Holiday Journal

Holiday Journal
Hi, Lets look around cool places in Korea together with me! :)
7486 | 20067734

Jecheon #2 - เมจง ดึ พาสต้า , ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรม - (Korea Tour)
 | Holiday Journal
最終更新日 : 2017/04/04

旅行地域 : South Korea
 | 閲覧数 : 536635
https://blog.lookandwalk.com/ja/blog/mazinguide/1533/trackback

ร้านอาหาร อิตาเลี่ยนสาขาหนึ่ง , เมจง ดึ พาสต้า 메종 드 파스타


เวลาที่ผมไปเที่ยว ผมมักจะไม่พลาดที่จะหาร้านอาหาร ที่อร่อยสักร้าน .เพราะในตาละภูมิภาคท้องทิ้ง ไม่สามารถที่จะหากิน ได้ง่ายนักที่ผมอาศัยอยู่. แต่ครั้งนี้ ได้มาเที่ยวที่เจชอน .ผมจึงตัดสินใจเกี่ยวกับพาสต้าที่จะสามารถกินได้ทุกที่ในเกาหลี แต่ข้ออ้างของฉันก็คือสภาพอากาศชื้นเกินไปและร้อนดังนั้นเราจึงต้องการที่จะมีอาหารที่ผ่อนคลายในร้านอาหารที่เย็นสบายและโรแมนติกแทนที่จะเป็นอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม.



และแล้ว ผมก็ได้ พบกับร้าน เมจง ดึ พาสต้าตำบล จังรักซึ่งอยู่ ไม่ไกลจาก ตัวเมือง เจชอน . พอมาถึง ผมก็ได้ มองไปรอบๆของตัวร้าน , จะเรียกว่าร้าน กาแฟ เลยที่เดียวก็ไม่ใช่ แต่ แต่จะออกเป็นแบบร้านกาแฟกึ่งเรสเตอรรอง แบบวัยรุ่นๆได้ใช้บริการ เพราะที่นี้ การตกแต่งให้ความรู้สึก โรแมนติก หอมกรุ่นปด้วยความรัก ของ เด็กๆวัยรุ่น



พอผมได้เดินขึ้นบันได ตรงประตูทางเข้า และ ได้เห็นป้ายเชิดชูและเกียรติบัตร ของเชฟ. ผมเริ่มที่จะรู้สึกตื่นเต้น และ มีความรู้สึกว่าอาหารนี้ ที่จะทำให้ ผม มีสุขภาพดีไม่ต้องพูดถึงเลย ว่ามันจะอร่อยแค่ไหน.


ถ้าเป็นช่วงวันธรรมดา ช่วงบ่าย3โมง จะเลียบๆ ไม่ค่อยมีลูกค้า. ผมเองก็ไม่ได้คาอหวังอะไรมาก เพราะ เจชอน ก็เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบและถ้าจะว่าไปแล้ว ก็ดูเป็นเมืองชนบทเล็กๆ แต่เจ้าของร้านได้ ตกแต่งร้านได้ ทันสมัย มาก .ภรรยาของผม พูดว่า ที่ทุกสถานที่ ที่เราไปจะมีอาหารที่เป็น ร้านอาหารแบบดั้งเดิมของเกาหลี ที่เราต้องนั่งอยู่บนพื้นในทุกการเดินทาง แต่มีอาหารมื้อนี้ ที่ร้านอาหารแห่งนี้กลับกลายทำให้ มื้อนี้เป็นมื้อที่โรแมนติกที่สุดของการเดินทางครั้งนี้




ในเจชอน มันดูเป็นเมืองแนว วินเทจ ผมว่านะ เงียบสงบ และเป็นเมืองที่สะอาด ,ผมชอบมันนะที่นี้



ช่วงบ่าย3โมง ไม่มีลูกค้าร้านจึงคอนข้างเงียบ และ พวกเขาก็เสิร์ฟน้ำ และ ยื่นเมนูในทันที แม้แต่ข้างในเมนูก็ยังดูสวยงามและน่ารัก ใช่ไหมล่ะ?


