน่อยจนถึงจุด 1/3,ห้องขายตั๋ว,ซึ่งคุณก็สามารถเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นนิดหน่อย.
อย่างไรก็ตาม,มันไม่ใช่คอร์สตรงๆ,มันเปลี่ยนเป็นทางรูปตัวอักษร S ตามทะเลสาบ Soyangและมันก็ทำให้รู้สึกไกลกว่าความเป็นจริง.
เมื่อคุณไปถึงสะพานแรกหลังจากที่เดินมาตามทางโล่งๆซักพัก,คุณจะเห็นร้านอาหารมากมายและเจ้าของผู้ซึ่งกำลังเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวเข้าไปในร้านของตัวเอง.จริงๆแล้ว,ผมได้ยินว่าอาหารที่นี่ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ดังนั้นพวกเราจึงได้เดินผ่านไป.
มันเป็นแค่ความหวังและคำอธิษฐานของเราใช่มั้ย? เราเห็นสะพานตรงท่าเรือไกลออกไปทางซ้ายและก็มาถึงที่นี่ซึ่งหมายความว่าพวกเรายังไปไม่ถึงครึ่งทางเลย.เฮ้อ
นอกจากนั้น,หลังจากสะพานถนนก็เริ่มแคบลงและชันขึ้น,และแย่กว่านั้น,มีสถานที่ที่มีสเปรย์สำหรับกันแมลงน่าจะเป็นเพราะว่ามันเป็นทางเข้าป่าซึ่งมันทำให้ผมกังวล.
หุบเขานำไปสู่วัด Cheongpyeongsaในตอนช่วงเริ่มฤดูร้อนเต็มไปด้วยสีเขียวและสีฟ้า.ทางด้านซ้าย,ต้นไม้แก่รูปร่างแปลกๆยืนอยู่และหินที่มีหญ้ามอสขึ้นก็เกาะอยู่ตามหน้าผา.
ทางด้านขวา,คุณสามารถได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลาจากหุบเขาและมันก็ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับคุณกำลังไปเที่ยวพักผ่อน.
ผ่านห้องขายตั๋วไป,ถนนที่พวกเราเดินก็ใกล้หุบเขามากขึ้นและคุณก็สามารถหาน้ำเย็นๆได้เพียงแค่เดินสองสามก้าวลงไป.
ทางด้านซ้ายของหุบเขา,รูปปั้นของตัวละครหลักในตำนานงูSangsa, งูSangsa และเจ้าหญิงPyeongyang,ธิดาของ Taejong ในยุคสมัยของ Tang,นั่งอยู่ตรงกลางของหุบเขา.
ตำนานเล่าว่าผู้ที่ตกหลุมรักกับเจ้าหญิงได้ถูกฆ่าโดยTaejong,กษัตริย์แห่งTang, ได้มาเกิดใหม่เป็นงู,และติดอยู่กับร่างกายของเจ้าหญิง,และทุกคนก็พยายามที่จะกำจัดเจ้างูนี้ออกไปในทุกหนทางแต่ก็ล้มเหลวซึ่งในที่สุดเจ้าหญิงได้มายังที่วัดCheongpyeongsa.
เจ้าหญิงพักค้างคืนที่ถ้ำของเจ้าหญิงใกล้กับวัด,อาบน้ำและสวดมนต์,ทันใดนั้นเจ้างูSangsa ก็หลุดออกมาและตายอยู่ตรงหน้าHoejeonmun (ประตู)ที่วัด.กษัตริย์ Taejongได้มอบทองคำก้อนใหญ่ๆ3ก้อนให้แก่วัด,ซึ่งก้อนหนึ่งได้ถูกใช้ในการสร้างวัด,อีกก้อนหนึ่งสำหรับเจ้าหญิงเพื่อที่จะกลับไปยังประเทศของเธอและก้อนสุดท้ายได้ถูกฝังไว้ที่ใดที่หนึ่งบนเขาObong ในกรณีที่ต้องการบูรณะวัด.
ดังนั้นถ้าคุณเดินขึ้นเขาเพื่อไปหาทองล่ะก็,คุณไม่พลาดที่จะเห็นหินที่ดูเหมือนจะหล่นจากหินอีกก้อนหนึ่ง.หินนี้เรียกว่าหินเต่า.มีเรื่องเล่าอีดเรื่องหนึ่งว่าวัด Cheongpyeongsaนั้นจะเจริญรุ่งเรืองเมื่อมีเต่าดูแลน้ำ.
หลังจากหินเต่า,คุณจะได้เห็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงของ Cheongpyeongsaและเป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงในChuncheon, “น้ำตกGusong”.มันมีชื่อแบบนี้เพราะว่ามีต้นสนเก้าต้นอยู่ใกล้กับน้ำตกและมีความสูง 9mและมันยังเป็นที่รู้กันอีกว่าน้ำตกสามารถทำเสียงที่แตกต่างกันได้ถึงเก้าเสียงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม.
