Bongjeongsa(วัดBeongjeong )
หลังจากที่ได้พักจากการขับรถนานๆ,ผมได้ออกไปยังBongjeongsaตอนบ่ายแก่ๆ. Bongjeongsaมีช่อเสียงสำหรับGeungnakjeon(แสงสวรรค์),อาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของเกาหลี.มันดูเหมือนDaeungjeonฮอลล์ ( วัดหลัก)จะเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดชนะGeungnakjeonเร็วๆนี้ ตามที่หนังสือที่ทำจากไม้ซึ่งได้ถูกค้นพบในระหว่างการซ่อมบำรุงหลังคาเมื่อปี2000.
Bongjeongsaเป็นวัดเล็กๆที่ตั้งอยู่ในภูเขาCheondeung แต่ผมสามารถพูดได้ว่านั่นเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ทำให้ผมรู้สึกถึงเสียงสะท้อนข้างในด้วยความรู้สึกถีงธรรมชาติและความงามของรูปทรงเมื่อผมได้เดินเข้าไปในวัด.
ผมยังจำได้ถึงเมื่อตอนที่ผมได้เห็นราชินีอลิซาเบทในหมู่บ้านชาวHahoeในอันดงและBongjeongsaในครั้งแรกที่เธอมาที่เกาหลี.
ในการไปยังDaeungjeonฮอลล์ของBongjeongsa,คุณต้องเดินข้ามส่วนล่างของManseruแบบนี้มันจะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณกำลังไปสู่อีกโลกหนึ่งจากโลกนี้.
ผมก้าวขึ้นบันไดที่นำไปสู่Daeungjeonฮอลล์,ผมไดเผชิญหน้ากับโลกใบใหม่ทีละนิดทีละนิด.
บนหลังคาของอาคารต่อไปของManseru,ซึ่งตั้งอยู่ด้านของDaeungjeon ฮอลล์อันเงียบสงบ,ผมเจอเจ้านกตัวน้อยอยู่กับที่ซักพักกับแมลงในปากของมันสำหรับลูกนก.มันไม่ใช่สิ่งผิดปกติในสถานที่ที่เงียบสงบแห่งนี้,เหล่านกนั้นไม่กลัวคนและที่วนไปวนมารอบๆพวกมันและนี่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น.
มันเป็นประสบการณ์ที่ดีเสมอที่ได้เห็นวัดก่อนที่จะเป็นวันเกิดของพระพุทธเจ้า,และรูปทรงที่ประณีตแะสีสันของโคมไฟกระดาษที่ห้อยอยู่ที่นี่ทำให้ดูน่าลุ่มหลงมากขึ้น.กลีบทุกกลีบของดอกบัวกระดาษนั้นดูเหมือนจริงมากๆ.
BongjeongsaGeungnakjeon( แสงสวรรค์),อาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในเกาหลีและเป็นสมบัติแห่งชาติหมายเลขที่15,ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี1200s.
โคมไฟดอกบัวที่ด้านหน้าของGeungnakjeonนั้นสีขาวเพื่อสื่อถึงความตาย.
นี่คือด้านในของ Daeungjeon.เหล่าดอกบัวกระดาษห้อยอยูเป็นระเบียบทั้งสองด้านของพระพุทธรูป,และมีรูปภาพของคนตายอยู่ทางด้านซ้าย.
พระพุทธรูปนี้เป็นของพระจากวัดอื่นและได้นำมาไว้ที่นี่ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมเนื่องจากเขื่อนอันดง.ฐานของพระพุทธรูปนั้นพังและหน้าของพระพุทธรูปบางส่วนมีคราบเกืดขึ้นจากตอนเคลือบด้วยสัมฤทธิ์โดยเจ้าของเดิมซึ่งผมรู้สึกเสียดายที่มันดูไม่กลมกลืนกับหินอ่อนเนื่องจากมันรู้สึกไม่ธรรมชาติ.
ความไม่เข้ากันระหว่างรั้วทางด้านหน้าของGeungnakjeonและสีของโคมไฟดอกบัวนั้นดูงดงาม.
นี่คือวิวของManseruถ้ามองจากทางสวนด้านหน้าของ Daeungjeon.โคมไฟดอกบัวที่น่าหลงใหลทำให้วิวทิวทัศน์ที่แจ่มใสผสมผสานกับตวามงามที่เรียบง่ายของManseru.
ส่วนที่ดีที่สุดคือผมได้เห็นManseruทางบันไดหน้าของ Daeungjeonและมันทำให้ผมไดเห็นความสวยงามที่แท้จริงของสถาปัตยกรรมโบราณของเกาหลีซึ่งเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย.
มันสวยงามจนคนได้พยายามที่จะเก็บความทรงจำของการดูโคมไฟดอกบัวอันงดงาม.พวกเขาต้องพยายามมองหาโคมไฟดอกบัวที่พวกเขาได้เขียนคำอธิษฐานลงไป.
หนึ่งลักษณะสำคัญของอาคารแบบเกาหลีคือที่พวกเขาจะทำให้พวกเราเห็นธรรมชาติเหมือนกับเราได้เอาวิวทิวทัศน์เก็บใส่กรอบไว้.ความรู้สึกถึงความงามของบรรพบุรุษของพวกเราที่น่าจดจำนั้นที่พวกเขาได้พยายามที่จะกลมกลืนกับธรรมชาติ.
ดอกทิวลิปสีเหลืองนั้นบานเต็มที่อย่างเย้ายวนอยู่ในสวนด้านหน้าของDaeungjeon.
มีโคมไฟดอกบัวสีแดงอยู่ตามทางทั้งสองข้างที่ชายคาของDaeungjeonและที่ที่ชายคาของอาคารมาบรรจบ.
เวลาที่ผมไปวัด.ผมพยายามที่จะดูที่หลังคาเพราะสีสันที่สดใสของดอกไม้ส่วนใหญ่นั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจในรูปกับหลังคาที่มีสีเทาดำ.บนหลังคาของ Manseru,ต้นไม้เล็กๆกับใบสีฟ้านั้นก็ขึ้นอยู่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ.
ทางออกของBongjeongsa ตอนพระอาทิตย์ตกดินมันมีความงามที่ดูลึกลับที่คุณสามารถรู้สึกได้เฉพาะเวลาที่คุณเดิน,ไม่ใช่ในรถ.
ที่อยู่: 901, Taejang-ri, Seohu-Myeon, Andong-si, Gyeongsangbuk-do,เกาหลี