การสิ้นสุดของประวัติศาสตร์ของ Mungyeongและความอาลัยอาวรณ์ที่พิพิภัณฑ์ถ่านหิน.
ตอนนี้พวกเรากำลังไปที่พิพิธภัณฑ์ถ่านหินMungyeong ในGaeun-gup, Mungyeong. Mungyeong-si มีเหมืองถ่านหินที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเกาหลีและเริ่มพัฒนา'เหมืองถ่านหินชนิดแข็งEunseong ' ตั้งแต่ปี1938 สมัยญี่ปุ่นเข้ายึดครอง.ตั้งแต่นั้น,พวกเขาขุดถ่านหินเป็นเวลาเกือบ60ปี แต่ความต้องการนั้นเริ่มที่จะลดลงและปิดเหมืองในปี1994. ทางประวัติศาสตร์,ประโยชน์ที่ถ่านหินให้แก่พวกเราคือเชื้อเพลิงนั้นมากมายเหมือนเป็นของขวัญจากพระเจ้าและที่นี่ในพิพิธภัณฑ์,คุณสามารถเห็นขั้นตอนทุกขั้นตอนของการขุดถ่านหินและผลิตถ่านหินกลมหรือถ่นหินรีเช่นเดียวกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคนงานเหมืองและชีวิตของพวกเขาก็เกี่ยวข้องกับถ่านหิน.
โอเค,งั้นเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ถ่านหินกันเถอะเพื่อดูว่ามีอะไรในนั้น.ผมโตแล้วแต่ก็ยังขี้สงสัย.
เกี่ยวกับตั๋ว,อย่างที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้ตอนที่ผมพูดถึงสถานที่ถ่ายทำGaeun,คุณสามารถซื้อตั๋วทั้งสองที่ด้วยกันเพียง 2,000วอน.พวกเขาจะไม่ขายแยก,แต่ขายเป็นแพ็คเกจเดียวดังนั้นอย่าลืม.
อย่างไรก็ตาม,ถ้าคุณวางแผนที่จะไปสถานที่ถ่ายทำGaeunโดยรถราง,คุณจะประหยัดถึง1,000 วอนโดยซื้อตั๋วที่ห้องขายตั๋วรถรางตรงข้างรถรางดีกว่าซื้อตรงหน้าพิพิธภัณฑ์ถ่านหิน.พวกเขาจะลดราคาให้1,000 วอนสำหรับตั๋วทั้งสองที่ถ้าคุณใช้รถราง.ดังนั้นสำหรับผู้ที่อยากจะไปสถานที่ถ่ายทำ Gaeunด้วยรถราง,อย่าลืมที่จะซื้อตั๋วที่'ห้องขายตั๋วสำหรับรถราง'.
โอเค,ตอนนี้พวกเราอยู่ในพิพิธภัณฑ์ถ่านหินแล้ว.ในสนาม,อุปกรณ์ขุดถ่านหินเก่าๆได้ถูกจัดแสดงไว้.
เหมืองถ่านหินนั้นแคบ,และทางและรถไปก็เหมือนกัน.
เด็กๆน่าจะชอบที่นี่ถ้าพวกเขาลองมาดู.บวกกับ,คนเก่าแก่จะเล่าเรื่องให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับสมัยก่อนซึ่งเด็กๆและคนแก่ๆทั้งคู่ก็จะรู้สึกดีไปด้วยกัน.
ทางด้านซ้ายของทางเข้า,พวกเขาได้สร้างบ้านของคนเหมืองที่เคยอยู่ขึ้นมาใหม่.ผมจะลองเข้าไปในนี้ก่อน.
นี่คือที่ที่พวกเขาสร้างบ้านและร้านค้าในตำบลที่สำนักงานเหมืองEunseong เป็นเจ้าของในปี1960s ถึง 1970s.ขึ้นมาใหม่.พวกเขาใช้ตุ๊กตาและสิ่งของต่างๆเพื่อแสดงถึงว่าชาวเหมืองเคยอยู่ยังไงซึ่งสนุกและน่าประทับใจ,และมันก็ดูเหมือนจริงมากๆตอนที่ได้ยินเสียงของผู้คนที่ฉายในทีวีตอนนั้น.