แต่มันไม่มีฝนตกมาซักพักแล้วดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถได้ยินเสียงน้ำดังๆแต่เสียงน้ำไหลจากภูเขา Obongนั้นก็เพียงพอที่จะมำให้เรารู้สึกสดชื่นเนื่องจากพวกเรารู้สึกเหนื่อยจากอากาศที่ร้อน.
บนหินก้อนใหญ่ตรงด้านหน้าของน้ำตก,มีตั๊กแตนอยู่ที่นั่นและในช่วงเวลาหนึ่งเหมือนกับว่ามันก็ได้มองน้ำตกอยู่กับคนด้วย.
ข้างๆน้ำตก Gusong,มีถ้ำเล็กๆที่ทำจากหิน.นี่คือถ้ำเจ้าหญิงที่ซึ่งเจ้าหญิงเคยพักค้างคืน.แม้แต่ด้านในก็เต็มไปด้วยเจดีย์หิน.
ทางออกจากน้ำตก Gusongและถ้ำเจ้าหญิงนั้นเป็นส่วนที่ชันที่สุดในการเดินขึ้น.แต่มันก็ไม่ได้ไกลมากจากที่นี่ดังนั้นก็ทนไปกับผมนิดนึงนะและนั่นก็คือพื้นที่โล่ง.
ดังนั้นตอนนี้คุณก็สามารถชมวัด Cheongpyeongsaได้แล้ว.โชคดีที่ว่า,คุณสามารถเห็นทุกอย่างได้จากตอนที่คุณเดินขึ้นมายังวัด Cheongpyeongsaยกเว้นหอหินสามชั้นซึ่งคุณสามารถเดินข้ามก้อนหินไปทางด้านขวา.
Budoนั้นถูกป้องกันโดยสิงโตหินที่ซึ่งคริสตัลเล็กๆได้ถูกค้นพบในหมู่ขี้เถ้าของ Jinrakgong Lee Ja-hyeon, ผู้แทนและgrhapati (居士) ในยุคสมัย Koryo,ตรงทางเข้า.
Cheongpyeongsaได้ถูกตั้งชื่อตามนามแฝงของเขา'Grhapati Cheongpyeong'.
นอกเหนือจากหอแล้ว,ยังมีร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับ Lee Ja-hyeonอยู่มากมายและสระน้ำเล็กๆ(影池)ที่เขาสร้างขึ้นตรงทางเข้าวัดคือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในวัดCheongpyeongsa ที่ซึ่งคุณสามารถเห็นคาแร็คเตอร์ของสวนในยุค Koryo.
ลำธารนั้นไหลอยู่ข้างๆเราขณะที่เรากำลังปีนขึ้นแต่มันไม่สามารถดับความกระหายของพวกเราได้ซึ่งเราก็เริ่มที่จะหิวน้ำ.
แล้ว Jangsusam(สปริงที่มีอายุยาวนาน)ก็ปรากฎขึ้น.น้ำเย็นกำลังไหลแรงออกมาจากหัวของมังกร.ใกล้กับสปริง,มีเหรียญกองไว้จากที่คนได้โยนลงไปเพื่ออธิษฐานต่อน้ำ.
เรายังได้ดับกระหายของพวกเรา,ปีนขึ้นไปอีกหน่อยและแล้วก็เห็นเป้าหมายต่อไปใต้ภูเขาObong. วัดCheongpyeongsa ก็อยู่ตรงหน้าของพวกเรา.
จากสถานที่ที่งู Sangsaติดกับเจ้าหญิงในตำนานได้ทำลายวัฏสงสารและได้เข้าถึงนิพพาน,มันทำให้ผู้คนมองหาความสัมพันธ์จากอดีตของพวกเขามากกว่าการสำนึกถึงการมีอยู่เมื่อครั้งก่อน,และมันก็มี Hoejeonmun(สมบัติแห่งชาติหมายเลข164)อยู่ด้านหน้า.
ไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ, Cheongpyeongsa มี Hoejeonmunอยู่เป็นอาคารส่วนหน้าโดยไม่มีประตู Iljumun เลยหรือประตูที่สร้างเพื่อเทวาทั้งสี่(ทูตสวรรค์).เมื่อคุณผ่านHoejeonmun, คุณจะเห็นอาคารสองชั้น,Gyeongboru.
มันหลังจากวันประสูติของพระพุทธเจ้าแต่ผมยังสามารถเห็นโคมไฟดอกบัวหลากสีแขวนอยู่ตามเพดานของ Gyeongboruที่มีคำอธิษฐานจากผู้ที่ศรัทธาอยู่มากมาย.