ผมลองเช็คดูที่แผ่นขนมปังแบนๆ มันเป็นพิซซ่าแป้งบาง ตั้งแต่ผม ขาดน้ำตาล จากที่หลบเหลี่ยงการเดินทางในสภาพที่อากาศร้อนดังนั้น ผมจึงมี สั่งเอา มะนาวเบอร์รี่ ขนมปังที่แบน ผมว่า ราคาที่นี้ถูกกว่าถ้าเทียบกับ ที่ ในกรุง โซล/และคิยองกิโด และผมก็หวังว่าความอร่อย ก็คงเหมือนกัน


ถ้าหากเป็น พิซซ่าชนิดหวาน ของภรรยาผม ,ส่วนผม ต้องเป็น พิซซ่า แบบ Toowoomba แบบเผ็ด



เมนูอาหารที่สั่ง ทั้งขนมปังและ สลัด จะนำมาเสริฟ พร้อมกัน



ขนมปังอุ่นร้อน นุ่มๆและเบา ที่เข้าทานกันได้ดีกับซอสบัลซามิก



สลัดที่ทำจากผักปลอดสาร ผสมกับ ถั่ว จะเสิร์ฟพร้อมกับซอสมะนาว หรือซอสบัลซามิก .แล้วแต่คุณจะชอบแบบไหน. ขนมปังที่เสิร์ฟก่อนอาหา รมีซอสให้เราเลือกได้ตามใจชอบ ซอส บัลซามิก ซอสมะนาว สำหรับสลัด .ผมตักถั่วจำนวนมากดังนั้น ซอสมะนาวหอม จะทำสดชื่น และน้ำสลัด ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร


ก่อนจะเสริฟพาสต้า , พวกเขาให้ ผักดอง 2อย่างกับ ผม, แปลกที่ มันไม่ได้ เป็นหัวผักกาดขาว แต่มันเป้นหัวไชเท้าอ่อน .พอได้ลิ้มรสหัวไชเท้าดองอ่อน มีรสชาติทั้งหวานและเปรี้ยว.ที่ เมจง ดึ พาสต้า ได้เพิ่มความสดชื่นด้วยสมุนไพร เป็นกรุบกรอบ มันเป็นความแตกต่าง ที่ไม่ซ้ำกัน และอร่อย ซึ่งทำให้เรามองแวบเดียวก็รู้ว่า ในมุมมองของเชฟ , ได้มีการรังสรรค์และการพยายามในแต่ละเมนู



ส่วนอย่างที่2 หอมหัวใหญ่ดอง,แตงกวา , ก้านกระเทียมดอง . มันค่อนข้างคล้ายกับการดอกผัก ของเกาหลี.ถ้าใคร ไม่โอเคกับการทานพิซซา อย่างเดียว .คุณควร ต้องทาน พวกผักดอง เมื่อใดก็ตาม เมื่อคุณต้องการกิน กิมจิ



ผม ได้สั่ง 'Toowoomba พาสต้ามา. พวกเขาให้ผมลองชิมดูก่อน เพราะมันเผ็ดอยู่แล้ว,แต่ ซอสสีแดงทำให้ผมน้ำลายไหล


ในครีมซอสเผ็ด ,ใช่เส้นพาสต้าลิวกินีแบนๆ ที่ได้รับเสริฟ ปริมาณมากพอที่จะกินกับกุ้งที่มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้น 2ตัว, เห็ดและผักชนิดหนึ่ง,เห็ด และผักบร๊อคโครี่



ถ้าลองลิ้มรสชาติซอสเผ็ดที่ราดบนตัวกุ้ง แต่ในเวลาเดี่ยวกัน ถึงแม้จะเผ็ดแค่ไหน ผมก็ไม่หยุดทานได้ .เหงื่อบนตัวของผม ก็ไม่สามารถ ที่จะทำให้ผมหยุด สนุกสนานกับการกินได้เลย



ภรรยาของผม ได้สั่ง พิซซ่าเบอร์รี่มะนาว มันถูกเสิร์ฟออกมาจากเตา มันมีขนาดใหญ่พอที่จะกินได้ 2 คนและยังมีซอสมะนาวที่นำมาใช้ทาบนขนมปังพิซซ่าแผ่นบาง (แป้งแบน) และยังมี ผลเบอรรี่ และ บลูเบรรี่ให้เลือกได้ถึง 3ชนิดและชีสที่โรยอยู่บนหน้า พิซซ่า อีก2 ชนิด