ผู้ชายคนนี้จะต้องดื่มmagolli กับ samgyupsalในบาร์เก่าๆหลังเลิกงาน.
ตอนที่ผมเป็นเด็ก,ร้านขายบุหรี่ทุกร้านในเมืองดูเหมือนอย่างนี้.ผมยังจำได้ที่สูบCheongjaและ Baekja ในตอนอายุราวๆ 20.แน่นอนผมไม่ได้สูบบุหรี่อีกต่อไปแล้ว......
นี่น่าจะเป็นร้านเล็กๆในเมือง.ผมเห็นสิ่งที่ผมไม่ได้เห็นมานาน.หมากฝรั่งล็อตเต้,และHaitai! ถ้าคุณมองมันใกล้ๆ,มีjjonduigiและbravo-cone.ว้าว,นี่มันนำผมกลับไปยังสมัยก่อน.
ผมสามารถจินตนาการที่ทุกคนอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆกับห้องเล็กๆและครัวในนั้นใกล้กับเหมือง.เมื่อตอนผมเป็นเด็กราวๆปี1970s, ไม่นานนักจากตอนนี้,คนส่วนใหญ่อศัยอยู่ในบ้านที่มีห้องเล็กๆและห้องครัวขนาด1-pyeong .ผมจำได้ว่ามันเป็นเพราะว่าเราเรียกเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มี2ห้องหรือ2ชั้นว่าคนรวย.
มันเจ็บปวดถ้าจะนึกถึงแม่ของพวกเราในสมัยก่อนเมื่อตอนยังไม่มีทีวี,เครื่องซักผ้าหรือหม้อหุงข้าวไฟฟ้า.ผมหวังว่าทุกคนรวมถึงเด็กๆที่ได้มาที่นี่จะรู้ึก,ตอนที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่,ที่พวกเราอยู่อย่างสบายๆทั้งหมดนี้เพราะพ่อแม่ของพวกเราได้ทำให้พวกเรามีผลประโยชน์ในปัจจุบันนี้.
ผมจำนี่ได้ใบอนุญาติ "เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์".เมื่อตอนมีทีวีที่บ้าน,พวกเราต้องจ่ายค่าลงทะเบียน1,000 วอนสำหรับทีวี.ในปัจจุบัน,มันรวมอยู่กับค่าไฟแต่ว่าเมื่อตอนนั้น,จะมีคนมาเพื่อเก็บเงินเหมือนบางคนมาที่บ้านเพื่อเก็บเงินค่าหนังสือพิมพ์.คนจนๆที่ไม่สามารถจ่ายได้ก็จะรีบซ่อนโทรทัศน์เมื่อตอนมีคนมาเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับทีวี.ผมบอกได้ว่า 1,000 วอนตอนนั้นในยุค 70sนั้นค่อนข้างเป็นจำนวนที่สูง,เทียบกับตอนนี้ก็ประมาณ สามถึงสี่หมื่นวอน.
มันถึงเวลาที่จะเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ถ่านหิน Mungyeongแล้ว.มีรูปแกะสลักที่น่าประทับใจตั้งอยู่ตรงทางเข้า.
ในห้องจัดแสดงที่ชั้นสอง,พวกเราสามารถเห็นต้นกำเนิดของถ่านหิน,แร่ธาตุและฟอสซิล จัดแสดงอยู่มันช่วยให้พวกเราเข้าใจถ่านหินทั่วๆไป.คุณเห็นประกายด้านบนมั้ย?นั่นคือแร่ที่มีส่วนผสมของทองและเงินอยู่.
ผมพบว่ามันมีถ่านหินอยู่หลายแบบ,ไม่ใช่แค่แบบเดียว.ผมแปลกใจนิดหน่อยและมันก็น่าสนใจ.
