Holiday Journal

นี่คือร้านบะหมี่ Hallym,10นาทีจากชายหาดHyeopjae โดยรถยนต์.ร้านนั้นดูสะอาดและใหม่,เหมือนกับว่ามันเป็นอาคารใหม่.มันมีชื่อเสียงแล้วและเป็นร้านที่เป็นที่นิยม.

เพิ่มเติมเกี่ยวกับบะหมี่,พวกเขายังมีข้าวต้มหอย, Gimbap และ Bulgogiดังนั้นคุณสามารถที่จะเอนจอยกับอาหารที่หลากหลาย.ผมตั้งใจอธิบายหัวข้อและเช็คว่าเขาใช้สาหร่ายและหอยที่จับจากทะเลเจจู,และเนื้อหมูดำจากเจจู.มันทำให้ผมมีส่วนร่วมในรสชาติมากขึ้นไปอีก.

บอร์ดเมนูของร้านบะหมี่ Hallym.ข้าวหนึ่งถ้วยนั้นฟรี,ตามด้วยราคาที่เหมาะสมของร้าน.เราสั่งบะหมี่น้ำกับหอย,เมนูที่ดีที่สุดของHallym และ Bulgogiหมูดำเผ็ด.

กิมจิสดและหัวไชเท้ากิมจิที่เข้ากันได้ดีกับบะหมี่และเครื่องเคียงอีกสองสามอย่างสำหรับBulgogi . เครื่องเคียงนั้นไม่เผ็ดและไม่เค็ม,และทั่วๆไปก็น่าสนใจ.

นี่คือบะหมี่น้ำกับหอย,เป็นอย่างแรกที่เสริฟ.เนื่องจากเครื่องปรุงหลักคือหอยและสาหร่าย,มันยังถูกเรียกว่าหอยกาบเดียวแห่งทะเลเจจู,สีน้ำซุปนั้นเขียว.

บะหมี่นั้นดูแตกต่างจากบะหมี่หอยอื่นๆที่ผมเคยกินบ่อยๆ,และมันทำให้ผมสงสัยในรสชาติ.

หอยอยู่ไหนนะ?ผมค้นหาในชามและพบพวกมันที่ก้นชาม.ขนาดนั้นเล็ก,แต่เนื้อมันนั้นหนุบๆและฉ่ำและหวาน,ยิ่งเคี้ยว,มันก็ยิ่งรสชาติดีขึ้น.

ทุกครั้งที่ผมยกบะหมี่,ผมก็สามารถกินสาหร่ายที่มีรสชาติของทะเล. การผสมผสานของบะหมี่และสาหร่ายนั้นดี.ซุปนั้นเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด!!ซุปนั้นมีทั้งรสเข้มและใส,ทำให้ผมต้องยกช้อนอีกบ่อยๆ.ขนาดนั้นเหลือเฟือ,ผมอยากที่จะใส่ข้าวในซุปและกินให้หมด,แต่ผมอิ่มเกินไป.

bulgogiหมูดำเผ็ดมาเป็นอย่างที่สอง.ในเจจู,ร้านอื่นขายหมูด้วยราคา 3-40000วอนสำหรับ600g,โดยไม่ขายแบบ 200g.แต่มันมากเกินไปและแพงเกินไปสำหรับสองคน.แต่ที่นี่,ทุกคนสามารถที่จะกินหมูได้ในราคา 7000วอน,ซึ่งก็เป็นโชคดีของเรา.

หมูหักนั้นย่างมาอย่างดี,พร้อมหนัง!มันอร่อยมากๆด้วยรสเผ็ดและหนึบๆ.

นี่เป็นซุปแตงกวาเย็นที่เสริฟกับBulgogi. ความรู้สึกที่ลดความร้อน,จากอากาศและอาหารนั้นเห็นได้ชัดในซุปเย็น.ซุปนี้ต่างจากซุปใสเย็นอื่นๆ,เพราะมันคือturky.ถั่วบดในซุปทำให้ซุปมีรสชาติที่เปรี้ยวและสดชื่น.

มันดีที่จะห่อ Bulgogi ในผักกาดกับกระเทียม.

วาง Bulgogi บนข้าวร้อนๆก็อร่อยเหมือนกัน.

ชายหาดHyeopjaeคนเยอะเสมอเพราะว่ามันมีชื่อเสียงจากนักท่องเที่ยวที่มาเจจู.จึงมีร้านอาหารมากมายตรงหน้าหาด Hyeopjae,แต่คนก็แน่นตลอดเวลา.ถ้าคุณขับรถไปอีกหน่อย,มันก็มีโอกาสที่จะกินอาหารอย่างเงียบๆที่ร้านHallym.

