วัดBoeun Beopjusaพิพิธภัณฑ์แห่งศิลปะและวัฒนธรรมเกาหลี 법주사
วัดBeopjusa มีประวัติอันยาวนานตั้งอยู่ที่ตีนเขาSongnisan ถูกสร้างในสมัยของกษัตริย์Jinheung ใน Silla. มันยังมีสมบัติแห่งชาติอยู่สามอย่างและทรัพย์สินที่สำคัญอยู่12อย่างและเคยเป็นที่เก็บรักษา พระราชวัง60วังและวัดเล็กๆ70 วัดแต่พวกมันส่วนใหญ่ได้ถูกย้ายออกไปในช่วงสงครามมีเพียงแค่30แห่งเท่านั้นที่เหลืออยู่ตามPalsangjeon, ต้นแบบของหอไม้,มันสนุกที่ได้มองหาสมบัติและสมบัติแห่งชาติต่างๆไปทีละแห่ง.พวกเราไปชมสิ่งต่างๆที่หาได้ที่นี่กันมั้ย?
ถ้าคุณอยากเข้าไปด้านใน,พวกเขาจะเก็บค่าเข้าชม4,000 วอนสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งคน.
มีป้ายที่มี Hoseojeilgaram เขียนอยู่บนเสาหนึ่งของประตูในBeopjusa.มันมีความหมายว่าที่นี่คือวัดพุธที่ดีที่สุดใจังหวัด Chungcheongnam-do และ Chungcheongbuk-do.มาลองดูกันว่ามันถูกมั้ย.
หลังจากที่เดินมาได้ประมาณ900m จากสำนักงานขายตั๋ว,คุณก็จะเห็นทางเข้า.ข้ามสะพาน,แล้วคุณก็จะถึงวัดBeopjusa.
ลำห้วยทั้งหมดในเขตนี้นั้นคนไม่สามารถเข้าไปได้แต่ลำธารทางด้านหน้าของวัดเท่านั้นที่คนสามารถเข้าไปได้.อย่างไรก็ตาม,คุณอาจจะต้องจ่ายต่าปรับถ้าจับปลาหรือหอยเหมือนอย่างที่ผมอธิบายเกี่ยวกับทางเดินป่าSongnisa.
ทันทีที่ผมเข้าไปในวัด,สีสีนที่สดใสของดอกบัวที่เชื่อมต่อกับประตูวัดถวายต่อเทวาทั้งสี่นั้นห้อยอยู่เป็นทาง.
บวกกับ,มีพระพุทธรูปมหึมาGeumdongMireukDaebul อยู่ทางด้านซ้าย.นี่คือพระศรีอริยเมตรัยที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกซึ่งสูงถึง 33m.คุณจะอึ้งที่ได้เห็นขนาดของสิ่งนี้.
ทางด้านขวาของGeumdongMireukDaebul, คุณสามารถเห็นSeokyeonji(石蓮池) เล็กๆที่ดูเหมือนดอกบัวซึ่งถูกตัดสินให้เป็นสมบัติแห่งชาติ No.64. Seokyeonjiคือบ่อน้ำเล็กๆที่มีรูปร่างเหมือนดอกบัวสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Sejong, แห่งราชวงศ์Joseon.ดอกบัวนั้นลอยอยู่ในสระเพราะว่ามันเป็นเครื่องหมายของสรวงสวรรค์ในศาสนาพุทธซึ่งสามารถเห็นได้หลายรูปแบบในวัดที่เลียนแบบรูปนี้.