รสหวานของมะนาว ~รสชาติที่หวานและสดชื่นของผลเบอร์รี่ ~มันคืออะไรที่สมบูรณ์แบบและยังมีรสชาติชีสที่นุ่มลึกลงไปและแสนจะอร่อย


ขนมปังมะนาวเบอร์รี่ แผ่นบาง จะเป็นที่นิยมอย่างยิงใน หมู่ผู้หญิง และ เด็ก ภรรยาของผมรู้สึกเหนื่อยจากการเดินทางอันแสนยาวนาน ในสภาพอากาศที่ ร้อน แต่หลังจากที่ได้กินพิซซ่าอันแสนหอมหวาน และ อร่อยเธอเริ่มฮัมเพลงอย่างต่อเนื่อง และ มีความสุข



เมื่อพ่อครัวผู้ใจดี ได้เห็นผมกินพิซซ่า Towoombaที่เผ็ดร้อน และเหงื่อก็ชุ่มออกทั้งตัว และภรรยาของผม ดูเธอจะมีความสุขและสนุกสนาน กับการกินพิซซ่า.แล้วเขาก็ยังให้ กาแฟอเมริกาโน่เย็น ฟรี 2แก้ว แก่ผม และภรรยา เขาบอกว่าอันนี้ไม่มีในเมนูนะครับ เป็นการบริการของทางเรา..เขาเป้นคนใจดีที่สุดเลยครับ !!!


ในขณะที่เรา มีมื้ออาหาร ที่ร้านอาหาร ลักษณะคล้ายๆ หรือเหมือนกับร้านอาหารย่าน คังนัม.แต่ถ้าเรามองออกไปข้างนอก หน้าตา มันเป็นร้านหนึ่งในเจชอน .ฝั่งตรงข้ามถนนทั้งหมด ที่เราจะได้เห็น เป็นบ้านไวนิล แล คนเฒ่าคนแก่สั กสองสามคนพัดวี ตัวเองอยู่ ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใส่เสื้อผ้าที่สว่าง โปรงซึ่งแทบจะลักษณะเหมือนชุดชั้นใน

เมจงดึ พาสต้า ใน ตำบล จังรัก เมืองเจชอนแห่งนี้ มีการตกแต่งที่ทันสมัย, มีทั้งบริการอาหารที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม แล ะการบริการ ที่ดีที่สุดที่เคยกินมา หากคุณ มีแนวโน้มที่จะกินอาหารพื้นบ้านของเกาหลีตลอดเวลาในการเดินทาง ทำไมคุณไม่ลองมื้ออาหารที่ผ่อนคลาย กับที่นี่สักครั้งละครับ?

Map

ที่อยู่ : ชั้น2 , 543,ตำบลจังรัก , เมืองเจชอน ,ชุงชองบุคโด (충청북도 제천시 장락동 543 2층)

เบอร์โทรศัพท์ : 043-651-4360



ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรม เจชอน 청풍문화재단지

ชองพุง มีที่ตั้งอยู่ทางด้านบนของแม่น้ำ นัมฮัน เป็นสถานที่ที่เคยถูกค้นพบมวัตถุโบราณเก่แก่เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่สมัย ยุดหิน ดึกดำบรรพ์ มีการตรวจสอบพบว่า เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ของทุกเพศทุกวัยก่อนสมัยประวัติศาสตร์.และในช่วงระหว่าง 3แผ่นดิน จองพุง ก็ได้ กลายเป็นเขตส่วนกลาง รุ่งโรจน์ของวัฒนธรรมว่า แต่ทว่าก็ เป็นสมรภูมิที่โหดร้ายสำหรับการขยายดินแดน ระหว่างซิลล่า และ โกคุเรียว.แม้แต่ในยุคสมัยราชวงศ์โชซอนการพาณิชย์และวัฒนธรรมที่ได้รับการพัฒนาโดยใช้การจราจรทางน้ำเป็นศูนย์กลางของการขนส่งในภูมิภาค .ถ้า 1ใน5 หมู่บ้าน ทั้งหมด 61หลังคาเรือน ในCheongpung-Myeon, เมืองเจอชอน ได้อันตรายจากการถูกน้ำท่วม หลังจากที่ตั้งของเขื่อน อเนกประสงค์ ชุงจูปี 1978, วัตถุโบราณต่างๆก็ได้ถูกย้ายไปยังนี้ ชองพุงศูนย์มกดก ทางวัฒนธรรม สถานที่ให้บริการแห่งนี้จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง



ตรงทางเข้า ของศูยน์มรดก ทางวัฒนธรรม ชองพุง เป็นประตูที่เปิดสู่ อดีตของเจชอน ชองพุง และ ชองพุงบู และได้ถูกตั้งชื่อตาม พัลยอง-ซิ (บทกวีที่เกี่ยวกับ พัลยอง ) ที่ ร้องเพลงเกี่ยวกับทัศนียภาพที่ดีที่สุดใน ชองพุง ทั้งหมด8 บทกวีโดย รอง มิน จี-ชาง ในยุคสมัยของกษัตริย์ โกจอง ในเวลา เดียวกันก็ถูกย้ายมาที่นี่ในปี 1983 หลังจากที่เขื่อนชุงจูถูกสร้างขึ้น


☞ พัลยองซิ (八詠詩) เกี่ยวกับ 8 ทัศนียภาพที่ดีที่สุดในชองพุง มีดังต่อไปนี้


淸湖眠鷺 (Cheonghomyeonro ): นกกระสาสีขาวที่กำลังง่วงนอนในทะเลสาบที่ใสสะอาดเป็นสิ่งที่สวยงาม

島落雁 (Midorakan):ห่านป่าที่ร่อนอยู่ในท้ายเกาะดูงดงาม

巴江流水 (Pagangryusu):คลื่นที่ไหลผ่านอย่างช้าๆแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ

錦屏丹楓 (Geumbyeong Danpung):ใบไม้สีแดงที่บน ภูเขา กึมจอง ที่ดูเหมือนว่ามันจะถูกรายล้อม และเสียงใบไม้ ที่ สลับพัดไปมาบางเบา เหมือนผ้าไหม มันช่างวิเศษ

津暮煙 (Bukjinmoyeon):หมอกในตอนเย็นที่ท่าเรือ บุคชิน ที่มีความเป็นเอกลักษณ์

霧林種聲 (Murim Jongseong): เสียงจากกระดิ่งในตอนเช้า ที่ดัง มาจาก ป่าที่เต็มไปด้วยหมอก มันช่างงามน่าดู

飛鳳落照 (Bibongnakjo)และพระอาทิตย์ตกดิน ที่ภูเขา บิบง นักโช ช่างน่าเป็นที่งดงาม



★คุณต้องเสีย ค่าผ่าน ประตู ศูนย์มรดก ทางวัฒนธรรม .

+ ผู้ใหญ่ 3,000 วอน / นักเรียน/ ทหาร (ทหารเกณฑ์ )2,000 วอน / เด็ก 1,000วอน .

+ ไม่เสียค่าใช้จ่าย : เด็กก่อนวัยเรียนผู้สูงอายุ บุคคลแห่งชาติ และ คนพิการ

+ เวลาเปิดทำการ: 09.00-18.00 (ถึง 17.00 เฉพาะ เดือน พฤศจิกายน –กุมพาพันธ์)



ลองไปชมภายในผ่าน พัลยองรู เมื่อเข้าสู่ระบบ ในหน้าของสัญญาณ รายการ ท่องเที่ยว 2คืน 1 วันรายการวาไรตี้ทางช่องKBS



เมื่อคุณ เข้าไปแล้ว,แล้วคุณจะเห็น แท่นหินโม่ที่ ทำงานอยู่โดยวัว. ในสมัยก่อน มีโรงสีที่ใช้กันทั่วไป โดยผู้คนในแต่ละหมู่บ้าน , อาคารส่วนใหญ่ และ สินค้าที่ถูก แสดงที่นี่ ถูกนำมาใช้จริงใน เขตหัวเมือง สมัยก่อน



ถ้ามองข้ามกำแพงที่ต่างระดับเข้าไป บ้าน หลังเก่าๆ ทั้งหมด hwangseokri, dohwari, husanri jigok-ri giwa –jip ทำจากไม้และ อยู่ในในพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำ เมื่อ สมัย ราชวงศ์โชซอน แต่ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างในนั้นเสียงที่คึกคัก