+ ที่อยู่: 1328-15, Hallim-ri, Hallim-eup, Jeju-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์: 070-8900-3339

+เวลาทำการ: 07:00 ถึง 16:00 (ปิดวันอาทิตย์), ปิดเร็วถ้าของหมด.

เกสท์เฮาส์ Dalsup,ให้บริการพื้นที่ที่เป็นอิสระและผ่อนคลาย

ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน,มีเกสท์เฮาส์แปลกๆเปิดขึ้นมากมายรอบๆเกาะเจจู,ทำให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะมาและเยี่ยมชม.เกสท์เฮาส์แบบเก่าๆให้บริการแค่ห้อง,และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นเหมือนหอพัก.แต่ไม่นานมานี้,เกสท์เฮาส์จะมีห้องนอนและห้องน้ำ,เรียกว่าเกสท์เฮาส์คู่กำลังเป็นที่นิยม.ผมพักที่เกสท์เฮาส์ Dalsup,หนึ่งในเกสท์เฮาส์คู่ที่กำลังเป็นที่นิยม.

Dalsup เกสท์เฮาส์นั้นตั้งอยู่ในHyeopjae-ri, Hallim-eup, Jeju-si.ชายหาดHyeopjae ที่งดงามใช้เวลา 5นาทีโดยรถยนต์,จากDalsup เกสท์เฮาส์.

นี่เป็นเป็นที่สำหรับเกสท์เฮาส์,สำนักงานเช็คอิน/เช็คเอาท์และยังเป็นที่สำหรับกินอาหารเช้า,และในตอนบ่ายเป็นที่นั่งเล่น,ปล่อยให้แขกอ่านหนังสือหรือทำงาน.

ข้อดีของเกสท์เฮาส์ที่เจจูคือการตกแต่งที่สวยงาม.และ Dalsupก็ตกแต่งอย่างสวยงาม,เหมือนเกสท์เฮาส์อื่นๆในเจจู.

การตกแต่งที่ผู้หญิงจะชอบ,มากกว่าผู้ชาย.จองห้องที่นี่อาจจะทำให้แฟนคุณรู้สึกตื้นตัน.

เพราะว่ามันไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว,การจองก็ไม่ยากเท่าไหร่,แต่มันมีแค่ห้องวิวทะเลเหลือหนึ่งห้อง.การจองนั้นมีตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกันยายน,ซึ่งผมโชคดีที่สามารถจองห้องได้สองคืนที่เกสท์เฮาส์ที่มีชื่อเสียงนี้.

ภายในทำให้ผมนึกถึงทะเล,มีเตียงที่เป็นสีฟ้า,และทั้งหมดก็มีรสนิยมที่ดี.ไม่มีตู้เสื้อผ้า,แต่มีบันไดสวยๆไว้แขวนผ้าแทน,และก็ใช้ได้ดี.เกสท์เฮาส์บางที่เต็มไปด้วยบุคลิค,แต่สำหรับผม,ความรู้สึกเรียบร้อยนั้นดี,ทำให้ผมรู้สึกสบาย.

ห้องนั้นมีขนาดที่ดี,เหมือนห้องนอนใหญ่ของอพาร์ทเมนท์ทั่วไป,ไม่ใหญ่ไม่เล็ก.มีตู้เย็น,ทีวีและตู้ใต้กระจก,กับไดร์เป่าผม.เกสท์เฮาส์แบบเก่าไม่มีทีวี,เพื่อแขกจะได้พักผ่อนตามเวา.แต่ที่นี่มีทีวี,ซึ่งเราก็ใช้เวลาแบบเงียบๆที่เจจูโดยไม่เบื่อเลย.

มีไวไฟอินเตอร์เน็ต,ซึ่งช่วยได้มากตอนที่ผมใช้แล็ปท็อป.

ห้องน้ำอยู่ในห้อง.มันเป็นหลักของเกสท์เฮาส์คู่,ที่เขามีห้องน้ำแยก!!เขามีผ้าเช็ดตัวสำหรับสองวันล่วงหน้า,และห้องน้ำก็สะอาด.เครื่องใช้ในห้องน้ำมีสบู่,แชมพู,ยาวีฟันและสิ่งอื่นๆที่คุณต้องการเตรียมไว้.

เพิ่มเติม,ขนมนิดหน่อยเช่น ชา,กาแฟ,และคุ๊กกี้,ซึ่งผมชอบ,ก็ถูกเตรียมไว้.แน่นอน,แม้แต่หม้อกาแฟก็มี.