สถานที่ที่น่าประทับใจที่สุดในวัด Beopjusa คืออาคารแห่งนี้มีชื่อว่าPalsangjeon(八相殿).อาคารนี้ได้ถูกสร้างในสมัยกษัตริย์ Jinheung ของSilla ซึ่งได้มีการถูกทำลายระหว่างการครอบครองของญี่ปุ่นแต่หลังจากนั้นก็ได้สร้างขึ้นใหม่ในสมัย Joseonโดยกษัตริย์ Injo.มันห้ามถ่ายรูปด้านในซึ่งผมก็ไม่ได้ถ่ายแต่ถ้าคุณเข้าไปด้านใน,จะมีภาพวาดอยู่ 8ภาพ แสดงถึงชีวิตของ Sakyamuni บนผนังทั้ง4ด้านและนั่นก็ทำไมมันจึงถูกตั้งชื่อว่า'Palsangjeon'. มันเป็นแค่ตัวอย่างของหอไม้ของเกาหลีและหอทีู่งที่สุดก็สูงถึง 22.7m.
ผมขอให้ความสุขและสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนผู้ซึ่งอ่านสิ่งนี้อยู่.
Palsangjeon และ GeumdongMireukBosal นั้นดูดีมากด้วยกัน,ใช่มั้ยล่ะ?
คุณควรจะมองสิ่งก่อสร้างเล็กๆในสวนดีๆ.ตะเกียงหินอันนี้เรียกว่าSsangsajaseokdeung(雙獅子石燈) ซึ่งมันคือสมบัติแห่งชาติชิ้นหนึ่ง.มันถูกสร้างในยุคการรวมตัวของSilla และ สิงโตนั้นก็ค้ำจุนตะเกียงหินอยู่.ในหมู่ทรัพย์สินที่แกะสลักเป็นรูปสิงโต,อันนี้เป็นอันที่เก่าและหายากที่สุด.
.
ทางด้านหลังของมะกอกน้ำมันที่ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้,ผมสามารถที่จะเห็นDaeungbojeon(大雄寶殿).
เหล่าดอกไม้บบานตามต้นมะหลอดฤดุหนาวและเหล่าฝูงผึ้งก็ห้อยอยู่บนกิ่งของ2ต้นไม้ใหญ่ๆ.เข้าไปตรงใต้ต้นไม้,ผมสามารถได้ยินเสียงผึ้งหึ่งๆ.นั่นเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างไม่เหมือนใคร..
Daeungbojeonได้ถูกจัดให้ป็นสมบัติแห่งชาติ No.915.เหมือนกับPalsangjeon, มันได้ถูกสร้างในสมัยSilla แต่ได้ถูกเผาในช่วงญี่ปุ่นเข้ายึดครองและได้คงอยู่จนถึงปัจจุบันเนื่องจากได้สร้างใหม่ในปีที่สองในการครองราชย์ของกษัตริย์ Injoinในสมัย Joseon.มันเป็นอาคารสูง 19mและเป็นหนึ่งในสามตัวแทนของสถานที่ศักดิ์สิทธของชาวพุทธในเกาหลีคู่ไปกับGuekrakjeon(หอสวรรค์) ของMuryangsa และGakhwangjeon ของ Hwaeomsa.ืภายในของมัน,มีSojobuljwasang(塑造佛坐像) สูง5.5m ,สมบัติNo. 1360. มีสมบัติอยู่ในสมบัติอีกอันหนึ่ง!
คุณคิดว่านี่คืออะไร?มีถ้วยใหญ่ๆที่ทำจากเหล็กอยู่ในสวนของวัด.นี่มันsot(กระทะแบบเกาหลีที่ทำจากเหล็ก) ขนาดใหญ่มาก เรียกว่า Cheolhwak(鐵鑊)ซึ่งเคยใช้ต้มซุปเต้าเจี้ยวสำหรับพระกว่า3,000 รูป ผู้ซึ่งเคยอาศัยอยู่เมื่อตอนที่วัดBeopjusa นั้นเฟื่องฟู.สิ่งนี่มาจากสมัยของการรวมตัวของSilla เนื่องจากเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี(สูง1.2m,เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7m, เส้นรอบวง 10.8m). โอ้, Cheolhakได้ถูกจัดให้เป็นสมบัติNo. 1413.
ที่ในสวน,อย่างไรก็ตาม,มีเสาที่ดูเหมือนแท่งตั้งอยู่สูงเสียดฟ้าอย่างไม่คาดคิดอีก.นี่เรียกว่าDangganjiju (幢竿支柱),และDanggan หมายถึงChal(刹; วัด)และวัดก็ถูกเรียกว่าSachal(寺刹; วัดพุทธ).อย่างนั้น,'Chal(刹) =Dangganนั้นได้ถูกสร้างบน Jeol(寺), ซึ่งหมายถึงวัดของชาวพุทธ'Sachal'.
ไปเดินเล่นกันในวัดที่เงียบๆและสวยๆกันเถอะ.มันมีสมบัติอยู่มากมายและสมบัติแห่งชาติที่ผมไม่สามารถก้าวเดินโดยไม่มองอะไรเลย.
มีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางของป่า.ถ้าคุณมองที่คนที่อยู่ตรงนั้น,คุณจะสามารถเดาได้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน.
มันเหมือนกับว่ามีอะไรซักอย่างในหินใหญ่ทั้ง3 ก้อนนั้น.ตัวผมเองไม่ได้นับถือศาสนาใดๆแต่ผมก็ลองที่จะสวดมนต์นิดหน่อยและใส่เงินลงในแต่ละกล่องเพื่อบำรุงศาสนาซึ่งนี่ก็ไม่ใช่การยกเว้น.
ผมพบจิตรกรรมฝาผนังอยู่ที่ด้านหนึ่งของหินใหญ่.นี่คือMaeyeoraeuisang(磨崖如來倚像),สมบัติ No.216. นี่เป็นภาพวาดตัวแทนของพระศรีอารยเมตตรัยในสมัย Koryo,ภาพของพระพุทธเจ้านั้นถูกแกะสลักจากแผ่นหินธรรมชาติ.ตั้งหันหน้าเข้าหากันบนดอกบัวนั้นน่าประทับใจจริงๆ.
Jijangbosalsang(地藏菩薩像) นั้นถูกสลักลงบนหินที่พิง Maeyeoraeuisang อยู่. Jijangbosal คือพระโพธิสัตว์ที่ช่วยเหลือมนุษย์ที่ทุกข์ทรมานอยู่ในอเวจี.ถ้าคุณคนไหนอาจจะมีบรรพบุรุษที่กำลังทรมานอยู่ในนรก,คุณควรจะสวดมนต์จากใจให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือเหมือนอย่างที่ผมกำลังสวดมนต์ให้กับพวกคุณ.
มีหินอยู่สามก้อนและผมเห็นน้ำแร่ไหลออกมาจากช่องระหว่างหิน.น้ำนั้นเย็นซึ่งทำให้ผมสวาปามมันเข้าไป.ผมค่อนข้างที่จะหิวน้ำดังนั้นน้ำก็มีรสชาติที่ดีมากๆ.
ผมไม่รู้ว่าพวกมันมาจากที่ไหนแต่มันมีหินรูปร่างแปลกๆและประหลาดตั้งอยู่อย่งไม่มีที่มาที่ไปรอบๆวัด Beopjusa.ความลี้ลับและจิตวิญญาณที่งดงามทำให้ผมเข้าใจว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งเล็กๆเมื่อเปรียบเทียบกับขุนเขาและธรรมชาติ.ถ้าคุณเดินอยู่ที่ภูเขา Songnisanหรือทริป Boeun,คุณน่าจะมาที่นี่.ผมอยากให้คุณมาที่นี่จริๆ.
ที่อยู่ : 209, Sanae-ri, Songnisan-myeon, Boeun-gun, Chungcheongbuk-do (충청북도 보은군 속리산면 사내리 209)
YonggungSundaeGukbap และ OjingeoBulgogi รสเลิศ, ร้านอาหารที่ต้องไปชิมในBoeun, 'Yonggung Sikdang'' 용궁식당
เมื่อคุณกูเกิลหาร้านอาหารที่ต้องไปชิมในBoeun,ร้านที่เป็นที่นิยมที่สุดคือร้าน Yonggung Sikdang แห่งนี้,และอาหารกอร่อยจริงๆแต่มันก็ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นเมื่อได้ออกรายการดังๆ.ซึ่งที่นี่เป็นสาขาของร้านYonggung ในYonggung-myeong, Yecheon-gun,ซึ่งเป็นที่รู้จักกันสำหรับSundae,และเนื่องจากเราได้ลองมันแล้วในYecheon เมื่อปีที่แล้ว,พวกเราจึงตัดสินใจที่จะมาที่นี่อีกในBoeun.
Yonggung Sikdang(ร้านอาหาร) ตั้งอยู่ที่Balsin-ri, Suhan-myeon, Boeun-gun, และมันก็ค่อนข้างไกลจากอุทยานแห่งชาติ Songnisan, สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในBoeun,หรือจากในเมือง.
มันมีชื่อเสียงแต่ก็ยังตั้งอยู่ที่เงียบและสบายในนอกเมืองซึ่งคุณจะต้องมองหาป้ายบอกทางอย่างระมัดระวัง.ร้านอาหารนั้นซ่อนอยู่กลางผืนฟาร์มซึ่งทำให้เห็นมันค่อนข้างยากจากริมถนน.
วันธรรมดาที่ไม่มีนักท่องเที่ยว!บวกับ,พวกเราไปถึงที่นั่นประมาณบ่ายสามโมง.ซึ่งร้านอาหารนั้นก็ว่าง, และร้านก็ไม่มีกลิ่นเหม็นของมันที่เราสามารถได้กลิ่นจากร้าน Sundae ร้านอื่นๆ.
นี่คือเมนูที่Yonggung Sikdang. อาหารจานหลักคือ Yeontanguiซึ่งมี ปลาหมึก,เนื้อและเครื่องในหมูที่ย่างและเสริฟ และ Sundae ที่ทำจากบะหมี่Yonggung จากYecheon-gun. ซึ่งเราได้สั่ง Ojingeobulgogiมา1ที่และSundaegukbap 1ถ้วย.
อาหารทั่วๆไปนั้นเรียบร้อย.มี1-2อย่างที่เสริฟมากกว่าร้าน Sundaeguk( ซุปไส้กรอกเกาหลี) ปกติ.
อาหารจานปกติที่ผมชอบมากที่สุดคือkkakdugi. Kkakdugi นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลืมที่จะสั่งเวลาเราสั่ง seolleongtang, galbitang หรือ sundaegukbap ซึ่งทั้งหมดก็จะมีซุปขาวๆ.เผ็ดกำลังดีและ kkakdugi เย็นๆกับรสชาติหวานหน่อยๆมันอร่อยมากๆเลยล่ะ.
ขณะที่พวกเรากำลังรออาหารจานหลักหลังจากอาหารว่างได้ถูกเสริฟ,พวกเราได้เดินดูรอบๆร้านและเจอร่องรอยของคนดังต่างๆที่เคยมาที่นี่.นักแสดงหญิงจากละครทีวีเรื่องโปรดของผม'Rude Young-ae', Gim Hyeon-suk, ก็เคยมาที่นี่เหมือนกัน.มันทำให้ผมเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับรสชาติของอาหาร.
อาหารหลักจานแรกที่ถูกเสริฟคือOjingeobulgogi. ผมคิดว่ามันไม่น่าจะพอสำหรับ1คนจากที่มองแต่ส่วนผสมส่วนใหญ่คือปลาหมึกผักน้อยซึ่งถ้าคุณสั่งข้าวถ้วยใหญ่,คุณจะเชื่อได้เลยว่ามันสำหรับ2คน.
เหตุผลที่ทำไมร้านนี้มีชื่อเสียงสำหรับgui(อาหารย่าง) ก็เพราะว่าพวกเราย่างมันด้วยตะแกรง.ผมยังไม่ได้ลองกัดดูแต่กลิ่นของซอสย่างก็ทำให้ผมน้ำลายสอขึ้นมาทีเดียว.