อาฮ่า!! พวกเขา กำลังเล่นยด. สิ่งของมากมายที่มาจาก สมัยก่อน ล้วนมีราคาแพง จึงได้รับการรักษาเป็นอย่างดี

นอกจากนี่รักท่องเที่ยวก็ยังได หยุดพักขา และพักผ่อน



ห้องครัวเก่าๆ สมัยก่อน ทำให้ผมจำได้ว่า สมัยก่อน คุณยาย ก็อยู่ในนี้ นั่งยองๆอยู่ มันทำให้ผมอยากร้องไห้ เมื่อเห็นภาพคุณแม่ และคุณยาย กำลัง ทำกับนข้าว หน้าเตาถ่าน ให้กับลูก



ถ้ามองผ่านกำแพงข้ามไป จะรู้ว่า มันสวยแค่ไหน ? ไม่รู้เลยว่า คว่ามงามที่อยู่หลังกำแพง ที่ต่ำ ๆ มันมีคำตอบให้คุณได้ค้นหา.



ในสวนที่เต็มไปด้วยต้นแอฟพริคอต และต้นผลไม้จำนวนมาก. ใครไปไปใครมา ก็อยากที่จะลองชิมสักครั้ง ถึงความอร่อย.



ดอกช่อบนต้นไม้ต่างพากัน ตกลงบนพื้น.ที่นี้ เป็นสวนที่มีหลากหลาย หนึ่งในนั้นก้มี ต้น balsam.ผมจำได้ว่า ผมเอากลีบใบมาห่อที่มือ มันทำให้เกิดสีแดง มันน่าตื่นมาตามากเลยทีเดียว



มองไล่เรียบตามกำแพงต่ำจะเห็นถึงบ้านเรือนระแหวกนี้ได้อย่างชัดเจน



เมื่อได้นั่งมานั่ง ด้านหลังกำแพงดูชองพุงโฮ และ น้ำพุ ซูกยอง มันช่างสวยงาม



น้ำพุซูกยองที่ชองพุงโฮจะปล่อยน้ำสูง ถง162 มิลลิเมตร และ เย็นสบายมาก .ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืน จะยิ่งสวยงาม เพราะจะมีการ เปิดไฟด้วยครับ.เวลาเปิดให้บริการ ตามด้านล่าง นี้ครับ

+ น้ำพุซูกยอง เปิดให้บริการ: 11.00, 13.30 ,15.00, 17.00, 20.30 (ปิดทุกวันจันทร์)

+ ในแต่บะครั้ง 18 นาที,และอีกครั้ง ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00



ผมนั่งทึ่งอยู่ที่มานั่ง และเงยหน้าดูไปบนต้นไม้ ที่มันกำลัง แผ่กิ่งก้าน ที่ดูเหมือนกำลังหักและ โชว์ผลที่น่ากิน

ผม อยากจะกินดูจริงๆ



ผมกำลังนั่งรอให้มันตกลงมา จากบนต้น .แล้วเอา ผลแอฟพริคอทมาล้างแล้วกิน มันคงจะหอมหวาน อร่อย .มันคงจะอร่อยน่าดู!



ผมสังเกตได้ว่า เจชอน เป็นที่นี้ ที่เต็มไปด้วย ต้นไม้และต้นผลไม้ นานาชนิด .อย่าง ต้นเถาวัลย์ ที่มีน้ำเต้า ห้อยอยู่. เมื่อตอนเป็นเป็นเด็ก ผมเคย เอาน้ำ ใส่ในน้ำเต้า แต่สมัยยนี้ ก็เปลี่ยนเป็นขวดพลาสติกแทน ..น้ำเต้า มันก็เริ่มหายไป ตามธรรมชาติ



เมื่อผมได้เดินขึ้นไปบนเนินเขา และ ดูที่ Seokmulgun(石物群) คุณจะได้เห็นประเพณีงานศพแบบดั้งเดิมในสังคมโบราณที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน.เขามีชื่อว่า , ที่รวบรวมหินมีค่า สินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่กำลังจะถูกฝังอยู่ที่ ชองพุงมีการสรางสุสาน และ ป้ายสุสาน ที่หลากหลาย .แต่ที่ติดตาผมที่สุด คือ โคลเวอร์ที่อยู่บนพื้น



ประมาณ10นาที ที่ผม มอง โคลเวอร์4กลีบ และ ทุกคน ยกเว้นแต่ผม ที่เห็นมัน .ผมได้เพียงแต่กะพริบตา เพราะดูมันน่ารำคาญในสายตาผม.