ทั้งสองด้านของหอ Daeungjeon(วัดหลัก),Gwaneumjeon(ซ้าย) และNahanjeon(ขวา) อยู่ที่นั่นแต่วัดนั้นไม่ได้มีอะไรน่าสนใจอย่างที่หวังไว้พิจารณาจากชื่อเสียงของมัน.
Daeungjeonนั้นได้ถูกทำลายระหว่างสงครามเกาหลีและได้บูรณะขึ้นมาใหม่,และตามแบบจากที่มีในสมัยก่อน,ขนาดของ Cheongpyeongsaในยุคสมัยที่รุ่งเรืองน่าจะแตกต่างจากตอนนี้.
ระหว่างนั้น,ได้มีพระออกมาจากDaeungjeon และเดินผ่านเราไปอย่างรีบร้อน,น่าจะเป็นเพราะว่ากำลังยุ่งอยู่.
แทนที่นั้น,ผีเสื้อสีเหลืองที่เคยบินอยู่บนท้องฟ้าของฤดูใบไม้ผลิก็พักปีกของพวกมันตามขั้นบันไดหินของGwaneumjeon.
Geungnkabojeonนั้นเล็กและก็ดูเก่า.มันอยู่ตรงด้านหลังวัดหลักและมันก็ไม่มีเขตกั้นระหว่างวัดกับภูเขา Obongซึ่งมันก็มีทางเดินขึ้นเขา.
ดังนั้นในหมู่ของนักปีนเขาที่กำลังลงจากภูเขาเรามองลงไปยังวัด Cheongpyeongsaและผมสามารถเห็นต้นไม้เก่าๆสองสามต้นรวมไปด้วยต้นหนึ่งที่มีอายุ800ปียืนต้นอยู่สูงเพื่อให้ร่มเงา.
ลงมาจากจุดที่สูงที่สุดของวัด,Geungnakbojeon,เราก็เข้าสู่ Hoejeonmunตรงทางเข้าและไปยังทางขวาของมัน,เราพบระฆังของวัดบอกเวลายามเช้าในวัดตรงภูเขาและตรงศาลา.ผมรู้สึกไม่ดีที่ศาลานั้นมันดูใหม่เกินไป.
เดินไปทางด้านซ้ายของ Hoejeonmunตามอาคาร,มีพระพุทธรูปอยู่ตรงหน้าทางน้ำเพื่อสำหรับขอพรและมมีบางคนกำลังสวดมนต์อยู่.
จากชายแดนของทางน้ำ,นี่ไม่ใช่อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของวัดCheongpyeongsa แล้วแต่อาคารนี่คือสถานที่ที่พระจริงๆเอาชนะใจตนเองและอาศัยอยู่.ป้ายนั้นได้เรียกความสนใจจากผมนั้นขอให้พวกเราอย่าส่งเสียงดัง.
เราเดินผ่านแบบย่องๆเพื่อที่จะไม่รบกวนพระและมุ่งหน้าไปทางหุบเขาเพื่อดูอ่างน้ำเจ้าหญิงที่ซึ่งเจ้าหญิงเคยอาบน้ำในตำนาน.
แต่อ่างน้ำเจ้าหญิงได้ถูกซ่อนไว้ใต้หน้าผาทำให้ยากที่จะหามัน.เราหาอยู่ซักพักด้วยความช่วยเหลือจากป้ายบอกทาง,และในที่สุดนั่นไง!ตรงกลางของหินที่ที่น้ำหยด,มีหลุมใหญ่ๆที่ดูเหมือนจะถูกเรียกได้ว่าอ่างน้ำ.แต่ก็.....น้ำนั้นไม่ได้ไหลน่าจะเป็นเพราะว่ามันแห้ง,อาจจะมีในครั้งต่อไป.
ด้วยอ่างน้ำเจ้าหญิง,ในที่สุดเราก็เสร็จทัวร์ที่Cheongpyeongsan และเดินกลับมาตามถนนอีกครั้งและผมก็เห็นกระรอกอยู่ข้างๆหอหินถัดจากหินก็เห็นทางออก.
ระหว่างทางกลับไปที่ท่าเรามาถึงเร็ว.ผมคิดถึงลมเย็นมากกว่า patbingsuที่ขายอยู่ในร้านอาหารใกล้ๆดังนั้นพวกเราจึงรีบเดินแต่เรือที่ไปยังเขื่อน Soyangได้ออกไปเมื่อ5นาทีที่แล้ว.
พวกเรามาถึงที่ท่าตามเวลาที่เราจองไว้แต่ว่าต้องรอนานขณะที่เราได้น้ำ Soyanggangที่สะอาดกว่าที่เราคาดไว้.