น้ำสองขวดต่อวัน,ดังนั้นเราจึงมีน้ำสี่ขวด.

เราต้องดื่มฉบองสำหรับคืนแรกในเจจู.ผมใช้เวลาในคืนแรกกับโซจูและเบียร์ที่แสนอร่อย,ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ผสมระหว่างโซจูHalla และเบียร์เย็นๆ,หาสถานที่ต่อไปสำหรับเราในแล็ปท็อปของผม.

เช้าวันต่อไป,ก่อนอาหารเช้าเราเดินดูรอบๆในส่วนที่ยังไม่เคยเห็นของที่พัก.

ล้อมรอบไปด้วยผาหินหนาๆแต่ก็สวย,สวนนั้นถูกปูด้วยหญ้านั้นตกแต่งอย่างสวยงาม.ห้องด้านในและด้านนอกก็ถูกตกแต่งอย่างเรียบร้อย.

ลูกสาวของเจ้าของร้าน,ผู้จัดการอาหารเช้าด้วยตัวเอง.เวลาอาหารเช้าตั้งแต่ 9:00 ถึง10:00 เช้า,ถ้าคุณจองเวลาอาหารเช้าหนึ่งวันล่วงหน้า,เธอก็จะเตรียมได้ทันเวลา.

เมนูเครื่องดื่มคือ กาแฟ,นมและน้ำผลไม้,และในตอนเช้าเราเลือกกาแฟตลอดเวลา,ทุกที่ทุกเวลา!!ผู้จัดการคนนี้ก็เป็นบาร์ริสต้าด้วยทำกาแฟนี้ด้วยเครื่องทำเอสเพรสโซ่.รสชาตินั้นเข้มและเปรี้ยว,มันดีพอที่จะปลุกให้ตื่นจากเช้าที่งัวเงีย.

เฟรนช์โทสกับผลไม้สองสามชิ้นคืออาหารเช้า.เฟรนช์โทสนั้นอบอย่างดีด้วยเนย,ที่แช่อยู่ในนมและไข่นั้นอร่อยมาก.

ผมกินอาหารเช้าที่ Dalsupในเช้าวันถัดไปด้วย,เพราะเรานอนสองคืน,ก่อนเวลาอาหารผมเล่นกับลูกหมาในสวน.สวนนั้นสะอาดอยู่เสมอ,ทุกครั้งที่เราไป.เจ้าของจะต้องเป็นคนเรียบร้อย,ให้ความใส่ใจกับความสะอาดตลอดเวลา.

อาหารเช้าในวันที่สอง.แตกต่างนิดหน่อย,ขนมปังอบเนยกับผลไม้.

วิปครีมนั้นนุ่มและหวาน,รสชาติที่คุ้นเคยของแยมซิทรัสข้างๆมันอร่อยมาก.มันเป็นรสชาติท่ีหาไม่ได้ที่ไหนนอกจากในเจจู.

ผมดูรอบๆคาเฟ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับ,และเจอเครื่องประดับเรียกว่าอัญมณีแห่งท้องทะเล.้าคุณมองใกล้ๆพวกมันคือเปลือกหอยที่เห็นที่ชายหาด,แต่ทาสีสวยๆและการตกแต่งทำให้ดูเหมือนอัญมณีแห่งท้องทะเลจริงๆ.

ในตอนหลังที่เจจู,มีเกสท์เฮาส์ที่นี่ที่นั่นเพราะว่าเป็นเทรนด์.ถ้าคุณอยากได้ห้องน้ำแยกจากห้อง,แต่ไม่ใช่โมเตล,ผมขอแนะนำDalsup เกสท์เฮาส์.

+ที่อยู่: 1319-1, Hyeopjae-ri, Hallim-eup, Jeju-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์: 010-8990-7037

+ การจองและการติดต่อ: เยี่ยมชมเว็บไซต์click

บ้านของผู้ชนะมาสเตอร์เชฟเกาหลี'Aru yo 2'

มีรายการแข่งขันทำอาหารที่ดังเรีกว่า"มาสเตอร์เชฟเกาหลี".มีร้านอาหาร,ของเชฟ Kim Seung min,ผู้ชนะในซีซั่นที่หนึ่ง.ที่นี่มีชื่อว่า'Aru yo 2'. 'Aru yo'หมายถึง"มันมี~"และมันถูกแปลงให้เป็น"มันมีอาหารอร่อย~","อร่อย","มันมีส่วนผสม".มันเป็นชื่อที่สนุก.

'Aru yo 2' นั้นตั้งอยู่ที่Jeju Yeon-dong, 15นาทีจากสนามบินนานาชาติเจจู.'Aru yo 2' หมายถึงสาขาที่สอง, 'Aru yo 1' ตั้งอยู่ที่Yusuam-ri, Aewol-eup. ร้านแรกนั้นบริหารโดยเชฟอีกคนหนึ่ง,และเชฟKim Seung min ทำที่ร้านที่สอง.แม้แต่ชื่อ'Aru yo' เหมือนกัน,เมนูนั้นแตกต่าง.

ขนาดของร้านนั้นเล็ก.ผู้ชายที่มีหัวมันๆเงาๆในรูปคือเชฟKim Seung-min. ผมชอบมีส่วนร่วมในอาหารของเชฟที่มีชื่อเสียง.

เมนูบอร์ดของ 'Aru yo 2'.ส่วนใหญ่เป็นอาหารแนวญี่ปุ่น.มีข้าวเป็นถ้วยหลากหลายเสริฟกับท้อปปิ้ง,และราเมน.ราคานั้นไม่แพง,ไม่ถูก,กำลังดี.เราสั่ง Kakiagedong(ข้าวกับผักและปลาทอด)หนึ่งที่และ Butaten syoku(ชุดหมู)หนึ่ง.

ชุดหมูเสริฟก่อน.เครื่องเทศของ Kimโรยอยู่บนข้าว,กิมจิสามจาน,สตูว์รเย็นรสทะเล,และอาหารที่เป็นหมูที่ผมไม่เคยเห็น.

มองรูปอีกครั้งทำให้ผมน้ำลายสอ.หลังจากหมูย่างกับกะหล่ำและเกรวี่หัวหอม,สตูว์หมูและไข่ดาวที่ทำอย่างอร่อยกับหมูเป็นก้อนๆ.อาหารนี้ใหม่สำหรับผม,และรสชาติมันก็อร่อยมาก.จุ่มหมูลงในน้ำซุปเป็นการกินแบบใหม่,ซุปที่มีหมูจุ่มอยู่ทำให้มันนุ่มฉ่ำ.

ซุปนั้นรสชาติคล้ายกับราเมนDonkotz ,แต่มันไม่มีกลิ่นของหมูและอร่อย.มันมีรสเข้ม,แต่ก็ไม่เลี่ยน,ผมใส่ข้าวในซุปแล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย.

ข้าวกับผักและปลาทอดก็มา.นี่เป็นข้าวกับผักทอดชิ้นใหญ่ๆอยู่ด้านบน.

งา,ไม้อุ่นๆ,หัวหอม,ข้าวโพด,ต้นหอม,และผักอื่นๆทอดมาในแผ่นเดียวกัน.เพราะน้ำมันที่สะอาดในการทอด,ผักนั้นไม่มัน,และกรอบ.การทอดผักที่ปราณีตทำให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง.

ข้างใต้ของทอด,ซอสถั่วเหลืองปรุ่งรสได้ถูกโรยไว้เพื่อเพิ่มความมีรสชาติ.

ภรรยาผมพูดเบาๆกับผมตอนเราออกมา.ว่ารูปของแมวนั้นเป็นรูปของนักร้องLee Hyo Ri~ ผมถามพนักงานต้อนรับ,และเช็คว่ามันใช่มั้ย.ภาพนั้นดูพิเศษหลังจากที่ผมรู้ว่าคนดังเป็นคนวาดมัน.

เวลาทำการของ'Aru yo 2'.ร้าน 'Aru yo 1'นั้นมีเวลาพัก,แต่ที่นี่ที่สาขาสองเปิดจนถึงสี่ทุ่มโดยไม่มีพัก.

ผมรู้สึกซาบซึ้งมากๆ,เพราะร้านนั้นเป็นของเชฟที่ชนะมาสเตอร์เชฟเกาหลี.อาหารอาจจะธรรมดาที่ญี่ปุ่น,แต่สำหรับผม,มันไม่คุ้นเคย,แต่สะอาดและรสชาตินั้นน่าพอใจ.ร้านอาหารญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องปกติที่ Seoul/Gyeonggi,แต่อาหารแบบนี้ไม่ใช่อาหารที่ปกติ,ดังนั้นผมแนะนำให้มาที่ 'Aru yo 'เมื่อคุณมาที่เจจู.

+ ที่อยู่: 255-6, Yeon-dong, Jeju-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์:, 064-745-4858

+ เวลาทำการ: 11:30 a.m. to 10:00 p.m.

+ ปิด: วันอาทิตย์,วันหยุด.

ภูมิประเทศอันงดงามที่ถูกซ่อนไว้ที่เจจู,หุบเขา Bangseonmun

อีกครั้ง,เราจะแนะนำสถานที่ที่สวยมากๆและลึกลับและนักท่องเที่ยวก็มาไม่บ่อย.ผมไม่เคยเจอใครที่นี่ตอนที่ผมมา,แม้ว่าผมจะมาที่นี่ทุกครั้งที่มาเกาะเจจู.นี่หมายความว่าไม่ค่อยมีใครรู้จักที่นี่.ตอนนี้,เราไปสู่ความสดชื่นกันเลยมั้ย?

สองผาตั้งปราการปกป้องหุบเขา Bangseonmun.รอยนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโลกที่ไม่รู้จัก.

ชื่อ Bangseonmunหมายถึง"สถานที่ที่ความลึกลับมาถึง",และหินที่ดูหายาก,คุณสามารถเห็นข้อความจากโบราณที่คนเก่าแก่ได้จารึกไว้.

ลงตามบันได,ใต้หุบเขามีที่ว่างเล็กๆดูเหมือนที่ซ่อน,ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และหน้าผา.บรรยากาศขมุกขมัวเป็นแบบที่ผมชอบ.

ผมไม่กลัวถ้าตกลงมาจากฟ้า,หรือจากกำแพง,หรือกลิ้งจากแม่น้ำ,ยังไงก็ตามมีหินก้อนใหญ่ๆ,ซึ่งผมไม่รู้ว่าพวกมันมาจากไหน.

วิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของหุบเขาที่พบได้แค่ที่เกาะเจจู.เสียงที่ผมมได้ยินมีแค่เสียงของฝนตกกระทบกับใบไม้และเสียงนก.บรรยากาศนั้นดีมากๆ.เพราะว่าฝนตก,หินดูเหมือนลื่น,แต่ผมแปลกใจที่มันไม่เลย.

ผมสงสัยว่าน้ำจากฝนจะไหลยังไงที่หุบเขาแห่งนี้,เมื่อฤดูฝนเริ่ม.ภาพในรูปนั้นดูว่าจะต่างจากสถานที่จริง,และวิวของ Bangseonmunนั้นประหลาดและสวยแบบลึกลับ.

เพิ่มเติม,พื้นนั้นปกคลุมไปด้วยทรายสีดำเหมือนชายหาด Suwolbongเสียงกรอบแกรบจากเท้าของผมที่เดินมันฟังดูดีจริงๆ.

ผมรู้สึกถึงธรรมชาติ,เนื่องจากที่นี่ไม่ได้ถูกแตะต้องจากมนุษย์มานาน.อาจจะมีไข่ไดโนเสาร์ไกลออกไปก็ได้. ^^

หลุมใหญ่ใต้หินใหญ่ๆนั้น,ดูเหมือนประตูสู่โลกใหม่คือ Bangseonmunในรูป.มีตำนานว่ามีสิ่งลึกลับที่ตกมาจากสวรรค์,ผ่านBangseonmun. .แม้ว่ามันจะเข้าใจตำนานได้ค่อนข้างยาก,แต่ตำนาน Bangseonmunนั้นพอที่จะเข้าใจจากก้นบึ้งของหัวใจผม.

จดหมายซึ่งผู้แทนของJoseon ได้จารึกอยู่บนหิน(ด้านล่างขวา)ในตอนท้ายของทางผ่านBangseonmun ผู้คนต่างทิ้งชื่อของตัวเองในตอนนั้นเหมือนกับสมัยนี้เลย,ฮื้อ?

บางคนมาที่นี่เพื่ออธิษฐาน.แล้วผมควรจะอธิษฐานด้วยมั้ย? มีหินซึ่งผมตั้งไว้ตามพวกนี้~?

เหมือนกับค้นหาสิ่งมีชีวิตด้านใน,สถานที่นี้มีความลึกลับในตัวเองตั้งแต่ต้น,ยังไงซะมันก้เป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง.

โปรดมายังหุบเขา Bangseonmunถ้าคุณมายังเกาะเจจู.น่าจะเป็นภูมิประเทศที่ยอดเยี่ยมที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนตรงหน้าคุณเป็นครั้งแรก.ผมชอบมากเพราะว่ามันเป็นที่ที่ไม่ค่อยมีใครไป.

+ ที่อยู่: 3819-11, Ora2-dong, Jeju-si, Jeju-do

ทางเดินป่าไม้ซีดาร์ที่งดงาม,อุทยานป่า Jeolmul

ในเจจู,มีทางเดินขึ้นเขาหรือทางเดินป่ามากมาย.วันนี้เราจะไปเดินกันที่อุทยานป่าตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟ,Bonggaedong,เมืองเจจู.พื้นที่นี้กว้างกว่าสามล้านha, และกว่า90% เต็ไปด้วยต้นซีดาร์อายุกว่า45ปี.และนั่นอาจจะทำไมที่นี่ถึงเย็น,เมื่อเดินผ่านป่าแม้แต่หน้าร้อน.ลงไปข้างล่างกันเถอะ.

ไม่เหมือนกับที่ที่ผมเคยไป,มีคนค่อนข้างมากที่นี่.อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่มีแค่ทางเดินป่า,แต่ยังมีกระท่อมซึ่งสามารถที่จะพักได้.กระท่อมในป่าให้บริการโดยอุทยาน,ยากที่จะจองมากๆเหมือยพยายามที่จะจับดาวบนฟ้า.ราคานั้นถูกมาก,ถ้าคุณทำสำเร็จ,คุณควรที่จะไป!

ดอกไม้ที่มีเสน่ห์และหญ้ามอสขึ้นตามก้อนหินของเกาะเจจู.นั่นเป็นสิ่งที่สวยและแปลกมากๆ.

อุทยานป่าJeolmul เก็บค่าเข้าและค่าที่จอดรถ.ค่าเข้าคือ 1,000วอนสำหรับผู้ใหญ่,และค่าที่จอดรถนั้นหลากหลาย1000~3000 วอนขขึ้นอยู่กับรถ.

ไปเดินผ่านDolharbang และเข้าไปในป่ากันเถอะ~

มันค่อนข้างร้อน,และหน้าตาของร่มของป่าทำให้คุณรู้สึกเย็น,ใช่มั้ย? ป้ายไม้ที่ต้อนรับผมมันน่าประทับใจจัง ฮิฮิ.

มีม้านั่งไม้เตี้ยๆตรงนั้นตรงนี้,ซึ่งคุณสามารถกินอาหารกลางวันหรือพักซักหน่อย.

แต่ว่ามีต้นซีดาร์เยอะที่เกาะนี้,ใช่มั้ย?เหตุผลที่ปลูกต้นซีดาร์เพราะช่วยกันลม,เพื่อปกป้องต้นซีทรัส.นั่นทำไมจึงมีต้นซีดาร์อยู่ทั่วไปในเกาะเจจู.

มีงานไม้ที่น่าสนใจมากมายทำจากไม้ซีดาร์.ดูสวยที่จะถ่ายรูปกับครอบครัว,ฮื้อ?

เมื่อคุณผ่าน"โซนหัวเราะดังๆ",คุณควรที่จะหัวเราะดังๆเพื่อสุขภาพที่ดี. ^^ *

มีท่อนไม้ซีดาร์วางอยู่ทั่วไป,และผมก็เก็บมัน.ด้วยเจ้าพวกนั้น,คุณอาจจะสามารถสร้างเก้าอี้หรือโต๊ะจากพวกมัน.แม้แต่จะกองไว้แบบนั้น,ไม้ซีดาร์ก็ยังสวย.

มีทางเดินมากมายด้วยรูปแบบที่แตกต่างในอุทยานป่า,และนี่เป็นทางแห่งอายุยืน.ถ้าเราผ่านทางนี้,เราอาจจะมีอายุยืน!ผมเข้าไปและกินเบอรรี่,เพิ่มพลังงาน. ^^ *

มีความคิดเห็นมั้ย?มันเป็นสไตล์ Gangnam~! นั่นเป็นชิ้นงานที่ตลก.

นี่เป็นม้านั่งเตี้ยๆใต้ต้นไม้ที่ล้ม,และดอกไม้ก็หล่นอยู่รอบๆ.มันเหมือนกับกำลังเรียกให้ผมนั่งที่นี่.

มีที่ให้พักสวยๆเต็มไปหมด.ทุกที่ที่ผมนั่ง,มันกลายเป็นที่ของผม.

ตอไม้ที่ถูกตัดก็กลายเป็นศิลปะ.ผมสงสัยว่าต้นไม้ต้นนี้กลายเป็นอะไร?งานศิลป์?โต๊ะ? ยังไงก็ตามมันได้เกิดใหม่เป็นสิ่งที่ดีมาก.