เมื่อคุณทอดมันบนกระทะ,มันทำให้เกิดน้ำแต่นี่ไม่มีซอสเลยแต่ปรุงรสอย่างดีกับรสเผ็ด,หวานและเค็มเล็กน้อยน่าจะเป็นเพราะว่ามันถูกย่างบนตะเเกรง.และปลาหมึกก็หนาเกินไปเมื่อคุณทอดมันนานแต่อันนี้ทอดได้อย่างพอดี,นุ่มและละมุน.ที่มากที่สุด,ผมไม่สามารถบอกถึงรสชาติของปลาหมึกที่ย่างบนตะแกรงได้,มัน......อร่อยมาก!
Kkakdugi และกิมจินั้นก็อร่อยจริงๆที่ร้านนี้ซึ่งผมก็กินข้าวจนหมดถ้วยแค่Ojingeoyeontangui กับข้าวที่หุงอย่างดี.
อย่างที่สอง, Sundaegukbap.ดั้งเดิมนั้น,ร้าน Yonggungมีชื่อเสียงสำหรับ Sundae แต่Yeontangui นั้นอยู่ดีๆก็ได้รับความนิยมมากกว่า.
มันกลิ่นเหมือนกับเครื่องในหมูนิดหน่อยซึ่ผู้หญิงบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่ารังเกียจ.อย่างไรก็ตาม,ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นอาหารที่น่ารังเกียจ,คุณก็คงจะไม่สั่งมัน!!ซุปข้นๆมีรสชาติที่ลึก,กลมกล่อมและเต็มรส.
ผมเช็คดูข้างในซุปและมันเต็มไปด้วยSundae, เนื้อหัววัวสไลด์ และส่วนผสมอื่นๆ.คิดดูซะว่าราคา5,000 วอน รวมข้าวนั้น,พวกเขาใจดีทีเดียว.
คุณรู้ว่า Sundaegukbap นั้นรสชาติดีเมื่อทำให้เค็มด้วยกะปิ,ใช่มั้ย?ผมใส่ซอสพริกลงไปหนึ่งช้อนซึ่งเสริฟมาพร้อมกับซุปเพื่อเพิ่มความเผ็ดและใส่ข้าวลงไปถ้วยหนึ่ง,มันรสชาติอร่อยมาก.เนื้อที่ต้มอย่างดีนั้นนุ่มและ Sundaeในซุปก็หนึบๆ,ไม่ต้องพูดถึงรสชาติที่ลึกของซุปเลย.
อาหารที่อร่อยยังไงก็อร่อยแม้ว่าคุณจะผสมมันกับอาหารอื่นหรือกินมันอย่างเดียว.ด้วย Sundaegukbapช้อนหนึ่งกับOjingeo Bulgogi หนึ่งชิ้นก็ทำให้วันนี้ของผมช่างดีจริงๆ.
ผมพนันว่าทุกคนรัก Yonggung Sikdangเพราะว่าเราสามารถกินอาหารอร่อยๆจนเราอิ่มด้วยราคาที่เหมาะสม.Sundaegukbap นั้นอร่อยและอัดแน่นแต่ผมแนะนำให้คุณลอง YeontanJikhwagui(เนื้อย่างบนตะแกรง)ที่นี่ซึ่งไม่สามารถหารสชาตินี้ได้ที่ไหนในเมืองในสมัยนี้.
ที่อยู่ : 99-4, Balsan-ri, Suhan-myeon, Boeun-gun, Chungcheongbuk-do (충청북도 보은군 수한면 발산리 99-4)
โทรศัพท์ : 043-542-9288
เวลาทำการ:ปิดทุกวันจันทร์ที่สองและสี่ของเดือน,เวลาเบรกจากบ่ายสามถึงห้าโมงเย็น.เพื่อเตรียมโต๊ะเวลาที่ร้านยุ่งรวมถึงวันหยุดต่างๆดังนั้นจองโต๊ะก่อนที่จะมา.