ที่อยู่ : 674, Cheongpyeong-ri, Buksan-myeon, Chuncheon-si, Gangwon-do (강원도 춘천시 북산면 청평리 674)
โทรศัพท์ : 033-244-1095
เวลาทำการ :
เว็บไซต์ : http://cheongpyeongsa.co.kr/
รูปปั้นSoyanggang Chenyeo 소양강처녀
ทะเลสาบUiamแผ่กว้างในตัวเมือง Chuncheon.สะพานที่เป็นตัวแทนที่ตกแต่งUiamho (ทะเลสาบUiam ),สะพานSoyang ที่2,เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีวิวที่สวยงามมากในเวลากลางคืนของChuncheon.
มันค่อนข้างเร็วเกินไปสำหรับวิวกลางคืนไม่ต้องพูดถึงอากาศที่ไม่ดีแต่เหตุผลที่เราอุตส่าห์มาที่นี่เพื่อดูสะพาน Soyangที่2คือ......
เพราะว่ารูปปั้นยักษ์ที่เป็นอนุสรณ์แห่งSoyanggang Cheonyeo, เพลงที่เป็นตัวแทนของแม่น้ำ Chuncheon Soyanggang.อย่างที่คุณสามารถเห็นได้จากเขื่อน Soyanggang,มีรูปปั้นสองสามรูปใน Chunchonแต่เมื่อมีใครพูดถึงรูปปั้นSoyanggangCheonyeo,พวกเขาก็จะพูดถึงรูปปั้นนี้.
รูปปั้นนี้,สูง 12mและหนัก14ตัน,มันถูกตั้งไว้ที่นี้เมื่อปี2005 ตรงแม่น้ำ Soyang,ด้านบนของสถานี Chuncheon,และแม่น้ำ Bukhanได้มาบรรจบกัน.
โดยเฉพาะถ้าคุณมาเพื่อที่จะดูพระอาทิตย์ตกดิน,มันจะโชว์วิวยามค่ำคืนกับแสงยามพระอาทิตย์ตกดินที่สะท้อนจากทะเลสาบ Uiamที่คุณจะไม่มีวันลืม,และมันก็ถูกใช้เป็นที่พักสำหรับนักขี่เนื่องจากมันมีเลนสำหรับขี่จักรยานที่ดีดี.
ใกล้กับรูปปั้น,หินก้อนใหญ่มีทำนองของ Soyanggang Cheonyeoเขียนอยู่โดย Ban Ya-wolและแต่งโดย by Lee Hoเหมือนกับบทกลอน.
ใต้ทำนองเพลง,มีปุ่มที่คุณสามารถเห็นตัวโน๊ตและฟัง Soyanggang Cheonyeoและถ้าคุณกดมันโดยที่ยังไม่พร้อม,คุณก็จะช็อค.ทันทีที่คุณกดปุ่ม,เพลงก็จะเล่นผ่านลำโพงที่คุณสามารถที่จะได้ยินแม้แต่คุณจะอยู่ห่างไป 150m.
ด้านหลังรูปปั้น Soyanggang Cheonyeo,รูปปั้นที่ไม่มีรอยด่างลอยอยู่ตรงกลางทะเลสาบUiam ที่บ่งชี้ถึงปลาSoyanggang จีนกับเพื่อที่จะสนับสนุนซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นระหว่างยุคการเข้าครอบครองของญี่ปุ่น.
มีท่าเรือที่คุณสามารถนั่งเรือและไปใกล้กับรูปปั้น,สะพานSoyang ที่2และSangjung-do,ซึ่งคือเกาะที่ลอยอยู่กลางทะเลสาบUiam.
เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่า,ไม่มีความข้องใจเลยว่า Soyanggang Cheonyeoนั้นเป็นมรดกที่สำคัญและเป็นที่ภูมิใจแห่ง Chuncheonเนื่องจากมันใช้แม่น้ำSoyang เป็นฉากหลัง.แต่โดยส่วนตัวแล้ว,ความเกี่ยวเนื่องระหว่างแม่น้ำ Soyangและเพลงนั้นนำเสนอมากเกินไปในหลายๆสถานที่ที่ทำให้ผมรู้สึกเบื่อ.ดังนั้นถ้าคุณได้มีโอกาสมาแวะที่แม่น้ำ Soyang,แค่ข้าม Soyanggang Cheonyeoระหว่างทางและดูแค่อันของจริงเพื่อที่จะได้รู้สึกไม่เบื่อ.
ที่อยู่ : 8-7, Geunhwa-dong, Chuncheon-si, Gangwon-do (강원도 춘천시 근화동 8-7)
เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา