Gwangju Museum of Art
เราวิ่งเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ ศิลปะ ระหว่าง "ืพิพิธภัณฑ์พื้นเมืองGwangju” และ"พิพิธภัณฑ์ ศิลปะGwangju” เพราะไม่เพียงแค่เราอยากที่จะหาที่หลบฝนแต่พิพิธภัณฑ์นี้ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง.
อย่างที่สอง,เรากังวลว่าเราจะไม่ได้ดูการแสดงที่พิพิธภัณฑ์พื้นเมือง.มันน่าเสียดายที่เราเลือกเพียงแค่ที่เดียว.
ไม่เหมือนกับด้านนอกอาคารที่เปียกจากฝน,มันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สวยทีเดียว.มันเต็มไปด้วยแสงสีที่สดใส.
พิพิธภัณฑ์นั้นดูสมัยใหม่และจัดการอย่างดีจากทางเข้าเพราะมีเพียงสามถึงสี่ชิ้นในล็อบบี้ใหญ่ๆ.
ที่ด้านหน้าห้องขายตั๋ว,มีเซรามิคสีขาวที่ยาวกว่า2เมตรกับผีเสื้อแสนสวย.พื้นที่นี้เป็นที่นิยมในการถ่ายรูปในหมู่ของเด็กๆ.
เมื่อเรามาที่พิพิธภัณฑ์,มันมีนิทรรศการ, “ความหวานตั้งแต่ปี1980” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 20ปีของGwangju Biennale.มันเป็นธีมที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของผู้ต่อต้านเหมือนกับที่ 5.18 ต่อสู้เพื่อต่อต้านอธรรม,ความรุนแรง,และความไม่เท่าเทียมกัน.
เราจ่ายเพียงแค่500วอนที่ห้องขายตั๋วและที่มุมหนึ่ง,มีภาพวาดบนผนังสีขาว.
เราไม่สามารถหารายละเอียดความหมายของงานแต่ละงานได้เพราะเราเป็นพวกที่ไม่เก่งเรื่องวาดภาพ,แต่เราเดาว่าผู้หญิงคนนั้นใส่กระโปรงสีดำและเสื้อแจ๊กเก็ตแบบเกาหลีสีขาวที่มีบางอย่างกับเกี่ยวกับผู้หญิงที่ให้ความสำราญกับกองทัพญี่ปุ่น.
ศิลปิน49คนจาก17ประเทศเข้าร่วมในนิทรรศการนี้ในหลากหลายวิธีในการวาดภาพและการแสดงของพวกเขา.
มันดูเหมือนภาพของชาวจีนประมาณสมัยไลเบเรียน.ผมเดาได้เยี่ยมมั้ย?สิ่งที่จัดแสดงที่ยิ่งใหญ่นี้บวกกับงานไม้แกะสลักโดยศิลปินชาวจีน.
มันดูเหมือนการนำเสนอภาพของยุคสมัยการครอบครองของญี่ปุ่น.สิ่งประกอบของมันนั้นมีความสำคัญแต่มันทำให้ผมนึกถึงชั่วโมงศิลปะในตอนที่ผมเป็นเด็กตอนที่ผมสนุกกับการเอากาวทากระดาษแล้วเอาทรายโรย.
พิพิธภัณฑ์นั้นดูมีสไตล์และเจ๋งเนื่องจากเพดานที่สูงและห้องที่กว้าง.มีผู้มาเยี่ยมชมไม่มากเนื่องจากฝนที่ตกหนักแม้ว่ามันจะเป็นสุดสัปดาห์.สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกถึงบรรยากาศที่แท้จริงของพิพิธภัณฑ์.
มันดีที่ได้เห็นหลายๆคนคุ้นเคยกับชิ้นงานศิลปะที่วาดด้วยเพียงสีแดง.
“ แคลก แคลก แคลก~วิซ ".เสียงพิมพ์นั้นดังไปทั่วแกลลอรี่.คนตัวเล็กๆที่มีแสงนีออนสว่างๆนั้นกำลังโชว์.เขานั่งเอาหัวลงอยู่ตรงหน้าโต๊ะไม้หนาๆในมุมห้อง.งานนั้นนำเสนอฉากที่ชายคนนั้นถูกสอบสวนจากตำรวจ.ถ้าคุณดูดีดี,คุณสามารถที่จะเห็นได้ว่าเขาคือพระเยซู.
มีงานที่แสดงถึงการสะท้อนของแสงโดยใช้บันไดบางๆพาดตรงทางลาดไปยังชั้นสอง ( จริงๆแล้วคือชั้นหนึ่ง).มันดูน่าจับใจที่มันสามารถที่จะสร้างการสะท้อนจากสิ่งของธรรมดาเช่นแสงและบันได.
มันเป็นจุดแช็งและจุดอ่อนของพิพิธภัณฑ์ใช่มั้ย?มันมีโครงสร้างที่ธรรมดาแต่บางอย่างทำให้เกิดความสับสนที่จะกลับไปยังห้องน้ำหรือทางเข้า.
ในส่วนเพิ่มเติม,พิพิธภัณฑ์ไม่ใช่ที่ที่เราคุ้นเคย(?).ดีที่ว่า,มันมีผู้ดูแลพิพิธภัณฑืหลายคนที่นี่และในพิพิธภัณฑ์และพวกเขาก็คอยช่วยเหลือและแก้ไขความไม่สะดวกสบายในทันที.
ผมไม่รู้ว่าเราหามันไม่เจอ,แต่ว่าถ้ามันมีใบปลิวของงานศิลปะ,มันน่าจะดีกว่าในการเข้าใจจุดประสงค์ของงานศิลป์.
ถ้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะเพียงแค่จัดแสดงงานศิลป์,เด็กๆก็จะเบื่อ.ครึ่งหนึ่งของชั้นแรกนั้นทำเป็นส่วนทำงานศิลปะสำหรับเด็กๆ.
เด็กๆสามารถที่จะวาดรูปและภาพเหล่านี้ก็จะถูกรวบรวมเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นผลงานชิ้นใหญ่.มันเป็นส่วนที่จะได้มีส่วนร่วมในการทำงานศิลปะ.
อย่างนี้,พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Gwangjuมีนิทรรศการที่หลากหลายกับส่วนของการหาประสบการณ์สำหรับเด็กและงานวีดิโอ,เช่นเดียวกันกับภาพวาดเเละรูปปั้น.มันเป็นที่ที่เี่ยมโดยเฉพาะการสนุกกับข้อได้เปรียบทางวัฒนธรรมด้วยราคาเพียง500วอน ( ผู้ใหญ่),ยิ่งเราพอใจกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Gwangjuมากเท่าไหร่,เราก็ยิ่งรู้สึกแย่ที่ไม่ได้ชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Gwangjuมากเท่านั้น.
แผนที่ : click
ที่อยู่ : 164, Unam-dong, Buk-gu, Gwangju-si
โทรศัพท์ ; 062-613-7100
เวลาทำการ : 10 โมงเช้า ~ 6 โมงเย็น วันจันทร์/วันหยุดปิด
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 500 วอน / ผู้เยาว์ 300 วอน / เด็ก 200 วอน
โฮมเพจ : click
คาเฟ่ชาเกาหลีและเค้กDadam Gang Deok-sun
พิพิธภัณฑ์ศิลปะGwangjuนั้นดีสำหรับการเดทแต่คาเฟ่ชาเกาหลีและเค้กDadam Gang Deok-sun นั้นที่ตั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของพิพิธภัณฑ์นันก็ยิ่งดีเป็นพิเศษ.
คุณสามารถที่จะเข้าไปยัง'Dadam'ที่เรียกว่าคาเฟ่เค้กข้าวโดยตรงผ่านทางเข้าที่ด้านหนึ่งของล็อบบี้.คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเดินออกไปข้างนอกอาคาร.
ด้านในนั้นถูกตกแต่งด้วยต้นไม้,โคมไฟสีเหลืองที่ทำจาก Hanji ( กระดาษแบบเกาหลีดั้งเดิมที่ทำจากต้นมัลเบอรี่),และตกแต่งจากเพดาน.พวกมันสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสบายในคาเฟ่.
เนื่องจาก'Dasarop'สถานที่ที่เราไปเมื่อคืน,ที่นี่เป็นสถานที่ที่เสริฟชาแบบดั้งเดิม.บนเมนู,มีชื่อของชาที่ไม่คุ้นเคยของคนหนุ่มสาว.มันมีเพียงแค่กาแฟสองสามอย่าง.
คาเฟ่นี้เต็มไปด้วยผู้คนไม่คำนึงถึงอายุ.มันยากที่จะหาที่ว่าง.มันอาจจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องมาสำหรับคนที่มาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ซิลปะ.
ฝาผนังนั้นเต็มไปด้วยของตกแต่งที่สีสันสดใสและสิ่งที่ทำด้วยมือหงายๆชนิด.ลูกค้าต่างก็พากันถ่ายรูปของพวกมันตามผนังขณะที่พวกเขากำลังดื่มชา.
นอกจากนั้น,ของเหล่านี้ยังขายอีกด้วย.แต่ละอันมีป้ายราคาอยู่.เราต้องชอบมันมากๆเพราะว่ามันไม่ได้ถูก.
ขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆคาเฟ่, “น้ำแข็งใสชาเขียว"ก็มาเสริฟ,น่าตกใจมันไม่เหมือนกับที่อื่นๆ,พนักงานของคาเฟ่นี้จะเอาของที่เสริฟมาให้เราแทนที่จะให้ระฆังเวลา.
น้ำแข็งใสชาเขียวมีไอสครีมชาเขียว,ถั่วแดง,และเค้กข้าวอยู่เยอะ.มันใส่อยู่ในภาชนะทองเหลืองที่ทำให้น้ำแข็งใสดูพิเศษ.
แจกันเล็กๆที่ทำให้ผมฝันถึงเวลาว่างและความสง่างามคลาสสิกและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์.มันเป็นไปได้มั้ยที่จะพูดว่า วัฒนธรรมDeom ( เพิ่มความพิเศษ) นั้นเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมดั้งเดิม? เค้กข้าวเสียบไม้สองชิ้นก็มาเพิ่มพร้อมเครื่องดื่ม.
“ ไม้วอร์มวู้ดย่าง และ Injeolmi”ก็ออกมาหลังจากนั้นไม่นาน.แป้งถั่วที่เข้มข้น,ถั่วแดง,พุทราแห้ง,และน้ำผึ้งก็โรยอยู่บนไม้วอร์มวู้ดย่างและInjeolmi.โดยปกติแป้งถั่วนั้นจะโรยระหว่างไม้วอร์มวู้ดInjeolmi และจานเพราะมันติดอยู่กับจาน.คุณสามารถอร่อยกับรสชาติของแป้งถั่ว.
* Injeolmi : เค้กข้าวแบบเกาหลีดั้งเดิมทำจากกลูตินของข้าวและเคลือบด้วยแป้งถั่ว.
เมื่อคุณตัด Injeolmiหนึบๆกับกลิ่นหอมละมุนของวอร์มวู้ดด้วยมีดไม้และส้อมและเอา Injeolmiเข้าปาก,คุณสามารถอร่อยกับความหวานจากน้ำผึ้งในปากของคุณ.พุทรากรุบๆและถั่วทำให้ผมมีความสุข.
ตามความเห็นของCholidingi ผู้ที่ลองกินนิดหน่อย,มันเป็นรสชาติของน้ำผึ้งชั้นดี.มันเป็นความเห็นที่น่าเชื่อ,แต่รสชาติและความกลมกล่อมของส่วนผสมนั้นยอดเยี่ยม.มันเป็นเมนูที่ต้องแนะนำ.นอกจากนั้น,เราสามารถที่จะเติมความสดชื่นด้วยน้ำแข็งใสเย็นๆกับชาเขียว.มันเหมือนกับว่าเราอยู่ในสวรรค์.
เราสนุกกับเวลาของเราในสวรรค์และมองออกไปนอกหน้าต่าง.” ว้า.....”ฝนยังตกหนักอยู่.มันหกโมงเย็นแล้ว.เราไม่มีเวลาแล้วดังนั้นDadam จึงเป็นสถานที่สุดท้ายของเราในทริปนี้.มันน่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาที่จะไปพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Gwangju,แต่ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้,เราต้องวิ่งฝ่าฝนที่ตกหนักอีกครั้งมุ่งหน้าไปสู่ท่ารถด่วน.
แผนที่ : click
ที่อยู่ : 164, Unam-dong, Buk-gu, Gwangju-si
โทรศัพท์ : 062-522-4100
เวลาทำการ : 10 โมงเช้า ~ ห้าทุ่ม/ปิดวันหยุด
ราคา : น้ำแข็งใสชาเขียว 9,000 วอน/ วอร์มวู้ดย่างและ Injoelmi 8,000 วอน