สิ่งที่อยู่ในธรรมชาติส่วนใหญ่จะได้พบที่นี่.ยังมีบ่อน้ำที่ตกแต่งอย่างสวยงาม.

เมื่อผมโยนขนมปังลงไป,ปลาคาร์ฟก็รุมล้อม.

ทางเดินนั้นหลากหลายสตั้งแต่สั้นจนยาว,แะเดินในป่าประมาณ2km,ซึ่งมันก็ไม่ยากใช้เวลาประมาณ40นาทีที่จะดูรอบๆ,คิดรวมขึ้นและลงเขา.และทางเดินลงเขาและขึ้นเขาทั้งหมดไม่มีบันได,และส่วนพื้นปูด้วยไม้.นอกนั้นก็เป็นหินเรียบอย่างที่โชว์ในรูปด้านบน,ซึ่งโอเคที่จะเอารถเข็นเด็กหรือรถเข็นไป.

นี่เป็นบ่อน้ำแร่,คุณรู้มั้ยทำไมป่านี้ถึงชื่อ'Jeolmul'?ด้านข้างของบ่อน้ำแร่มีกุฏิชื่อYaksuam,เพราะว่าน้ำนั้อยู่ติดกับวัด,มันชื่อ 'Jeolmul'. น้ำแร่มาจากบ่อน้ำแร่ที่สามารถรักษาโรคต่างๆ,และเมืองเจจูจัดการน้ำเป็นอันดับที่หนึ่ง.

ผมเข้ามาค่อนข้างลึก,และทางเดินไม้ก็ยังต่อไป.เห็นผู้หญิงกำลังลากรถเข็นเด็กทางนี้ทำให้เห็นว่าทางนี้มันง่ายขนาดไหน?

นกตัวเล็กๆสร้างบ้านตรงกิ่งต่ำๆ.เมื่อผมดูมัน,มันไม่มีไข่,อาจจะมีไข่และลูกนกก็โตขึ้นทีหลัง.

ตอนนี้,ผมมาเกือบรอบ.หายใจลึกๆครั้งสุดท้ายเพื่อทำให้ปอดโล่ง.

มีต้นหญ้าที่สีไม่เหมือนต้นไม้อยู่ใต้ต้นซีดาร์.มันเหมือนกับว่าเป็นที่ที่คุณสามารถเข้าไปตรงกลาง,และสามารถดูใกล้ๆ,ดูน่าเดินและคุยกับลูกๆของคุณ.

ผมน่าจะกินอะไรซักหน่อยเพื่อเป็นรางวัล,ที่ได้ใช้พลังงานในการเดินหนึ่งชัวโมง.ฮิฮิ~กาแฟดำหนึ่งถ้วยและขนมปัง Olle-gilน้ำผึ้งKya~มีทางเดินเรียกว่า Saryeoni,ยาว 3.3kmจากอุทยาน Jeolmul.ผมจะกินก่อนและแนะนำทางที่คนไม่เยอะตาม Saryeoni ,ที่ที่จอดรถง่ายๆ.รอเดี๋ยว!

+ ที่อยู่: San 78-1, Bonggae-dong, Jeju-si, Jeju-do + โทรศัพท์: 064-721-7421

Namokdo,ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในเจจูที่ซึ่งชาวท้องถิ่นชื่นชม

สมัยนี้มีเกสท์เฮาส์ที่ถูกกว่าและสะอาดกว่า,ต้องขอบคุณเที่ยวบินแบบประหยัด.แต่เพราะว่านักท่องเที่ยวต้องซื้อกินทุกมื้อ,ราคาของร้านอาหารที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยังเป็นภาระ.ดังรั้น,วันนี้ไปที่
Namokdo กันเถอะ, ตั้งอยู่ในGasi-ri,
Pyoseon-myeon ที่ที่เราสามารถอร่อยกับหมูท้องถิ่นด้วยราคาที่เหมาะสม.

Namokdoนั้นเห็นได้ตรทางเข้าหมู่บ้าน Gasi-ri.มันเป็นร้านอาหารธรรมดาๆในชานเมืองของเจจู,ซึ่งไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆ,แต่ชื่อเสียงมันนั้นกว้างไกล,และนักท่องเที่ยวมากมายชอบรสชาติอาหารและราคาที่ถูก.