ที่นี้คือ อาคาร Cheongpung Hanbyukru(淸風寒碧樓) ชองพุง ฮันบยอกรู, กำหนดให้เป็นสมบัติ ที่ 528 ในเกาหลีมันติดอยู่กับอาคารที่รัฐบาลได้จัดตั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์ส่งเสริมการค้าภูมิภาคใน ชุงพยองฮยอน นี้ในปี ที่สี่ ของยุคกษัตริย์ ชุงซุกวัง ในราชวงศ์ โครยอทางด้ายซ้ายของอาคาร , มีห้องขนาดเล็กๆ มีชื่อเรียกว่า อีกรังที่ เชื่อมต่อกับบันได และเป็นที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้ในกลุ่มสามสถาปัตยกรรม อีกรัง ที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์โชซอน .โล่ประกาศเกียรติคุณของบทความเป็นลายลักษณ์อักษรบันทึกจากอดีตที่ผ่านมา ในบันทึกที่เขียนโดย ของ “เกซัน ฮวายัง คุกก “ บุคคลในมหาวิทยาลัย ที่ชือ ซงซียอล




ผมยังได้เห็นอีกด้านหนึ่ง ของ ชองพุงแดเคียว หรือ สะพานข้าม ชองพุง ที่ข้ามไปยัง ทะเลสาบ ชองพุงโฮ .มีลมพัดแรงเข้ามา มันทำให้ผม ระบายความร้อนได้ดีมาก ส่วนใหญ่ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นในส่วนของ ชุงจูมีชื่อเรียกว่า ชุงจูโฮ



แค่เดินข้ามเนินเขา ไปตามสันเขา ,คุณก็จะได้เห็น ป้อมปราการ มันวอล มีเส้นรอบวง โดยประมาณ 495 เมตร.และผมได้คิดว่าพวกเขาสร้างป้อมปราการเนื่องจากเป็นสนามรบที่เคยมีการสู้รบระหว่างโครยอและซิลลาในยุคสมัย 3แผ่นดิน.นี้เป็นสิ่งที่พิจารณาที่ถูกบันทึกได้ว่า มันเป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้น สมัย ของกษัตริย์ มุนมู ที่13 ของ3แผ่นดิน



ตรงนั้น มีคนที่กางเกงใน ถูกติดอยู่ในตูด ...คือฉัน .ไรหว่า ประสาทนี้เรียกว่า ปราสาท กึมบยองฮยอน ,สร้างในสมัยพรัเจ้า ซูกจง ที่7 และได้ใช้เป็นสำนักงานศาลปกครอง ของ ชองพุง –บู .มาทราบอาคารหลังนี้ วัตุประสงค์ คือใช้เป็นสถานที่ จัดตั้งตุ๊กตา.มันดูน่าสนุก.



มาตามดูเบื้องหลังต่อของ ศาลปกครองกับเส้นทางการสร้างในรูปภาพ ตรงประตูทางเข้าที่เรียกว่า ประตู" กึมนัมรู"คุณจะสังเกตเห็นได้ว่าจะมี สองเส้นทางที่ แตกต่าง กัน ที่นำคุณ ไปตรงกลางและประตูด้านซ้าย / ประตูด้านขวา.ส่วนประตูตรงการ มีไว้สำหรับ หัวหน้าหรือเจ้าหน้าที่ ในสำนักงาน .ส่วนประตูที่เหลือ สำหรับ บุคคล ทั่วไป.ถ้าเป็นสังคมสมัยนี้ คงจะเป็นเรื่องใหญ่น่าดู แต่ผมเข้าใจนะ ว่าโดยธรรมชาติ ก็จะเป็นแบบนี้แหละ




การเก็บรักษาสิ่งของโบราณวัตถุ พระธาตุ ในช่วงที่เกิดอุทกภัยสมัยก่อน ไว้ร่วมกัน ในสถานที่ที่เดียว มันง่าย กับการ ดูในระยะเวลาสั้นๆ.นี่คือ Jecheon Multar iพระพุทธรูปหินยืน กำหนดให้เป็นสมบัติที่ 546 ในขณะนี้. ที่ตอนแรก ไม่ได้มีหลังค่า จึงถูกโยกย้าย เข้ามาอยู่ในอาคาร หลังนี้ .คนสมัยก่อนบอกว่า ถ้า อธิษฐาน กับ พระพุทธรูปหิน และหมุน หิน ตามอายุของคุณ จะ สมหวัง กับสิ่งที่ขอที่ปรารถนา. ถ้าใครได้เสียค่าเข้าชมเพื่อที่จะเข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้.ผมขอเลย ว่า อย่ารีบเร่ง ในการเข้าชม.



แล้วอย่างอื่น ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ก็ได้ย้ายเข้ามาในพื้นที่นี้เช่นกัน



ถ้ามันจะใหญ่ขนาดนี้,มันคงเป็นบ้านที่ เจ้าหน้าที่ระดับสูง อาศัยอยู่



คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องนี้ใช้อะไร? นี้คือเครื่อง ผูกหรือ บิดเชื่อก .ที่ใช้กันในช่วงปี 1982,พวกเขาผูกเชือกกับเครื่องนี้และใช้เชือกผูกกัน.คุณเหยียบจักรให้เป็นจังหวะ และ สอดใส่ด้าย ลงไปในรู แล้วจะมีเสียงคล้ายๆ เสียงแตร .แล้วที่ผมเห็นออกมาก็เป้นเชือก ที่ทำมาจากฟางที่สวยงาม .ผมเหมือนกลับไปอยู่ในสมัยก่อนเลย




แต่ในปัจจุบันแห่งนี้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่แปลก เช่นห้องครัวและตะกร้าจริงๆของชนบทในเกาหลี แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อย. ผมจำได้ว่าแอบย่องขึ้นห้องครัวอยู่ข้างหลังแม่ของผม และ ขโมยน้ำตาล จากชั้นวางของตู้ ผมคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น



ในสนาม มี ยอซในการโยนไม้เสี่ยงทายและห่วง และ เจกี ที่ไว้เตะเล่น สำหรับเด็กๆ และ นักท่องเที่ยว ที่เป็นคนแก่ จะทำให้ ทุกคน นึกถึงย้อนไปในอดีต ส่วนสำหรับเด็กเกมพวกนี้ ก็ให้ความสนุกสนาน .ถ้าทุกคนเล่น เจกี เตะได้ถึง 7ครั้งนะ!!!


Map

ที่อยู่ : 2048, ชองพุงโฮ –โร , ชองพุงมยอน, เจชอนชิ,ชุงชองบุคโด (충청북도 제천시 청풍면 청풍호로 2048)

เบอร์โทรศัพท์ :043-647-7003




메종드파스타, 이탈리안레스토랑, 청풍문화재단지, 문화재, 청풍호, 살구, 청풍한벽루, 고택, 샐러드, 파스타, 피자, 커피, MaisondePASTA, ItalianRestaurant, Cheongpung, CulturalPropertiesComplex, CulturalProperties, CheongpunghoLake, Apricots, Hanbyeokru, Oldhouse, Salad, Pasta, Pizza, Coffee, メゾン·ド·パスタ, イタリアンレストラン, 清風文化財団地, 文化財, 清風湖, アンズ, 淸風寒碧樓, 古宅, サラダ, パスタ, ピザ, コーヒー, 意大利餐厅, 清风文物园区, 文化遗产, 清风湖, 杏子, 清风寒碧楼, 古宅, 沙拉, PASTA, 比萨饼, 咖啡, Maisondeพาสต้า, ร้านอาหารอิตาเลียน, Cheongpungวัฒนธรรมคุณสมบัติ, มรดกทางวัฒนธรรม, cheongpungho, แอปริคอท, hanbyeokru, gotaek, สลัด, พาสต้า, พิซซ่า, กาแฟ
一行コメント(2) 
PDF
ブックマーク
電子メール
0bytes / 200bytes
リスト表示