มีฟอสซิลจริงๆจัดแสดงอยู่และก็เรื่องตลกๆของพวกมันด้วย.
ผมเจอแร่อมิทิสก้อนยักษ์และสังเกตุเห็นว่ามีหินหยาบๆอยู่หลายชนิดที่ทำเป็นอัญมณีได้.ผมเดาว่าเมื่อพวกเขาเจอหินหยาบก้อนใหญ่ขนาดนี้มันจะต้องอยู่ในพิพิธภัณฑ์เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นมัน.
มีถ่านหินสำหรับเตา,ถ่านหินสำหรับช่างทองเหลืองและถ่านหินที่ใช้แล้วในยุคก่อน.ผมสามารถเห็นที่ขนถ่านหิน,22ถ่านหินนั้นส่วนใหญ่ใช้ในบ้านในยุค70sถึง 80s,และถ่านหินรีนั้นไว้ใช้ในเตาที่บริษัทหรือโรงเรียน.
พวกเขาโชว์การเอาถ่านหินออกโดยใช้เตรื่องมือจากในยุคเก่า.โอเคถ้างั้น,เข้าไปในเหมืองถ่านหินจริงๆกันเถอะ.
ท้าด๊า!นี่คือเหมืองEunseong จริงๆด้านหลังของอาคารพิพิธภัณฑ์'Gaeng' คือคำย่อของGaengdo(坑道) ซึ่งหมายถึงอุโมงค์ที่ถูกขุดใต้ดินเพื่อขุดถ่านหิน.ในจุดๆนี้,พวกเขาเคยขุดถ่านหินจนถึงปี 1994. ความลึกของเหมืองนั้นประมาณ800 m และ ความยาวของที่ที่ใช้ขุดถ่านหินนั้นประมาณ400 km.พวกเราเข้าไปดูข้างในกันมั้ย?
อากาศข้างนอกนั้นร้อนแต่ข้างในนี้เย็น.ผมเดาว่ามันจะต้องเย็นในช่วงหน้าร้อนและอุ่นในช่วงหน้าหนาว.
มีตุ๊กตาหุ่นขี้ผึ้งจัดแสดงในที่ที่พวกเขาเคยทำการขุดถ่านหินตามเหมืองซึ่งทำให้พวกเราได้เห็นถึงว่าพวกเขาอยู่ในเหมืองกันอย่างไร.
คุณจะสามารถเห็นได้ว่ามีหลุมใหญ่ๆอยู่ใต้ดิน.มันค่อนข้างจะน่ากลัวแต่ถ้าต้องนึกถึงชาวเหมืองที่ต้องเข้าไปในนั้นทุกวัน,มันจะต้องมีปัญหาและงานที่หนักทุกวัน.ผมรู้สึกถึงไอเย็นๆออกมาจากข้างในหลุม.น่ากลัว!
ผู้คนสามารถใช้ถ่านหินอุ่นๆทั้งหมดก็เพราะว่าชาวเหมืองที่ยากลำบาก,เสี่ยงชีวิตอยู่ในแก๊สอันตรายภายใต้ความเสี่ยงของการถล่มและพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยความหลงไหลทั้งๆที่พวกเขาต้องกินข้าวกล่องในความมืด,คุณคิดเหมือนกันมั้ย?ที่นี่ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณแก่ชาวเหมืองและนึกถึงถ่านหินที่ผมไม่ได้สนใจมากนักเนื่องจากมันหาและใช้ง่าย.พิพิธภัณฑ์มีหลายสิ่งหลายอย่างน่าสนใจซึ่งผมก็อยากแนะนำให้คุณมาที่พิพิธภัณฑ์ถ่านหินMungyeong ถ้าคุณมีโอกาสได้มายังMungyeong.
ที่อยู่: 432-5, Wangneung-ri, Gaeun-eup, Mungyeong-si, Gyeongsangbuk-do (경상북도 문경시 가은읍 왕능리 432-5)
โทรศัพท์: 054-550-6424 / 571-2475