เพราะว่านักท่องเที่ยวหลายคนถ่ายรูป,เด็กท้องถิ่นก็ทำท่าดีดีสำหรับถ่ายรูป.ผมจะให้แว่นตาเจ๋งๆกับพวกคุณ,สำหรับรูปของคุณใช่มั้ย. ^^ *

นี่เป็นบอร์ดเมนูของร้าน Namokdo.มีเมนูที่มีชื่อเสียงมากมายจากซี่โครง,หมูสามชั้น,และเนื้ออื่นๆและ sundaeกับเครื่องเคียงและอื่นๆ.

ราคานั้นเหมาะสม,ใช่มั้ย? ถ้าคุณอยากกินหมูสามชั้นที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่เจจู,200g สำหรับหนึ่งคนประมาณ15,000วอน.แต่ที่นี่ที่ร้าน Namokdoราคา9,000วอน,แม้แต่เนื้อดิบราคา6,000วอน .และบะหมี่ราคา 3,000วอน!!! เรามาเพื่อกิน,ดังนั้นเราสั่งของย่างสำหรับสองที่.

เครื่องเคียงสี่ที่และssamjang,ผักก็ถูกเสริฟ.กิมจิและkkakdugi รสชาติแตกต่างจาก Seoul/Gyeonggi นิดหน่อย,แต่มันก็ไม่แย่มาก.

และปลาหมักนี้,ซอสที่ชาวท้องถิ่นกินกับเนื้อ !!ปลาหมักที่ใหญ่ๆ.มันมีรสขาติคาวๆของปลาหมัก.สำหรับคนที่เกลียดรสคาวๆคงจะไม่กิน,แต่สำหรับคนที่เกิดริมทะเล,อย่างผม,จะอร่อยกับมันด้วยการกินกับข้าว.

พวกเขาเสริฟเนื้อย่างบนที่ย่างและเทน้ำซุปลงไป.หลังจากนั้นลูกค้าควรจะทำและกินด้วยตัวเอง.

ผมสงสัยว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง,แต่ตอนนี้ผมเห็นมันเหมือนผัดเผ็ดหมู,กับพริกแดงบด.เมื่อหมูสุก,คุณสามารถใส่ถั่วงอกและปรุงรสด้วยน้ำส้มและผัดมันด้วยกัน.

ข้าวหนึ่งถ้วยเป็นตัวเพิ่มรสชาติ,ดังนั้นตอนผมสั่ง,เขาจึงเสริฟซุปหัวไชเท้าด้วย.

ผมชอบความอบอุ่นแบบบ้านๆ,ข้าวนั้นเหลือเฟือ.

เมื่อหมูเกือบสุก,ไม่ต้องรอพนักงานเสริฟและใส่ถัวงอกกับหัวหอมในน้ำส้มด้วยตัวเองเลย.

มันอร่อยถ้ากินเนื้อกับถั่วงอกและต้นหอมและผักกาด~

หรือผสมเนื้อกับข้าวก็อร่อเหมือนกัน.

Gasi-ri Pyoseon-myeon, เป็นที่ที่ร้าน Nomokdoนั้นตั้งอยู่,มันเป็นหมู่บ้านชานเมืองเงียบๆในเจจู.

หลังจากคุณกินเสร็จ,เดินรอบๆหมู่บ้านเพื่อการย่อย.

เหมือนอย่างในรูป,เด็กๆที่บริสุทธิ์เข้ามาขอถ่ายรูป,หรือลูกหมาน่ารักๆในหมู่บ้านเดินตามเล่นกับคุณ.

ฮิฮิ ผมพยายามถ่ายรูปภรรยาผม,และลูกหมาก็พยายามเข้ามาระหว่างเรา.

เจ้าลูกหมาตัวนี้ต้องฉลาดมาก.เราหัวเราะเยอะมาก,ตลกเพราะเจ้าหมาตัวนั้น.

ร้านNomokdo นั้นจริงๆแล้วมีชื่อเสียงในท้องถิ่น,แต่ไม่นานมานี้ก็เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว,มีนักท่องเที่ยวมากมายมาที่นี่.ยังไงซะ,มันก็ยังเป็นร้านอาหารของชาวท้องถิ่นซึ่งเราได้ยินภาษาเจจูในระหว่างทานอาหาร.อาหารนั้นอร่อยและเยอะมาก,แต่เราก็ยังได้สนุกกับบรรยากาศที่เป็นมิตรของชนบทในเจจูที่ร้าน Nomokdo.

+ ที่อยู่: 1877-6, Gasi-ri, Pyoseon-myeon, Seogwipo-si, Jeju-do

+ โทรศัพท์: 064-787-1202

+ เวลาทำการ: 9:00 เข้าถึงสองทุ่ม, วันหยุดไม่แน่ชัด.